หากต้องนั่งทำงานหรือเรียนออนไลน์กับสัญญาณไวไฟที่ติดๆ ดับๆ ทั้งวัน คงน่าหงุดหงิดไม่น้อย ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้สัญญาณไวไฟไม่เสถียรมีอยู่หลายสาเหตุ ทั้งความขัดข้องจากผู้ให้บริการ สภาพดินฟ้าอากาศ และส่วนหนึ่งก็มาจากการใช้งานของเราเอง วันนี้ OfficeMate เลยจะพาไปดูวิธีดูแลรักษาเราเตอร์ไวไฟ พร้อมเทคนิคการเลือกตำแหน่งที่ตั้ง ว่าจะตั้งตรงไหนให้เราเตอร์พร้อมปล่อยไวไฟแรงๆ ให้เราทำงานได้อย่างราบรื่นที่สุด! 

วิธีดูแลรักษาเราเตอร์ไวไฟ    

การดูแลรักษาเราเตอร์ไวไฟมีด้วยกัน 4 วิธีง่ายๆ 

  1. อย่าวางเราเตอร์ไวไฟในที่แดดส่องถึง 

เราเตอร์ไวไฟเป็นหนึ่งในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความร้อนอยู่ในตัว หากเราตั้งเราเตอร์เอาไว้ในที่แสงแดดส่องถึง หรือวางเอาไว้ในที่ที่ร้อนอบอ้าว ก็จะยิ่งทำให้ตัวเราเตอร์ร้อนมากขึ้น ซึ่งส่งผลกับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเราเตอร์ อาจทำให้เสียไวขึ้น เราเตอร์ไวไฟที่มีความร้อนสูงเกินไป ยังส่งผลกับความเร็วของสัญญาณ ทำให้ไวไฟอืดขึ้นได้อีกด้วย

  1. ปิดสวิตช์เราเตอร์ไวไฟ (บ้าง) หลังใช้งาน
เราเตอร์ไวไฟ

ทุกวันนี้เราใช้งานอินเทอร์เน็ตกันแทบจะทุกนาที เราเตอร์ไวไฟจึงกลายเป็นอุปกรณ์ที่ต้องเปิดเอาไว้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่อย่างที่บอกว่าเราเตอร์ไวไฟเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความร้อนในตัว แม้จะออกแบบมาให้รองรับกับการเปิดใช้งานได้ตลอดเวลา แต่หากอยากถนอมเราเตอร์ไวไฟเอาไว้ใช้นานๆ บวกกับสัญญาณเสถียรๆ แนะนำว่าให้ปิดสวิตช์เราเตอร์บ้าง อาจจะตอนก่อนนอนทุกคืน เพื่อพักให้เราเตอร์เย็นลง

  1. ทำความสะอาดเราเตอร์ไวไฟบ้าง

เราเตอร์ไวไฟมีทั้งช่องระบายอากาศ และช่องเสียบสายสัญญาณมากมาย หากไม่ทำความสะอาด อาจจะมีฝุ่นเข้าไปอุดตันได้ แต่การทำความสะอาดเราเตอร์ไวไฟไม่ต้องถึงขั้นถอดชิ้นส่วนออกมาเป่าลม แค่หมั่นปัดๆ เช็ดๆ ฝุ่นออกจากตัวเราเตอร์บ้าง ไม่ให้มีฝุ่นเข้าไปอุดตันขัดขวางการทำงานก็เพียงพอแล้ว และทางที่ดีควรทำความสะอาดบ้าน ดูดฝุ่นบ่อยๆ ภายในบ้านจะได้ไม่มีฝุ่นสะสมจนไปตกค้างอยู่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ของเรานะคะ

  1. ปิดสวิตช์ และถอดปลั๊กเราเตอร์ไวไฟในวันที่มีพายุ 

ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออก เราก็ต้องทำงานให้ทันเดดไลน์กันอยู่ดี แต่ในวันที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง โดยเฉพาะวันที่ฟ้าร้องฟ้าผ่าหนัก แนะนำให้ปิดสวิตช์ และชักปลั๊กเราเตอร์ไวไฟออกเพื่อป้องกันปัญหาทางไฟฟ้า เช่น ไฟดับ ไฟกระตุก หรือไฟกระชาก ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายกับเราเตอร์ไวไฟของเรา

ตำแหน่งการวางเราเตอร์ไวไฟ

บอกเลยว่า แค่วางเราเตอร์ไวไฟผิดที่ก็ทำให้สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร หรืออ่อนลงได้เช่นกัน ไปดูกันว่าเราควรวางเราเตอร์ไวไฟเอาไว้ตรงไหนให้สัญญาณแรงดีไม่มีสะดุด

เราเตอร์ไวไฟ

วางเราเตอร์ไวไฟให้ไกลจากเครื่องใช้ไฟฟ้า

เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดมีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่รบกวนสัญญาณไวไฟ ทำให้สัญญาณไม่เสถียร ติดๆ ดับๆ หรืออืดขึ้น ดังนั้น การวางเราเตอร์จึงควรวางให้ไกลจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ เช่น เตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น และทีวี

วางเราเตอร์ไวไฟในที่โล่ง

ที่โล่งในที่นี้ OfficeMate แนะนำว่าให้เป็นโต๊ะโล่งๆ กลางบ้าน หรือวางเอาไว้บนโต๊ะทำงาน หลีกเลี่ยงการวางเอาไว้บริเวณมุมบ้าน ในมุมอับ หรือวางใกล้สิ่งกีดขวางอื่นๆ อย่างกำแพง กระจก เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน หรือวางเอาไว้หลังเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้วางห่างจากผนังหรือสิ่งของอื่นๆ ประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อให้เราเตอร์ได้ระบายความร้อน และกระจายสัญญาณได้ทั่วถึงโดยไม่มีอะไรมากั้น!

บูทเราเตอร์ไวไฟด้วยเครื่องขยายสัญญาณ

สำหรับการทำงานที่บ้าน หรือเรียนออนไลน์ หากอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีคนแย่งกันใช้งานอินเทอร์เน็ตหลายคน หรือบ้านมีหลายห้องหลายชั้น เราเตอร์ไวไฟอย่างเดียวอาจเอาไม่อยู่ ถ้าต้องการเพิ่มความแรงให้สัญญาณนอกจากหาที่วางดีๆ แล้ว แนะนำให้ติดตั้ง ‘เครื่องขยายสัญญาณไวไฟ’ เพิ่มเข้าไปด้วย เพราะเจ้าเครื่องนี้จะช่วยกระจายสัญญาณไวไฟจากเราเตอร์ให้ไกลขึ้น แถมยังพาสัญญาณไวไฟทะลุสิ่งกีดขวางอย่างกำแพง ผนัง หรือเพดานได้ดีกว่า เหมาะสำหรับบ้านกว้างๆ หรือครอบครัวใหญ่ หมดปัญหาแย่งกันดึงสัญญาณเน็ต หรือจุดอับที่ไวไฟเข้าไม่ถึงไปได้เลย 

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องขยายสัญญาณไวไฟ

นอกจากเคล็ดลับวิธีดูแลรักษา และการวางเราเตอร์ไวไฟในที่ที่เหมาะสมแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญที่สุด ก็คือ การเลือกซื้อเราเตอร์ไวไฟที่มีคุณภาพ ควรซื้อจากผู้ขายที่ไว้ใจได้ และมีการรับประกันสินค้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เราเตอร์ไวไฟนั้นจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด     

ใครอยากได้สัญญาณไวไฟแรงๆ ทำงานลื่นไหล ประชุมไม่สะดุด เรียนออนไลน์ไลน์ก็ไม่หลุด เข้ามาช้อปเราเตอร์ไวไฟคุณภาพดี พร้อมเครื่องขยายสัญญาณไวไฟ ได้เลยที่ OfficeMate 

ขอบคุณข้อมูลจาก