ภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในสกิลที่คนวัยทำงานควรมีติดตัวเอาไว้ เผื่อโอกาสในการขยับขยายหน้าที่การงานในอนาคต และภาษาอังกฤษยังช่วยให้เราเข้าถึงแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่นอกเหนือจากภาษาไทยได้ อย่างบทความภาษาอังกฤษ ข่าวภาษาอังกฤษ หรือ Text book ภาษาอังกฤษที่นิยมใช้ในการอ้างอิง หากเราได้ภาษา อ่านออกแปลได้ โอกาสในการเรียนรู้ของเราก็จะเปิดกว้างขึ้น 

วันนี้ OfficeMate เลยจะมาแชร์เทคนิคการฝึกภาษาอังกฤษสนุกๆ ด้วยการดูหนังหรือซีรีย์ เป็นการฝึกแบบสนุกๆ ไม่กดดัน แต่สามารถเอาไปใช้ได้จริง ถึงเวลาได้กลับไปทำงานที่ออฟฟิศเมื่อไหร่ คุณจะฟุดฟิดฟอไฟได้คล่องปร๋อ จนเพื่อนร่วมงานงงแน่นอน!

How to ฝึกภาษาอังกฤษจากหนังและซีรีย์

เลือกประเภทของหนังหรือซีรีย์ที่ชอบ

อย่างที่จั่วหัวเอาไว้ว่าการฝึกภาษาครั้งนี้ จะเป็นการฝึกแบบไม่กดดัน เพราะฉะนั้นแนะนำให้เลือกดูหนังหรือซีรีย์แนวที่ชอบได้เลย ไม่ว่าจะเป็นแนวคอมเมดี้ แนวรอม-คอม หนังรัก หรือหนังวัยรุ่น ซึ่งคำศัพท์ที่ใช้ในหนังหรือซีรีย์เหล่านี้จะเป็นคำศัพท์สมัยใหม่ ฟังง่าย แถมยังมีวลีแปลกๆ หรือศัพท์แสลงที่วัยรุ่นนิยมใช้ สามารถเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ หรือถ้าใครพอมีสกิลภาษาอังกฤษอยู่บ้าง อาจเลือกประเภทหนังหรือซีรีย์ที่แอดวานซ์ขึ้นไปอีก เช่น แนวสืบสวนสอบสวน แนวการแพทย์ หรือแนวธุรกิจ คำศัพท์อาจจะยากขึ้นมาหน่อย แต่จะมีศัพท์เทคนิคที่ใช้ในอาชีพนั้นๆ ให้ได้ยิน สามารถเอาไปปรับใช้ในการทำงานได้แน่นอน  

แต่ที่สำคัญก็คือ ควรเลือกหนังหรือซีรีย์ที่ดำเนินเรื่องในยุคปัจจุบัน เพราะถ้าเป็นซีรีย์พีเรียดย้อนยุค คำศัพท์ส่วนใหญ่จะเป็นศัพท์ที่ใช้กันในยุคนั้นๆ ซึ่งปัจจุบันอาจจะไม่นิยมใช้กันแล้วนั่นเอง แต่ถ้าใครชอบประวัติศาสตร์ อยากรู้บริบท หรือวัฒนธรรมในยุคสมัยต่างๆ จะเลือกดูหนังหรือซีรีย์ย้อนยุคก็ได้ ไม่ว่ากันค่ะ 

เปิด Subtitle ภาษาอังกฤษเพื่อเรียนรู้คำศัพท์

การฝึกภาษาอังกฤษจากหนังหรือซีรีย์ นอกจากการฟังเสียง ฟังสำเนียงแล้ว หากอยากได้คำศัพท์แบบเน้นๆ แนะนำให้เปิดซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษควบคู่ไปด้วย เราจะได้เห็นทั้งคำศัพท์ และรูปประโยค เรียกว่าได้เรียนรู้ทั้งความหมายและไวยากรณ์ไปพร้อมๆ กัน แต่สำหรับใครที่พื้นฐานยังไม่แน่น อาจเปิดซับไตเติ้ลเป็นภาษาไทย เพื่อให้เข้าใจบริบทและเนื้อเรื่องทั้งหมดก่อน แล้วค่อยขยับเลเวล เปิดซับอังกฤษ หรือจะปิดซับอังกฤษ ฟังแต่เสียงไปเลยก็ได้ สิ่งสำคัญคือ ให้ดูซ้ำหลายๆ รอบ แต่ละรอบก็ค่อยๆ เพิ่มเลเวลความยากขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้จะช่วยให้เก่งไวขึ้น

อย่าลืม Dictionary 

ใครอยากฝึกภาษาอังกฤษ สิ่งที่ต้องมีติดตัวเอาไว้เลยก็คือ พจนานุกรมภาษาอังกฤษ หรือ Dictionary สงสัยคำไหน ข้องใจอะไรก็เปิดหา แต่แนะนำว่าตอนดูหนังหรือซีรีย์ถ้าสงสัยคำไหนก็จดเอาไว้ก่อน แล้วค่อยมาเปิดพจนานุกรมย้อนหลัง จะได้ไม่เสียอรรถรสในการดูนะคะ 

Tips จำได้ไว ใช้ได้เร็ว

  • เปิดหนังหรือซีรีย์วนไป อาจเปิดตอนอาบน้ำ ทานข้าว ขับรถ รดน้ำต้นไม้ หรือแต่งหน้า ไม่จำเป็นต้องตั้งใจดู แต่เปิดเพื่อให้สมองได้จดจำเสียง และสำเนียง เมื่อเราได้ฟังบ่อยๆ เสียงและสำเนียงเหล่านั้นก็จะติดอยู่ในหัว ซึ่งเรื่องนี้จะช่วยฝึกเรื่องการพูดภาษาอังกฤษของเราได้
  • เมื่อฟังแล้วก็ต้องพูดตาม อาจพูดตามประโยค หรือคำศัพท์สั้นๆ ที่ได้ยิน แนะนำให้พูดออกเสียง พูดซ้ำๆ เลียนแบบสำเนียงไปเรื่อยๆ หรือจะดูบริบทท่าทางการสื่อสารของตัวละครแล้วเลียนแบบตามก็ได้ จะช่วยให้สมองจดจำคำศัพท์ สำเนียง และท่าทางนั้นคู่กัน จะช่วยให้เราสื่อสารพร้อมสื่ออารมณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น 

แม้จะบอกว่าเป็นการฝึกแบบสบายๆ ไม่กดดันตัวเอง แต่ถ้าอยากเก่งก็แนะนำให้วางแผนการฝึกภาษาอังกฤษกันซักนิด เช่น จัดตารางการฝึกในแต่ละสัปดาห์ สัปดาห์ละ 3-5 วัน วันละอย่างน้อย 30-50 นาที หรือใครที่เวลาว่างไม่แน่นอน อาจใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ดูหนัง ดูซีรีย์เพื่อพักผ่อน ไปพร้อมๆ กับฝึกภาษาก็ได้เช่นกัน แต่ที่สำคัญ คือ ต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่าฝึกๆ หยุดๆ หรือปล่อยทิ้งเอาไว้นาน แบบนี้จะไม่ช่วยให้เก่งขึ้นนะคะ   

แนะนำ 5 ซีรีย์ที่เหมาะสำหรับฝึกภาษาอังกฤษ

F.R.I.E.N.D.S

ฝึกภาษาอังกฤษจากซีรีย์

F.R.I.E.N.D.S เป็นซิทคอมเกี่ยวกับเพื่อนสนิท 6 คน ในแต่ละตอนจะมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น ทั้งเรื่องความรัก ความตลกโปกฮา เรื่องเศร้า เรื่องอกหัก เราจะได้เห็นความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อน และพัฒนาการของตัวละครที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่าเป็นซิทคอมที่ครบรส แถมดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง และยังเหมาะกับการฝึกภาษาอังกฤษ ในเรื่องมีแต่คำศัพท์และบทพูดที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน ทั้งยังสอดแทรกมุกตลกแบบอเมริกันและศัพท์แสลงเอาไว้มากมาย รวมถึงการออกเสียงและสำเนียงที่ฟังง่ายสุดๆ แถมเนื้อเรื่องยังสนุกเบาสมอง มีทั้งหมด 10 ซีซั่นให้ดูกันยาวๆ แถมตอนละ 20 นาทีนิดๆ เอาไว้ฝึกภาษาอังกฤษวันละ 20 นาที ทุกวันได้เลย 

How I met your mother

ฝึกภาษาอังกฤษจากซีรีย์

How I met your mother เป็นอีกหนึ่งซิทคอมที่ควรค่าแก่การดูเพื่อฝึกภาษาอังกฤษ มีทั้งหมด 9 ซีซั่น ความยาวตอนละ 20 นาทีนิดๆ สามารถใช้ฝึกภาษาได้แบบยาวๆ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับพ่อลูกสองที่เล่าเรื่องราวย้อนอดีตว่ากว่าจะได้เจอแม่ของลูกทั้งสองนั้น พ่อต้องผ่านอะไรมาบ้าง แต่ละตอนมีทั้งความสนุก โรแมนติก ออกจะทะลึ่งบ้าง แต่เราจะได้เห็นบริบทการใช้ชีวิตของคนวัยทำงาน พร้อมด้วยคำศัพท์ภาษาอังกฤษและบทสนทนาในชีวิตประจำวันแบบจุกๆ จดจำเอาไปใช้ได้แน่นอน

Sex Education 

ฝึกภาษาอังกฤษจากซีรีย์

Sex Education ซีรีย์จากประเทศอังกฤษ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่นไฮสคูลที่เรียกว่าเป็นวัยว้าวุ่น มีการพูดถึงเรื่องเซ็กซ์อย่างเปิดเผย ซึ่งในซีรีย์จะเน้นย้ำเสมอว่าเซ็กซ์นั้นไม่ใช่เรื่องน่าอาย นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการค้นหาตัวเอง ฮอร์โมนในวัยรุ่น การหย่าร้างของพ่อแม่ ฯลฯ เรียกว่าเป็นซีรีย์ที่จะเปิดมุมมองเรื่องเพศศึกษาแบบที่ในตำราไม่เคยสอน แต่นอกจากเพศศึกษาแล้ว คำศัพท์ในเรื่องยังเป็นศัพท์ง่ายๆ แถมเป็นซีรีย์ในบริบทของยุคปัจจุบัน บทสนทนาเป็นธรรมชาติ มีศัพท์แสลงวัยรุ่น ได้ทั้งสาระและได้ฝึกภาษาไปในตัว     

Dynasty

ฝึกภาษาอังกฤษจากซีรีย์

Dynasty (ไดนาสตี้) เป็นซีรีย์เผ็ดๆ เกี่ยวกับตระกูลมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจพันล้าน เป็นแนวชิงรักหักสวาท ดราม่านิดๆ คอมเมดี้หน่อยๆ แถมยังมีการฆาตกรรมมาเกี่ยวข้อง แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเครียด เพราะเรื่องนี้เน้นไปในแนวชิงไหวชิงพริบ ห้ำหั่นกันแบบแสบๆ คันๆ ซะมากกว่า แต่ด้วยความที่เป็นซีรีย์ภาษาอังกฤษสำเนียงแบบบริติช บวกด้วยบทสนทนาที่เร็วแบบสายฟ้าแลบ จะเหมาะสำหรับคนที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ เอาไว้สำหรับฝึกสำเนียงและการฟัง สำหรับใครที่จะฝึกภาษาอังกฤษอาจจะต้องดูไปหยุดไป แต่เชื่อเถอะว่าไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน!  

The Crown

ฝึกภาษาอังกฤษจากซีรีย์

The Crown เป็นซีรีย์ชีวประวัติของสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ตั้งแต่เริ่มอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟิลิป และขึ้นครองราชย์ ซึ่งต้องเผชิญวิกฤตและอุปสรรคต่างๆ มากมายในการปกครองสหราชอาณาจักร ทั้งเรื่องการเมือง และเรื่องส่วนตัว ภาษาและคำศัพท์ที่ใช้ในเรื่องนี้มีหลายระดับ อาจจะยากไปสักนิด แต่ก็มีคำศัพท์ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ต่างๆ ให้เรียนรู้ ใครชอบเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ราชวงศ์อยู่แล้ว ดูเรื่องนี้แล้วจะตาลุกวาวแน่นอน   

ได้ลิสต์ซีรีย์และเทคนิคการฝึกภาษาอังกฤษจากหนังและซีรีย์กันไปแล้ว หากอยากเห็นผลลัพท์การพัฒนาด้านภาษาอังกฤษของตัวเองก็อย่าลืมว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ฝึกบ่อยๆ ดูซ้ำๆ เขียนและจดศัพท์ให้เป็นนิสัย รับรองว่าช่วยให้เก่งขึ้นได้แน่นอน ว่าแล้วก็เตรียมเครื่องเขียน สมุดโน้ต โพสต์อิท และปากกาสีให้พร้อม ใครยังไม่มีเข้ามาช้อปได้เลยที่ OfficeMate 

ขอบคุณข้อมูลจาก