ในบ้านเรือนยุคปัจจุบัน ได้มีการนำเอาปลั๊กไฟสายพ่วงมาใช้งานเพื่อต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากันมากขึ้น ซึ่งหลายบ้านก็ยังขาดความเข้าใจที่ถูกต้องและเหมาะสมในการใช้งาน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายตามมาได้ วันนี้เราจึงขอพาทุกท่านมาทำความเข้าใจกับการเลือกปลั๊กไฟสายพ่วงที่ถูกต้อง เลือกอย่างไรให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน เพื่อให้คุณสามารถใช้งานปลั๊กไฟได้อย่างถูกต้องตามประเภทการใช้งานต่างๆ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายตามมา
อย่างแรกที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อปลั๊กไฟสายพ่วงเลยคือ การสังเกตว่าปลั๊กพ่วงนั้นๆ มีฉลากเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ติดอยู่หรือไม่ หากปลั๊กไฟสายพ่วงใดที่ไม่ม
ประการต่อมาของขั้นตอนการเลือกปลั๊กไฟสายพ่วงที่เหมาะสมคือ ควรพิจารณาวัสดุที่นำมาทำชุดปลั๊กพ่วง ไม่ว่าจะเป็นสายไฟ, เต้าเสียบ หรือตัวรางปลั๊ก ว่ามีคุณภาพมากแค่ไหน อยู่ในสภาพแข็งแรง ทนทานมากน้อยเพียงใด โดยตัวเต้ารับปลั๊กนั้น จำเป็นต้องทำจากทองเหลือง ตัวปลั๊กเสียบต้องเป็นโลหะที่ทนทานต่อการกัดกร่อน บริเวณขั้วปลั๊กและสายไฟ ต้องมีความยืดหยุ่น ไม่ตึงแน่นจนเกินไป สามารถรองรับการงอได้เป็นอย่างดี
ข้อสำคัญในการเลือกซื้อปลั๊กไฟสายพ่วงคือ ควรมีสวิทช์เปิด-ปิดบริเวณรางปลั๊ก เพื่อป้องกันการกระชากไฟ ในกรณีที่ไฟดับ จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยขณะใช้งานได้มากขึ้น
นอกจากจะต้องมีสวิท์เปิด-ปิดแล้ว ปลั๊กไฟสายพ่วงที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานควรมีฟิวส์หรือ Breaker ใช้สำหรับตัดกระแสไฟฟ้าในกรณีที่มีการใช้ไฟเกินหรือจ่ายไฟเกิน เพื่อป้องกันปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร
ปลั๊กไฟสายพ่วงที่ใช้ในประเทศไทย ควรระบุค่าแรงดันไฟฟ้าไว้ที่ 220-250 โวลต์ ซึ่งถือเป็นค่าแรงดันไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานเหมาะสำหรับการใช้ภายในบ้านเรือนที่อยู่อาศัย หากมีค่าแรงดันมากกว่าที่ระบุไว้นี้ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายขณะใช้งานได้
ปลั๊กไฟสายพ่วง ถือเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่ทุกบ้านต้องมี โดยมีหน้าที่ในการใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ให้สามารถใช้งานได้ครั้งละจำนวนมากๆ ในเวลาเดียวกัน ดังนั้นการเลือกปลั๊กที่มีคุณภาพดี ผลิตได้มาตรฐาน มีวัสดุทนทานแข็งแรง และมีข้อกำหนดเหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทย จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพื่อให้การใช้งานปลั๊กเป็นไปด้วยความปลอดภัย และไม่เกิดชำรุดเสียหายได้ง่ายขณะใช้งาน