นอกจากคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก และสมาร์ทโฟน ‘แท็บเล็ต’ (Tablet) เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เข้ามามีบทบาทกับชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน ด้วยความที่ใช้งานได้เสมือนโน้ตบุ๊กแต่พกพาง่ายกว่า ทั้งยังมีฟังก์ชันหลากหลายกว่าสมาร์ทโฟน สามารถตอบโจทย์ได้ครบถ้วนทั้งการทำงาน และความบันเทิง ใครหลายๆ คนจึงยกให้แท็บเล็ตเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตยุคดิจิตอล 

แต่ก่อนจะซื้อแท็บเล็ตซักเครื่องมาใช้งาน อันดับแรกต้องตอบให้ได้ก่อนว่า ต้องการแท็บเล็ตมาใช้งานในรูปแบบไหน เพราะแท็บเลตแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่น ต่างก็มีจุดเด่นและลูกเล่นแตกต่างกันออกไป

  • อยากได้แท็บเล็ตเอาไปจดเลคเชอร์ เรียนออนไลน์? 
  • อยากได้แท็บเล็ตเอาไว้ตอบอีเมล ทำพรีเซนต์ หรือทำงานเอกสาร?
  • อยากได้แท็บเล็ตเอาไปวาดรูป ทำกราฟิก?
  • อยากได้แท็บเล็ตเอาไว้เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง? 

หากตอบตัวเองได้แล้ว ก็ไปดูการเลือกซื้อแท็บเล็ตให้ตอบโจทย์ตามความต้องการกัน!!

จะซื้อแท็บเล็ตทั้งที ต้องดูอะไรบ้าง?

ระบบปฏิบัติการของแท็บเล็ต

ระบบปฏิบัติการของแท็บเล็ตในปัจจุบัน มีให้เลือกหลักๆ 3 ระบบ คือ IOS, Android OS และ Windows OS ซึ่งทั้ง 3 รูปแบบนี้เรียกว่าประสิทธิภาพพอๆ กัน แต่ฟีเจอร์และลูกเล่นนั้นเหมาะสมกับการใช้งานต่างกัน คือ

  • แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ IOS หรือที่เรียกกันว่า iPad โดดเด่นที่ความเสถียร เป็นระบบปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพสูง ประมวลผลได้ดีและรวดเร็ว เหมาะสำหรับใช้ด้านความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม รวมไปถึงการใช้เรียนออนไลน์ หรือทำงานด้านศิลปะ อย่างวาดรูป แต่ IOS รองรับเฉพาะแอปพลิเคชันและอุปกรณ์เสริมของ Apple เท่านั้น ใครที่ใช้อุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple อยู่แล้ว บอกเลยว่าแท็บเล็ตระบบปฎิบัติการ IOS นี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพได้อีกหลายๆ ด้านเลย 
  • แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android ใช้งานง่ายกว่า สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมได้หลากหลาย ราคาจับต้องได้ และเสถียรไม่แพ้กัน ทั้งยังมีให้เลือกหลายค่าย ไม่ว่าจะ Huawei, Lenovo, Samsung หรือ Teclast ซึ่งแต่ละค่ายต่างก็พยายามพัฒนาฟังก์ชัน ออกสเปกเอาใจผู้ใช้ ใครชอบลูกเล่น หรือเป็นแบรนด์ Royalty ของค่ายไหน ก็เลือกได้ตามใจชอบเลย   
  • แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows ประสิทธิภาพดีไม่แพ้ระบบปฏิบัติการอื่นๆ โดดเด่นที่การใช้งานด้านเอกสาร รองรับไฟล์ได้ทุกรูปแบบ ทำงานได้เบ็ดเสร็จ ไม่ต้องคอยแปลงไฟล์สลับไปมา เชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมได้หลากหลาย ทั้งยังใช้งานร่วมกับโปรแกรมตระกูล Microsoft และ Adobe ได้เสถียรที่สุดอีกด้วย  
วิธีเลือกซื้อแท็บเล็ต

ความจุของแท็บเล็ต

การเลือกความจุของแท็บเล็ต แนะนำให้พิจารณาตามความต้องการใช้งานเป็นหลัก เพราะความจุยิ่งสูง ราคาก็จะยิ่งอัพขึ้นตามไปด้วย ใครที่เน้นใช้แท็บเล็ตวาดรูป หรือเล่นเกม อาจต้องเลือกเป็นแท็บเล็ตที่มีความจุสูงๆ จะช่วยให้อัปเดตหรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นต่างๆ มาเก็บไว้ใช้งานได้เยอะกว่า

สำหรับใครที่ทำงานด้านเอกสาร หรือต้องจัดการไฟล์งานต่างๆ แต่มีงบจำกัด อาจเลือกแท็บเล็ตที่ความจุไม่สูงมาก แล้วใช้ตัวช่วยเป็นการเก็บข้อมูลบนคลาวน์ (Cloud) อย่าง Google Drive หรือ OneDrive ที่สามารถฝากรูปฝากไฟล์ได้ฟรี ส่วนคนที่ต้องการแท็บเล็ตเอาไว้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นโซเชียล ก็อาจใช้แท็บเล็ตที่ความจุไม่ต้องเยอะมาก แต่เน้นสัญญาณ Wi-Fi แรงๆ ก็เพียงพอต่อความต้องการแล้วล่ะค่ะ

เลือกแท็บเล็ตแบบ Wi-Fi หรือ Wi-Fi + Cellular

อีกหนึ่งข้อสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนซื้อ คือจะเลือกซื้อแท็บเล็ตแบบ Wi-Fi หรือ เลือกแบบ Wi-Fi + Cellular โดยพื้นฐานแล้ว แท็บเล็ตจะสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ แต่สิ่งที่ต้องเลือกคือ การเชื่อมต่อแบบ Cellular

ข้อดีของ Wi-Fi + Cellular คือ เราสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลาแม้ในที่ที่ไม่มี Wi-Fi หรือวันไหนที่ Wi-Fi เกิดพัง สัญญาณขาดๆ หายๆ ไม่เสถียร Cellular ก็จะช่วยให้เราใช้งานแท็บเล็ตต่อไปได้ เปรียบเสมือนการใส่ซิมเน็ตบนมือถือ ซึ่งปัจจุบันก็มีให้เลือกทั้งแบบ 3G 4G และ 5G แน่นอนว่าราคาสูงกว่าแท็บเล็ตแบบ Wi-Fi แต่ใครที่ต้องพกพาแท็บเล็ตออกไปทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ แนะนำให้เลือกแบบ Wi-Fi + Cellular ใช้งานได้คุ้มกว่าแน่นอน

ขนาดของแท็บเล็ต

สิ่งสุดท้ายที่ควรพิจารณาก่อนซื้อ คือขนาดของแท็บเล็ต ซึ่งสัมพันธ์กับขนาดของหน้าจอ แท็บเล็ตหน้าจอขนาดใหญ่ 9-12 นิ้ว เหมาะสำหรับเอาไว้ดูหนัง ดูซีรีย์ หรือเล่นเกม จะช่วยเพิ่มอรรถรส ดูได้เต็มตา และสะใจกว่า ทั้งยังมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ เหมาะกับการวาดรูป จดเลคเชอร์ รวมไปถึงเชื่อมต่อใช้งานกับคีย์บอร์ด และเม้าส์ เพื่อทำงานที่บ้านได้สะดวกกว่า แต่สำหรับใครที่ต้องพกแท็บเล็ตติดตัวบ่อยๆ แนะนำให้เลือกหน้าจอขนาด 7-8 นิ้ว พกใส่กระเป๋าสะดวก หยิบออกมาใช้งานง่าย ทั้งยังน้ำหนักเบา หยิบออกมาถือใช้งานง่ายกว่า

วิธีเลือกซื้อแท็บเล็ต

นอกจาก 4 ข้อหลักๆ ที่ควรพิจารณาก่อนซื้อแท็บเล็ต อาจพิจารณาเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ที่ต้องการ หรือแอปพลิเคชันที่อยากใช้เป็นพิเศษ เช่น  อยากใช้สำหรับดูหนัง เล่นเกม อาจพิจารณาเพิ่มเติมที่ความคมชัดหน้าจอ (Resolution) ความอึดของแบตเตอรี่ หรืออยากใช้สำหรับถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ก็พิจารณาเพิ่มเติมที่คุณภาพของกล้องหน้า และกล้องหลัง เป็นต้น

แม้แท็บเล็ตจะไม่ถึงขั้นเป็นของที่ทุกคน ‘ต้อง’ มี แต่ต้องยอมรับว่าเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์และช่วยอำนวยความสะดวกได้หลายอย่าง โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ต้องเปลี่ยนการเรียนการสอนมาอยู่ในรูปแบบออนไลน์ รวมไปถึงการทำงานที่บ้าน แต่ถึงอย่างไร ก็ต้องพิจารณาโดยยึดจากความจำเป็น และงบประมาณเป็นหลัก เพราะถึงแม้จะเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์ แต่ถ้าซื้อมาแล้วใช้ไม่คุ้มก็เสียเงินไปเปล่าๆ นะคะ 

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้ยังต้องเรียนออนไลน์ และเวิร์คฟอร์มโฮมกันอยู่ OfficeMate ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน มีแรงพร้อมเรียน และตื่นมาทำงานได้ทุกวัน ขาดเหลืออุปกรณ์ชิ้นไหน หรืออยากได้แท็บเล็ตไปเพิ่มประสิทธิภาพให้การเรียน และการทำงานที่บ้าน คลิกเลยที่ OfficeMate เราพร้อมอำนวยความสะดวกให้การทำงานที่บ้าน และการเรียนออนไลน์ สั่งวันนี้ ส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ ถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้เท่านั้น! 

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม