แก้ว ของใช้บนโต๊ะอาหารที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มีหลายชนิดทั้งแก้วกระดาษ แก้วพลาสติก แก้วสเตนเลส แก้วเซรามิก แต่แก้วใส่เครื่องดื่มที่ถือว่าปลอดภัยต่อสุขภาพของเราที่สุด คือแก้วใส หรือแก้วที่ทำมาจากซิลิการ์ เพราะผลิตในกระบวนการที่ไม่ต้องใช้สารเคมีใดๆ จึงไม่มีสารพิษปะปน ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นที่สะสมของแบคทีเรีย ทนต่อสภาวะแวดล้อมได้ดี เช่นอุณหภูมิที่สูง แสงแดด หรือความชื้น แก้วชนิดนี้ยังเหมาะกับการใช้งานในวงการแพทย์ หรือใช้ในการทดลองทำวิจัยต่างๆ อีกด้วย
แก้วสำหรับใส่เครื่องดื่มนั้นมีรูปทรง รูปร่าง และขนาดที่หลากหลาย สาเหตุหนึ่งก็เพื่อความสวยงาม แต่อีกเหตุผลที่สำคัญก็คือ ความเหมาะสมกับการใส่เครื่องดื่มแต่ละชนิด เช่น หากเราใส่กาแฟในแก้วเบียร์ หรือใส่เบียร์ในแก้วกาแฟ ความรู้สึกขณะดื่มก็จะแตกต่างกันไปด้วย การเลือกแก้วให้เหมาะสมกับเครื่องดื่มจึงเป็นเรื่องจำเป็น
แก้วทรงกระบอก มีหลายปริมาตรให้เลือกใช้ เหมาะกับการใส่เครื่องดื่มเย็น อย่างน้ำเปล่า น้ำผลไม้ ชาเย็น กาแฟเย็น ฯลฯ
แก้วก้าน เป็นแก้วที่มีก้านจับค่อนข้างสูง ชูตัวแก้วให้ดูสง่า นิยมใช้กับเครื่องดื่มประเภทค็อกเทลหรือไวน์
แก้วมีหู นิยมใช้กับเบียร์/เบียร์สด และเครื่องดื่มร้อนอย่างชา หรือกาแฟ
ปัจจุบันธุรกิจร้านกาแฟหรือคาเฟ่กำลังเป็นที่นิยม ร้านกาแฟแต่ละร้านก็จะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป ทั้งดีไซน์ การตกแต่ง และเมนูเครื่องดื่ม ซึ่งปริมาณเครื่องดื่มแต่ละเมนูไม่เท่ากัน การเลือกแก้วให้พอดีกับปริมาณเครื่องดื่มของเมนูนั้นๆ จึงเป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ
แก้วกาแฟขนาด 3 ออนซ์ มีลักษณะเป็นถ้วยกาแฟขนาดเล็กและเตี้ย มีหูจับ ใช้ได้ทั้งแบบแก้วใสและแก้วเซรามิก เหมาะกับการใส่กาแฟประเภทเอสเปรสโซ่ร้อน ที่มีความจุของน้ำกาแฟประมาณ 1-2 ออนซ์
แก้วกาแฟขนาด 4-6 ออนซ์ มักเป็นแก้วเซรามิก มีหูจับ นิยมใช้ใส่กาแฟร้อนประเภท อเมริกาโน่ ลาเต้ มอคค่า คาปูชิโน่ รวมไปถึงชาร้อน นมสดร้อน หรือโกโก้ร้อน
สำหรับเครื่องดื่มเย็น ควรใช้เป็นแก้วใสทรงสูง เพื่อโชว์สีสันของเครื่องดื่ม ขนาดที่นิยมอยู่ที่ 16-20 ออนซ์