ว่ากันว่า หากพนักงานมีความสุขกับการทำงาน ผลงานที่ออกมาก็จะมีคุณภาพตามไปด้วย หลากหลายวิธีการสร้างความสุขให้พนักงาน มีตั้งแต่สวัสดิการดีๆ เงินเดือนที่น่าพอใจ ความก้าวหน้า วัฒนธรรมองค์กร รวมถึงการได้อยู่ในออฟฟิศที่มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่ใช่ ก็ส่งผลต่อความสุขและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้เช่นกัน

มีงานวิจัยหลายต่อหลายชิ้นที่บอกตรงกันว่า สภาพแวดล้อมภายในที่ทำงาน มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน อารมณ์ สมาธิ และความสุขของพนักงาน อย่างผลสำรวจของ Adobe ในปี 2016 เปิดเผยว่า องค์กรที่ลงทุนตกแต่งออฟฟิศ เพิ่มพื้นที่พักผ่อนให้พนักงาน จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานเพิ่มขึ้นได้ถึง 87% เพิ่มปริมาณความสุขได้อีก 76% และยังช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานได้อีกด้วย

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว อย่าปล่อยให้ออฟฟิศของคุณเฉิ่มเชย มาเติมความสุขและกระตุ้นต่อมความคิดสร้างสรรค์ให้พนักงาน ด้วยเทคนิคการออกแบบตกแต่งออฟฟิศที่เรานำมาฝาก ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ

5 วิธี ปรับแต่งออฟฟิศ เสริมสร้างบรรยากาศแห่งความสุขและกระตุกต่อมความคิดสร้างสรรค์

อยากเพิ่มความสุขให้พนักงานออฟฟิศ ต้องลงทุนกับเฟอร์นิเจอร์

ออฟฟิศที่เต็มไปด้วยเหล่าพนักงานที่ทุกข์ทรมาณอยู่กับอาการออฟฟิศซินโดรมคงไม่ดีแน่การต้องนั่งทำงานไปพร้อมๆ กับอาการปวดหลัง นอกจากจะไม่มีความสุขแล้ว ผลงานที่ได้ก็ไม่มีคุณภาพเช่นกัน การเลือก ‘เฟอร์นิเจอร์’ มาใช้ในออฟฟิศจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก 

เฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่ดีควร support สรีระร่างกาย (Ergonomic) ให้นั่งสบายและลุกได้สะดวก ลองเลือกโต๊ะทำงานให้เหมาะสมกับหน้าที่ของพนักงาน เช่น โต๊ะทำงานสำหรับกราฟฟิก ควรเลือกโต๊ะทำงานที่กว้างสำหรับวางคอมพิวเตอร์จอใหญ่และมีพื้นที่เหลือเพียงพอให้ขยับเม้าส์ได้สะดวก หรือโต๊ะทำงานแบบมีลิ้นชักในตัว สำหรับพนักงานบัญชีที่ต้องจัดเก็บเอกสาร เป็นต้น ที่สำคัญคือเก้าอี้ ควรเลือกเป็นเก้าอี้สำนักงาน เพราะเป็นเก้าอี้ที่ออกแบบมาสำหรับนั่งทำงานโดยเฉพาะ

หรือคุณอาจจัดโซนสุขภาพขึ้นในออฟฟิศ ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันเพื่อสุขภาพ เช่น เก้าอี้จักรยานที่มาพร้อมที่วางโน๊ตบุ๊ก หรือโต๊ะสำหรับยืนทำงาน (sit to stand) เพื่อปรับเปลี่ยนอิริยาบท เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้พนักงานของคุณสุขภาพดี พร้อมสร้างสรรค์ผลงานดีๆ แล้วล่ะค่ะ    

ลดความน่าเบื่อให้ออฟฟิศ เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ด้วย ‘สี’

ออฟฟิศสไตล์มินิมอลอาจดูสบายตา แต่โทนสีขาวจะทำให้รู้สึกเบื่อได้ง่าย เราอยากแนะนำให้คุณลองเพิ่มสีสันให้ออฟฟิศ อาจใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์แบบมีสีสัน วอลเปเปอร์ติดผนัง หรือจะทาสีผนังเลยก็ได้เช่นกัน เพราะความสดใสจากสี จะช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้พนักงาน รู้สึกตื่นตัวและกระฉับกระเฉงได้มากกว่า ซึ่งถ้าว่ากันตามหลักทฤษฎีของสี สีที่แตกต่างกันจะส่งผลต่อสมองและอารมณ์ความรู้สึกต่างกัน สีที่เราอยากแนะนำให้คุณใช้ในที่ทำงาน ได้แก่

  • สีฟ้าหรือสีน้ำเงิน : สีแห่งความสงบ ช่วยลดบรรยากาศกดดันในที่ทำงาน แต่จะช่วยเพิ่มความตั้งใจและเพิ่มการโฟกัสให้กับพนักงาน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย
  • สีเขียว : ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ ให้ความรู้สึกสบายราวกับได้นั่งทำงานอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
  • สีเหลือง : ให้พลังงานและเพิ่มความสดใส เป็นสีที่ช่วยกระตุ้นไอเดียได้ดี ออฟฟิศไหนที่เน้นความ Creative แนะนำให้ตกแต่งผนังหรือเฟอร์นิเจอร์สีเหลืองจะดีที่สุดเลยค่ะ

หรือถ้าออฟฟิศของคุณ อยากให้พนักงานหรือลูกค้าได้ซึมซับบรรยากาศและคุณค่าของแบรนด์ อาจเลือกใช้สีขององค์กรเป็นหลัก เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ก็ได้เช่นกัน

นอกจากการตกแต่งด้วยสี การสร้างบรรยากาศด้วยแสงไฟก็เป็นไอเดียที่ดีไม่แพ้กัน เช่น สำหรับพื้นที่ที่ต้องการความแอคทีฟให้เลือกใช้ไฟแสงขาวสว่าง ส่วนพื้นที่สำหรับผ่อนคลายอาจเปลี่ยนเป็นไฟสีส้มสบายตา เป็นต้น

จัดสรรพื้นที่ เปลี่ยนออฟฟิศให้เป็นมากกว่าที่ทำงาน

ออฟฟิศที่มีแต่โต๊ะทำงานวางเรียงกันเป็นแพทเทิร์น จะดูเป็นทางการและทำให้บรรยากาศการทำงานตึงเครียดเกินไป ลองจัดสรรพื้นที่ทำงานให้หลากหลายขึ้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพนักงานที่มีบุคลิกและอุปนิสัยการทำงานแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น

โซนเงียบหรือมุมทำงานส่วนตัว : เหมาะสำหรับพนักงานที่ชอบความเป็นส่วนตัว หรือต้องทำงานที่ใช้สมาธิสูง เช่น งานเขียน งานวิจัย งานบัญชี อาจทำเป็นพื้นที่แยกออกไปจากส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะ หรือใช้ฉากกั้น กั้นเป็นพื้นที่เล็กๆ เพื่อปิดตัวจากสภาวะแวดล้อมโดยรอบ จะได้ไม่ถูกรบกวนหรือโดนขัดจังหวะจากผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา

โซนสร้างแรงบันดาลใจ : พื้นที่กระตุ้นไอเดีย สำหรับพนักงานที่สมองตื้อจากการทำงานทั้งวัน อาจแบ่งพื้นที่ด้วยชั้นหนังสือที่เต็มไปด้วยหนังสือสำหรับสร้างแรงบันดาลใจ หนังสือที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบหรือเกี่ยวข้องกับสายงานขององค์กร เพื่อให้พนักงานสามารถค้นคว้าหาไอเดียใหม่ๆ และพักสมองไปได้พร้อมๆ กัน

โซนอิสระ : หรือเรียกว่าพื้นที่ส่วนกลางที่ทุกคนสามารถมาพบปะพูดคุย ปรึกษางาน หรือประชุมกันแบบไม่เป็นทางการ เหมาะกับเป็นพื้นที่ระดมความคิด อัพเดทข่าวสาร หรือสำหรับคนที่ชอบนั่งทำงานแบบสบายๆ

โซนผ่อนคลาย : เป็นอีกโซนที่มาแรงในออฟฟิศยุคใหม่ พื้นที่ช่วยลดความตึงเครียดจากการทำงาน และพักสมอง เพราะไอเดียดีๆ จะผุดขึ้นมาได้ง่ายๆ เมื่อร่างกายของคนเราอยู่ในสภาวะผ่อนคลาย อาจจัดเป็นเพียงพื้นที่สีเขียวเล็กๆ ปูพื้นด้วยหญ้าเทียมกับโซฟาที่นั่งสบายๆ หรือถ้าออฟฟิศของคุณมีที่กว้างมากพอ การวางโต๊ะปิงปองหรือตู้เกมก็เป็นไอเดียที่ดี นอกจากนั้นการมีโต๊ะขนมอร่อยๆ และมุมเครื่องดื่มดีๆ ก็จะช่วยเพิ่มความสุขและลดความเหนื่อยล้าระหว่างวันให้พนักงานได้อีกด้วย

หาวิธีจัดการกับ ‘เสียง’ ในออฟฟิศให้เหมาะสม

เสียง มีผลกับอารมณ์และสมาธิ อย่างที่บอกว่า บางคนชอบการทำงานแบบเงียบสงบ การจัดทำโซนเงียบจึงควรเลือกใช้ฉากกั้นแบบกันเสียงหรือวัสดุที่ช่วยลดการสะท้อนของเสียงได้ เพื่อให้พื้นที่นั้นเงียบสงบและก่อให้เกิดสมาธิขึ้นได้จริงๆ ในขณะที่บางคนชอบให้มีเสียงคลอเบาๆ ระหว่างทำงาน ซึ่งเสียงที่ต่างกัน ก็ทำให้เกิดสมาธิและสร้างไอเดียได้ต่างกัน เช่น เพลงแจ็ส เพลงคลาสสิค เพลงงเรกเก้ เพลงพังค์ และเพลงร็อค ช่วยให้คนฟังเกิดความคิดสร้างสรรค์ได้มากกว่าเพลงป๊อบ และเพลงดิสโก้

นอกจากนี้ยังมีงานค้นคว้าเกี่ยวกับเสียงที่เหมาะกับการทำงาน ช่วยสร้างสมาธิและเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำ เช่น เสียงนก เสียงทะเล เสียงน้ำไหล หรือเสียง ‘ไวท์ นอยซ์’ (white noise) ที่ราบเรียบและมีจังหวะสม่ำเสมอ เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะเป็นเสียงอะไรควรควบคุมระดับความดังให้อยู่ที่ประมาณ 50-70 เดซิเบล เท่านั้น ถ้าดังกว่านี้จะทำให้ความคิดสร้างสรรค์แตกกระเจิงได้นั่นเองค่ะ ลองหาลำโพงแบบพกพาซักตัวตั้งไว้ที่โซนผ่อนคลายในออฟฟิศแล้วเปิดเพลงคลอเบาๆ ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีไม่น้อยเลยล่ะค่ะ

‘กลิ่น’ ก็สามารถนำมาซึ่งความคิดสร้างสรรค์ได้

นอกจากเสียง ‘กลิ่น’ ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศ ช่วยสร้างสมาธิ ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้เช่นกัน ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยแอริโซนา ระบุว่า ความรู้สึกในแง่ลบสามารถขจัดให้หมดไปได้ด้วยกลิ่นหอม กลิ่นหอมดีๆ ยังช่วยกระตุ้นความรู้สึกแง่บวกและช่วยให้ผ่อนคลาย ลองหาน้ำมันหอมระเหยตั้งไว้ในออฟฟิศ กลิ่นจะกระตุ้นประสาทสัมผัสของพนักงานให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้ กลิ่นที่เราอยากแนะนำ คือ กลิ่น Ginger ช่วยให้ตื่นตัวและกระตือรือร้น, กลิ่น Jasmine ช่วยลดความกระวนกระวาย, กลิ่น Peppermint ช่วยให้สดชื่น ทำให้มีสมาธิ และกลิ่น Rosemary ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เป็นต้น

ได้เทคนิคการแต่งออฟฟิศกระตุกต่อมความคิดสร้างสรรค์กันไปแล้ว อย่าลืมนำไปปรับใช้ในออฟฟิศของคุณ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและอัพเลเวลความสุขให้เหล่าพนักงานของคุณกันนะคะ

ช้อปเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน และของตกแต่งอื่นๆ ในราคาพิเศษ พร้อมของแถมดีๆ ได้ที่ร้านค้าออฟฟิศเมททุกสาขา หรือคลิก เพื่อช้อปออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง และบริการส่งฟรีทั่วไทย เมื่อช้อปครบ 499 บาท

0 CommentsClose Comments

Leave a comment