สำหรับใครที่ทำธุรกิจ หรือเปิดแบรนด์ของตัวเอง นอกจากจะควรจดทะเบียนบริษัทแล้ว OfficeMate แนะนำให้ทำความเข้าใจเรื่องของ ‘เครื่องหมายการค้า’ และทำการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ากับกรมทรัพย์สินทางปัญหาให้เรียบร้อย ว่าแต่เครื่องหมายการค้า คืออะไร? สำคัญอย่างไร? ทำไมควรจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า? วันนี้ OfficeMate จะพาไปทำความเข้าใจแบบง่ายๆ พร้อมขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าออนไลน์ฉบับรวบรัดที่สามารถทำเองได้ ไปดูกันเลย!

เครื่องหมายการค้า คืออะไร?

เครื่องหมายการค้า (Trademark) เป็นเครื่องหมายที่ใช้เป็นสัญลักษณ์สำหรับสินค้า หรือบริการ แสดงให้เห็นว่าสินค้า หรือบริการที่ใช้เครื่องหมายการค้านี้มีความแตกต่างกับสินค้า และบริการชนิดเดียวกัน แต่เป็นเครื่องหมายของบุคคลอื่น เช่น เครื่องหมายการค้า NIKE แม้สินค้าจะเป็นรองเท้า และอุปกรณ์กีฬา แต่ก็มีความแตกต่างด้วยเครื่องหมายการค้าเฉพาะของแบรนด์ 

สำหรับคนทำแบรนด์ หรือมีสินค้าเป็นของตัวเอง แนะนำให้ออกแบบเครื่องหมาย และนำไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ากับกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพราะคุณจะได้รับประโยชน์ทั้งการดำเนินธุรกิจ รวมถึงประโยชน์ทางด้านกฎหมาย

*นอกจากเครื่องหมายการค้าแล้ว ยังมีเครื่องหมายบริการ สำหรับธุรกิจประเภทโรงแรม สายการบิน หรือธนาคาร, เครื่องหมายรับรอง เช่น เครื่องหมายฮาลาล เซลล์ชวนชิม และเครื่องหมายร่วม ซึ่งสามารถขอยื่นจดทะเบียนกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้เช่นกัน

ประโยชน์ของการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า 

จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าออนไลน์

ประโยชน์ทางธุรกิจ

  1. เครื่องหมายการค้าช่วยให้ผู้บริโภคจดจำสินค้าของคุณได้แม่นยำ หรือเรียกว่าเป็นการสร้างแบรนด์ดิ้งนั่นเอง
  2. เครื่องหมายการค้าช่วยสร้างความแตกต่างให้สินค้าของคุณได้ แม้ว่าจะเป็นสินค้าชนิดเดียวกันกับที่วางขายทั่วไปตามท้องตลาด 
  3. เครื่องหมายการค้าช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ สามารถนำไปเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินต่างๆ ได้ 
  4. เครื่องหมายการค้าสามารถต่อยอดให้ธุรกิจได้ เช่น การทำแฟรนไชส์ 

ประโยชน์ทางกฎหมาย

เครื่องหมายการค้า ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2543 และพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2559 นั่นหมายความว่า หากเครื่องหมายการค้านั้นได้ทำการจดทะเบียนกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว จะได้รับการคุ้มครอง 10 ปี (สามารถต่ออายุการคุ้มครองได้) และผู้อื่นจะไม่สามารถนำเครื่องหมายการค้า รวมถึงสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้านั้นไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเห็นการละเมิด เจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกกฎหมาย ก็สามารถฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนได้

ลักษณะของเครื่องหมายการค้าที่สามารถนำไปจดทะเบียนได้

ก่อนออกแบบเครื่องหมายการค้า ต้องรู้กฎและข้อห้าม เพื่อให้เครื่องหมายการค้าของคุณสามารถนำไปยื่นจดทะเบียนได้ 

  1. เครื่องหมายการค้าต้องมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่าง ให้คนทั่วไปสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างสินค้าของเราและผู้ประกอบการเจ้าอื่นๆ ได้ 
  2. เครื่องหมายการค้าจะต้องไม่ใช้คำบรรยายสินค้าหรือบริการที่นำมาจดทะเบียนโดยตรง เช่น คำว่า Beauty ไม่สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องหมายการค้าของสินค้าประเภทเครื่องสำอางค์ได้
  3. เครื่องหมายการค้าต้องไม่เหมือนหรือคล้ายคลึงกับเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ทำการจดทะเบียนเอาไว้แล้ว ผู้ประกอบการสามารถเข้าไปเช็กได้เลยที่ เว็บไซต์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา
  4. เครื่องหมายการค้าต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย เช่น ชื่อประเทศ ชื่อทางภูมิศาสตร์ ลายธงชาติ เครื่องหมายราชการ สัญลักษณ์เกี่ยวกับศาสนา คำหยาบคาย หรือภาพลามกอนาจาร 

ยื่นเรื่องจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ที่ไหน?

  1. ยื่นจดทะเบียนด้วยตัวเองที่สำนักงานกรมทรัพย์สินทางปัญญา
  2. ยื่นจดทะเบียนด้วยตัวเองที่สำนักงานพาณิชย์ประจำจังหวัด
  3. ยื่นเอกสารขอจดทะเบียนทางไปรษณีย์ไปที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา
  4. ยื่นจดทะเบียนผ่านทางออนไลน์บนเว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา  www.ipthailand.go.th

เอกสารและหลักฐานประกอบการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า

  1. ต้นฉบับคำขอจดทะเบียน แบบ ก. 01
  2. ภาพเครื่องหมายการค้าที่ต้องการจดทะเบียน ขนาดไม่เกิน 5×5 เซนติเมตร ขนาดไฟล์ไม่เกิน 500KB จำนวน 1 รูป (หากเครื่องหมายมีขนาดใหญ่เกินต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเซนติเมตรละ 200 บาท)
  3. บัตรประจำตัวของเจ้าของเครื่องหมายการค้า
  • บุคคลธรรมดา ใช้สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง เซ็นสำเนาถูกต้อง 1 ฉบับ
  • นิติบุคคล ใช้สำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคลที่ออกไม่เกิน 6 เดือน พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง 1 ฉบับ 
  • ในกรณีมอบอำนาจ ต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้ : 1. สำเนาหนังสือมอบอำนาจ และ 2.สำเนาบัตรประชาชนของตัวแทน เซ็นสำเนาถูกต้อง 

ขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าออนไลน์

จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าออนไลน์
  1. ก่อนเข้าสู่กระบวนการยื่นคำขอจดทะเบียนออนไลน์ ให้ตรวจสอบเครื่องหมายการค้าของตัวเองก่อนว่ามีความเหมือนหรือคล้ายคลึงกับเครื่องหมายการค้าของคนอื่นที่มีการจดทะเบียนเอาไว้แล้วหรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
  • ไปตรวจสอบกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ โดยต้องเสียค่าธรรมเนียมการตรวจค้น ชั่วโมงละ 100 บาท
  • ตรวจสอบผ่านอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา https://www.ipthailand.go.th/th/e-service/ 
  1. การขอยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าออนไลน์ สามารถยื่นผ่านระบบ E-Filing บนเว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา www.ipthailand.go.th 
  • เลือกเมนู ‘บริการออนไลน์’ แล้วเลือกที่ ‘ระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาอิเล็กทรอนิกส์’ หากมี User และ Password อยู่แล้วให้ล็อกอินเข้าระบบได้เลย แต่ถ้ายังไม่มีเลือกลงทะเบียนเพื่อรับรหัสผ่านก่อนค่ะ
  • เมื่อล็อกอินได้แล้ว ให้เลือกที่เมนู Trademark คลิกเลือกแบบฟอร์ม ก.01 จากนั้นกรอกแบบฟอร์มตามแต่ละหัวข้อ และแนบเอกสารหลักฐานประกอบการจดทะเบียนได้เลย ระบบจะคำนวณค่าธรรมเนียมให้อัตโนมัติ 
  • เมื่อกรอกข้อมูลทุกย่างเรียบร้อย กด ‘ส่งเรื่อง’ 
  • จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการชำระเงิน ตัดผ่านบัตรเครดิต/เดบิต, อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง SCB / KTB และเคาน์เตอร์ธนาคาร/เคาน์เตอร์เซอร์วิส เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เมื่อลงทะเบียน ยื่นคำขอ และชำระเงินเรียบร้อยแล้ว สามารถติดตามสถานะคำขอได้ที่ ระบบสอบถามสถานะคำขอสำหรับประชาชน ในเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา

ดูตัวอย่างการยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ที่ https://www.ipthailand.go.th/dipvdo/eFilingTM/E-Filing.mp4 

อ่านบทความเกี่ยวกับธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่ www.officemate.co.th/blog/ หรือเข้ามาช้อปสินค้าเพื่อธุรกิจ ราคาดี โปรโมชั่นโดน ช่วยคุณเซฟบัดเจ็ท รันธุรกิจต่อได้ยาวๆ คลิกเลยที่ เว็บไซต์ OfficeMate ช้อปออนไลน์วันนี้ ส่งฟรีเมื่อสั่งซื้อครบ 499 บาท!

บทความแนะนำ!

ขอบคุณข้อมูลจาก กรมทรัพย์สินทางปัญญา และ idgthailand.com