วิกฤตการณ์โควิด-19 นอกจากส่งผลกระทบด้านสุขภาพแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจในหลายๆ ประเทศ (อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด คลิก) สำหรับประเทศไทย ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและสูญเสียรายได้จากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ คือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและที่พัก โดยเฉพาะกับธุรกิจโรงแรมขนาดกลาง ที่เป็นเช่นนี้เพราะขาดรายได้จากกลุ่มรายได้หลัก นั่นก็คือ นักท่องเที่ยวจีน รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ

เมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่ธุรกิจโรงแรมและที่พักควรทำ คือการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้เข้าพัก จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการในการดูแลความสะอาด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยขั้นสูงสุด ดูแลสุขภาพของแขกที่เข้าพัก ให้แขกมั่นใจในสุขอนามัยของโรงแรมที่พวกเขาเลือกใช้บริการ ทั้งยังเป็นการดูแลพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่และคอยทำงานให้เราอีกด้วย

ไปดูกันค่ะว่า มาตรการการดูแลความสะอาดเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันการติดเชื้อภายในโรงแรมและที่พัก ควรทำอะไรบ้าง เพื่อเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวช่วงเปิดประเทศที่ใกล้จะถึงนี้!

7 มาตรการดูแลความสะอาด ยกระดับธุรกิจโรงแรมและที่พักให้ปลอดเชื้อโควิด-19

1.จัดเตรียมเจลล้างมือสำหรับไว้ตามจุดต่างๆ ในโรงแรม

ความสะอาดของมือเป็นสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน ที่ในเวลาปกติมักไม่มีใครใส่ใจในเรื่องนี้เท่าไหร่นัก แต่ในยามที่มีการระบาดของโรคซึ่งสามารถติดเชื้อได้เพียงสัมผัสสารคัดหลั่ง สิ่งที่โรงแรมและเหล่าธุรกิจที่พักควรทำคือ จัดเตรียมเจลล้างมือสูตรฆ่าเชื้อโรคหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อไว้ตามจุดต่างๆ ทั่วโรงแรม โดยเฉพาะจุดที่ลูกค้าต้องสัมผัสบ่อยครั้ง อย่างประตูทางเข้า ล็อบบี้ หน้าลิฟต์โดยสาร ทางเข้าห้องอาหาร และในห้องน้ำรวม เป็นต้น และหากเป็นไปได้ การมีหน้ากากอนามัยรับรองแขกผู้เข้าพัก จะสามารถสร้างความประทับใจและสร้างความเชื่อมั่นได้มากทีเดียว

2.เช็กประวัติการเดินทางและการฉีดวัคซีนของลูกค้าก่อน Check-in เข้าพักในโรงแรม

ก่อนการ Check-in ทุกครั้ง ควรขอความร่วมมือให้ลูกค้ากรอกแบบสอบถามเกี่ยวกับประวัติการเดินทางเข้า-ออก รวมถึงประวัติการเดินทางครั้งล่าสุด และอย่าลืมขอดูพาสปอร์ตวัคซีน 2 เข็ม มาตรการนี้อาจทำให้คุณเสียลูกค้าบางส่วนไป แต่ควรทำเพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงการติดเชื้อให้กับแขกที่เข้าพักและพนักงานภายในโรงแรมเอง

3.ตั้งจุดตรวจเช็กอุณหภูมิร่างกายผู้เข้าพักและพนักงานบริเวณทางเข้า-ออกของโรงแรม

นอกจากเช็กประวัติการเดินทางก่อนเข้าพักแล้ว ควรเพิ่มมาตรการคัดกรองผู้ป่วยที่มีไข้หรือแยกผู้ที่มีอาการอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ด้วยการติดตั้งเครื่องตรวจจับอุณภูมิร่างกายไว้บริเวณประตูทางเข้า-ออก เพื่อคุมเข้มและป้องกันการติดเชื้อให้ได้มากที่สุด หรือถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดกลางหรือเล็ก อาจใช้เป็นเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ สำหรับบริการวัดอุณหภูมิร่างกายเฉพาะลูกค้าที่รู้สึกไม่สบายเท่านั้น

4.ดูแลความสะอาดอย่างเข้มงวดในพื้นที่สาธารณะของโรงแรม

ในภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดภายในโรงแรมและที่พักให้มากขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่สาธารณะที่ลูกค้ามีการรวมตัวกันบ่อยครั้ง ได้แก่

  • ล็อบบี้หรือแผนกต้อนรับ 

โถงทางเข้าตั้งแต่ประตูไปจนถึงบริเวณล็อบบี้ ควรเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดที่จับประตู พื้น และโต๊ะในตำแหน่งของพนักงานต้อนรับ   

  • ห้องอาหารและบาร์ 

ส่วนที่มีการรวมตัวกันมากที่สุดในโรงแรมก็มักจะเป็นห้องอาหารหรือบาร์ จึงเป็นจุดเสี่ยงที่มีโอกาสสะสมเชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อไวรัส ควรดูแลทำความสะอาดทั้งพื้น โต๊ะ เก้าอี้ ผ้าปูโต๊ะ ผ้ารองจาน และสำคัญที่สุด คืออุปกรณ์สำหรับทานอาหาร ควรเลือกเป็นน้ำยาล้างจานที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดคราบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ และหากเป็นห้องอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ควรจัดเป็นภาชนะใส่อาหารแบบมีฝาปิดและมีทัพพีกลางสำหรับตักอาหาร เพื่อความสะอาดและป้องกันโรคติดต่อ 

  • ฟิตเนสและสระว่ายน้ำ

สำหรับฟิตเนส สิ่งที่ต้องโฟกัสคือเครื่องออกกำลังกายชนิดต่างๆ ที่ลูกค้าต้องสัมผัส จัดการเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ถ้าเป็นไปได้ควรทำความสะอาดทุกๆ ต้นชั่วโมง ส่วนสระว่ายน้ำ ถ้าไม่จำเป็นเราแนะนำว่าให้งดใช้สระไปก่อน เพราะเป็นที่ที่เชื้อโรคต่างๆ สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย หรือถ้ามีการเปิดใช้ ต้องหมั่นตรวจคุณภาพน้ำ เติมคลอรีนตามกำหนดเวลาเพื่อฆ่าเชื้อ และดูแลความสะอาดอย่าให้มีขยะหรือใบไม้ภายในสระ พร้อมทั้งดูแลให้ลูกค้าปฏิบัติตามกฎของสระว่ายน้ำอย่างเคร่งครัด

  • ลิฟต์หรือราวบันได

จุดที่มีการสัมผัสบ่อยครั้งรองจากที่จับประตูคือปุ่มกดลิฟต์ รวมไปถึงราวบันได สิ่งที่ควรทำคือเช็ดทำความสะอาดให้บ่อยครั้งที่สุด ด้วยน้ำยาทำความสะอาดสูตรฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์ 

Tip! ถ้าเป็นไปได้ลองเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ ให้เป็นระบบเซ็นเซอร์ เช่น เซ็นเซอร์ประตู หรือเซ็นเซอร์ก็อกน้ำ จะช่วยลดการสัมผัสและลดโอกาสการแพร่เชื้อได้ค่ะ

5.จัดการฆ่าเชื้อโรคตามอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องพักของโรงแรม

สุขอนามัยภายในห้องพักนั้นสำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากการทำความสะอาดขั้นพื้นฐาน อย่างการเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าเช็ดตัว และทำความสะอาดห้อง ควรเพิ่มการฆ่าเชื้อโรคที่ของใช้ภายในห้อง อย่างรีโมททีวี รีโมทเครื่องปรับอากาศ กาต้มน้ำ สวิตช์ไฟ ไม้แขวนเสื้อ รวมไปถึงกุญแจห้องหรือคีย์การ์ด เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อไวรัส ให้ภายในห้องพักสะอาดและปลอดเชื้อมากที่สุด

Tip! ที่อยากแนะนำ คือ ช่วงนี้ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือน้ำยาทำความสะอาดสูตรฆ่าเชื้อ เพื่อเพิ่มความสะอาดและสร้างความมั่นใจให้ผู้เข้าพักนะคะ

6.ติดป้ายให้ข้อมูลและอัปเดตข่าวสารการติดเชื้อแก่ผู้เข้าพักในโรงแรม

ติดป้ายให้ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมวิธีการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อไว้ตามจุดต่างๆ ที่ลูกค้าสังเกตเห็นได้ เช่น หน้าลิฟต์ ภายในลิฟต์ หรือภายในห้องอาหาร เป็นต้น ทางที่ดีควรมีหลายภาษาเพื่อรองรับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกอย่างที่ควรทำคือ การแสดงความใส่ใจ คอยอัพเดตสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาให้แขกผู้เข้าพักทันเหตุการณ์อยู่เสมอ

7.อบรมพนักงานของโรงแรมให้เข้าใจตรงกันเกี่ยวกับมาตรการดูแลความสะอาด

มาตรการต่างๆ จะเกิดขึ้นได้ ต้องอบรมพนักงานของโรงแรมให้มีความเข้าใจตรงกัน ตั้งแต่การเข้าใจจุดประสงค์ของมาตรการ เข้าใจสถานการณ์ของโรคระบาด และเข้าใจหัวอกของแขกผู้เข้าพัก เพื่อให้พนักงานปฏิบัติตามมาตรการอย่างเต็มที่และเต็มใจ ไม่ใช่การทำเพราะถูกสั่งให้ทำนั่นเองค่ะ

มาตรการดูแลความสะอาดที่เรานำมาฝากนี้ ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นให้แขกผู้เข้าพักเท่านั้น แต่ยังมีส่วนทำให้พนักงานเห็นถึงความใส่ใจของผู้ประกอบการหรือเจ้านาย ช่วยสร้าง Royalty ทางอ้อมได้อีกด้วยนะคะ สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและที่พัก หากต้องการหรือสนใจผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและน้ำยาทำความสะอาด สูตรฆ่าเชื้อ, เจลล้างมือ, หน้ากากอนามัย, สบู่เหลว สูตรฆ่าเชื้อ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอื่นๆ สามารถเข้ามาช้อปสินค้าทั้งหมดนี้ได้ที่ เว็บไซต์ OfficeMate ช้อปวันนี้ ส่งฟรี! เมื่อสั่งซื้อครบ 499 บาท

0 CommentsClose Comments

Leave a comment