มีการพยากรณ์เอาไว้ว่า วันหนึ่งข้างหน้าจะมีคนจำนวนหนึ่งต้องตกงานเพราะอาชีพที่พวกเขาทำถูกแทนที่ด้วยการใช้เทคโนโลยี ยิ่งในปัจจุบันยิ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีรุกคืบเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ และเราจะพบสิ่งของเครื่องใช้ที่มีคำต่อท้ายว่า “อัจฉริยะ” มากขึ้น หลาย ๆ กิจการเริ่มนำเทคโนโลยีที่เรียกว่า IOT เข้ามาใช้งานในธุรกิจของตน เพราะความสะดวก แม่นยำ ผิดพลาดน้อย และคุ้มค่ากับประโยชน์ในระยะยาว เทคโนโลยี IOT เข้ามามีบทบาทในวงการอุตสาหกรรมมากขึ้น และเริ่มเข้าสู่ภาคส่วนอื่น ๆ รวมถึงธุรกิจบริการ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อวันหนึ่งธุรกิจบริการที่ใช้คนเป็นส่วนผลักดันทั้งหมดอย่างร้านอาหาร ร้านคาเฟ่เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยี IOT กับเขาบ้าง เรามาดูผลที่ตามมากันครับ

IOT คำนี้ คืออะไร

IOT หรือชื่อเต็มว่า “Internet of Things” ถ้าแปลทับศัพท์คืออินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง หมายถึง “อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่ถูกเชื่อมโยงด้วยเทคโนโลยีเพื่อนำเข้าไปสู่ระบบอินเทอร์เน็ต” เหตุผลที่ต้องเชื่อมมันเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้คนสามารถควบคุมอุปกรณ์เหล่านั้นได้จากที่ไกล ๆ ด้วยอุปกรณ์ควบคุมผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต เช่น การสั่งงานเปิด-ปิดไฟจากที่อื่น เป็นต้น

สิ่งที่ทำให้ IOT มีความฉลาดคืออุปกรณ์ประเภท RFID (เทคโนโลยีระบุสิ่งต่าง ๆ ด้วยคลื่นวิทยุ) และตัวเซ็นเซอร์ที่ทำหน้าที่ตรวจจับ อีกสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตและตัวควบคุม ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน ทำให้คุณสามารถใช้งานเทคโนโลยี IOT ได้ทุกที่ทุกเวลา

IOT_ร้านอาหารร้านคาเฟ่ 3

IOT กำลังจะเปลี่ยนโลก เจ้าของร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ควรปรับตัว

ในทางทฤษฎี IOT คือเทคโนโลยีที่เพิ่มความสะดวกสบาย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่ร้านอาหาร ทำให้การทำงานในร้าน การวางแผนบริหารจัดการร้านทำได้ง่ายขึ้น มีความสะดวกรวดเร็ว แม่นยำ และลดข้อผิดพลาดลง และยังช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการลงไปได้มาก ทำให้เจ้าของร้านสามารถเพิ่มกำไรได้อีกเช่นกัน

แต่หากเจ้าของร้านอาหารหรือคาเฟ่คนใดยังเกิดความลังเลสงสัยว่าเราควรลงทุนเพิ่มเติมในเทคโนโลยีนี้ และนำมาใช้งานมันจะคุ้มค่าหรือไม่ เรามีบทพิสูจน์ครับ จากรายงานการสำรวจการใช้งาน IOT  ของ Vodafone IOT Barometer 2017/2018 ได้รายงานว่าจากผลการสำรวจธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ทั่วโลกกว่า 1,278 รายที่นำ IOT ไปใช้งาน ปรากฏว่ากว่า 95% ได้รับผลประโยชน์กลับมาเป็นรูปธรรมแล้ว โดยร้อยละ 51 กล่าวว่า IOT ช่วยเพิ่มผลกำไรให้บริษัทมากขึ้นและ 36% จากจำนวนนี้บอกว่ากำไรเพิ่มสูงขึ้นกว่า 20 % เลยทีเดียว ขณะที่ IOT ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานลงให้แก่บริษัทถึง 47% ของบริษัททั้งหมด และ 29% จากจำนวนนี้บอกว่าต้นทุนลดลงไปมากถึงกว่า 20% และขณะเดียวกัน IOT ยังช่วยเก็บข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำกว่าเดิม ดังนั้นจึงสรุปว่าเทคโนโลยี IOT ใช้งานได้จริงและได้ผลดีเสียด้วย และดีในระดับที่เจ้าของร้านอาหารและคาเฟ่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว

ที่มา: iot-mktg.vodafone.com

IOT เทคโนโลยีอัจฉริยะที่นำมาประยุกต์ใช้ในร้านอาหาร

เมื่อทราบถึงประสิทธิภาพของ IOT หรือ Internet of Things กันไปแล้ว เรามาดูตัวอย่าง IOT ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ กันครับ

1. Smart Parking ระบบแจ้งสถานะและจองที่จอดรถยนต์

ในร้านอาหารที่ได้รับความนิยมมาก ๆ การโทรมาจองโต๊ะอาหารอาจไม่การันตีว่าจะได้ใช้บริการถ้าเผอิญที่จอดรถเต็ม!! ด้วยระบบ Smart Parking หรือการเช็คว่าที่จอดรถในขณะนี้ว่างหรือไม่และการจองที่จอดรถ โดยเจ้าของร้านเพียงติดตั้งเซ็นเซอร์ไว้ที่ช่องจอดรถ ก็จะทราบได้ทันทีว่าที่จอดรถเต็มหรือไม่ และลูกค้าสามารถจองที่จอดรถได้ผ่าน Application ซึ่งใช้ Passcode เป็นตัวยืนยันสิทธิ์ เพียงเท่านี้ก็หมดปัญหาเรื่องที่จอดรถให้กับลูกค้าแล้วครับ

2. เทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยเสิร์ฟอาหาร

หากปัญหาขาดแคลนพนักงานเสิร์ฟเป็นปัญหาโลกแตกของร้านอาหาร วันนี้หุ่นยนต์ช่วยเสิร์ฟที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี IOT จะเข้ามาอุดช่องว่างนี้ให้แก่ผู้ประกอบการ เพราะหุ่นยนต์จะถูกโปรแกรมให้นำอาหารไปเสิร์ฟตามโต๊ะได้อย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการเสิร์ฟจากการที่สามารถบรรจุอาหารได้ทีละมาก ๆ และลดความผิดพลาดจากการส่งอาหารผิดโต๊ะได้เป็นอย่างดี

3. Self Ordering Tablet ระบบสั่งอาหารด้วยตนเอง

อีกปัญหาสำคัญนอกเหนือจากความผิดพลาดในการเสิร์ฟคือการรับออเดอร์ของพนักงานที่อาจเกิดความผิดพลาดหรือออเดอร์ตกหล่นได้ ด้วยระบบนี้ลูกค้าสามารถเลือกดูเมนูอาหารผ่านแท็บเล็ตและสั่งอาหารที่ต้องการได้ทันที ระบบก็จะส่งข้อมูลอาหารและหมายเลขโต๊ะไปยังห้องครัว ซึ่งร้านอาหารบางแห่งในปัจจุบัน ได้มีการนำเทคโนโลยี IOT ตัวนี้เข้ามาใช้จริงแล้วครับ

IOT_ร้านอาหารร้านคาเฟ่ 2

4. ตู้เย็นอัจฉริยะ

ตู้เย็นอัจฉริยะคือตัวช่วยจัดการดูแลปริมาณวัตถุดิบในร้านอาหาร เจ้าของร้านสามารถตรวจดูปริมาณวัตถุดิบที่ยังเหลืออยู่ในตู้เย็นผ่านกล้องที่ติดไว้ผ่านสมาร์ทโฟน โดยไม่จำเป็นต้องเปิดตู้เย็นหรืออยู่ในครัว และที่สำคัญหากคุณต้องการจะซื้อวัตถุดิบใด ๆ ที่เห็นว่าหมดแล้ว คุณสามารถสั่งซื้อผ่านหน้าจอแท็บเล็ตที่ติดอยู่ที่ตู้เย็น แทนการจดรายการที่มีโอกาสตกหล่นได้

5. กล้องวงจรปิดแบบ Real Time

หากคุณไม่ได้อยู่ที่ร้านและต้องการดูความเป็นไปในร้าน กล้องวงจรปิดแบบ Real Time ช่วยคุณได้ เพราะคุณสามารถเช็คร้านของคุณได้ทุกที่ ทุกเวลาผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน ที่สำคัญคุณสามารถเลือกดูย้อนหลังได้ว่ามีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นบ้าง เพราะวิดีโอที่บันทึกไว้จะถูกจัดเก็บไว้ใน Hard Disk

6. กล้องอัจฉริยะ cloud CCTV

กล้องอัจฉริยะนี้มีการทำงานไม่ต่างจากกล้องวงจรปิดแบบ Real Time แต่ต่างกันที่ข้อมูลจะถูกจัดเก็บไว้ใน cloud แทนเพื่อป้องกันปัญหาข้อมูลสูญหาย ลดความเสี่ยงเรื่องข้อมูลภาพได้ดีขึ้นครับ

ผลกระทบจาก IOT  แม้มีข้อดีแต่ก็มีข้อบกพร่องเช่นกัน

1. การจ้างงานลดลง

IOT คือสวรรค์ของเจ้าของร้านอาหาร แต่มันก็เป็นฝันร้ายสำหรับพนักงานเช่นกัน เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่การทำงานของคนและยังทำได้ดีกว่าด้วย ในอนาคตการจ้างงานในบางตำแหน่งจะลดลงเรื่อย ๆ และอาจเกิดภาวะเลิกจ้างในที่สุด ดังนั้นทั้งเจ้าของร้านและพนักงาน ควรรีบหาทางปรับตัวให้ทันกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนี้นะครับ

2. เทคโนโลยีแม้จะดีเพียงใดแต่ก็อาจเกิดความผิดพลาด

ความผิดพลาดของ IOT เองอาจอยู่ที่ตัวระบบ หากมีจุดใดจุดหนึ่งผิดพลาดก็อาจส่งผลกระทบต่อทั้งระบบ และตัว IOT ยังต้องพึ่งพาระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเกิดระบบอินเตอร์เน็ตขัดข้อง ระบบของร้านก็อาจล่มทั้งระบบได้เช่นกัน

การใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยในร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ อย่าง IOT กำลังแผ่วงกว้าง และเป็นสิ่งที่เจ้าของร้านควรให้ความสนใจนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับร้านของตน จริงอยู่ที่ว่าแม้เทคโนโลยีจะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากคุณศึกษาและใช้อย่างถูกต้องเทคโนโลยีก็คือตัวช่วยให้การทำร้านอาหารของเราง่ายดาย อำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานในร้าน และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงภาพลักษณ์ที่ทันสมัยของร้าน และเป็นอีกวิธีที่สามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไรให้ร้านของคุณได้ครับ