สีสเปรย์เรียกได้ว่าเป็นสีอเนกประสงค์ เพราะสามารถนำไปพ่นทับวัสดุได้หลายชนิดและนำไปสร้างสรรค์ผลงานได้หลายแบบ เช่น พ่นชิ้นส่วนโมเดล เฟอร์นิเจอร์ รถยนต์ รถจักรยาน ของเล่น รวมถึงงานศิลปะข้างกำแพงที่เรียกว่า กราฟฟิตี้ (การพ่นกำแพงหรือGraffiti ต้องพ่นในบริเวณที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น) สีสเปรย์จะบรรจุมาในกระป๋องมีหัวฉีด ภายในกระป๋องมีการอัดแรงดันก๊าซ เมื่อกดหัวฉีดสีจะถูกพ่นออกมาด้วยแรงดัน เป็นละอองสีพ่นทับบนวัสดุต่างๆ
สีสเปรย์แบบเฉดสีธรรมดา คือสีสเปรย์ที่เป็นสีทั่วไป เช่น สีเหลือง สีแดง สีเขียว สีขาว ฯลฯ
สีสเปรย์แบบเฉดสีพิเศษ เช่น สีขาวมุก สีโรสโกลด์ ฯลฯ สีประเภทนี้ต้องใช้ความใจเย็นขณะพ่น เพราะเป็นสีที่แห้งช้าและมีเม็ดสีหนากว่า ควรพ่นห่างจากชิ้นงานพอสมควร ให้สีค่อยๆ เคลือบผิว และควรพ่นซ้ำ 4-5 ครั้ง เพื่อความเรียบเนียน
สีสเปรย์เฉดสีโลหะ คือสีสเปรย์ที่มีผงโลหะเป็นส่วนผสม เช่น สีโครเมียม สีเหล็ก สีตะกั่ว สีอะลูมิเนียม เหมาะกับการใช้พ่นทับบนชิ้นงานที่เป็นวัสดุเดียวกัน เช่น ใช้สเปรย์สี
อะลูมิเนียม พ่นทับบนวัตถุที่เป็นอะลูมิเนียม สีก็จะกลมกลืนไปกับพื้นผิว
ก่อนฉีดพ่นสีสเปรย์ลงไปบนพื้นผิววัสดุ พื้นผิววัสดุนั้นๆ จะต้องแห้ง ปราศจากฝุ่น สนิม คราบมัน เพื่อให้สีสเปรย์ที่พ่นลงไปเกาะติดบนพื้นผิวได้ดี
สีสเปรย์เป็นสีที่มีส่วนผสมหลายอย่าง หลักๆ คือ ส่วนที่เป็นเม็ดสี กับ ตัวทำละลาย ดังนั้น ก่อนพ่นสีสเปรย์ทุกครั้ง ควรเขย่ากระป๋องก่อน 2-3 นาที เพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี และขณะพ่นก็ควรเขย่ากระป๋องเป็นระยะๆ
หลักการพ่นสีสเปรย์ควรพ่นทับหลายๆ ชั้น โดยเว้นระยะการพ่นแต่ละชั้นให้ห่างกันประมาณ 10 นาที
การพ่นสีสเปรย์ควรให้หัวฉีดอยู่ห่างจากวัตถุ 20-30 เซนติเมตร ไม่ว่าจะเป็นการพ่นลงบนวัตถุหรือพ่นบนกระดาษเพื่อสร้างงานศิลปะ เพื่อให้ละอองสีกระจายตัวลงบนผิววัตถุนั้นๆ อย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ ไม่จับตัวเป็นก้อนและไม่เป็นหยดสีไหลเยิ้ม
หลังจากสีสเปรย์แห้งสนิท สามารถพ่นหรือทาน้ำยาเคลือบเงาทับลงไปได้