ทุกวันนี้เราสามารถเข้าถึงข่าวสารได้จากทุกทิศทุกทาง ทั้งบนโซเชียลมีเดีย ในทีวี หนังสือพิมพ์ หรือในรายการวิทยุ ยิ่งช่วงนี้มีแต่ข่าวชวนหดหู่ใจ โดยเฉพาะกับข่าวคราวของโควิด-19 ทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อ ตัวเลขผู้เสียชีวิต และสถานการณ์อะไรต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงรายวัน การเสพข่าวมากๆ เห็นภาพข่าวจากทุกๆ แพลตฟอร์ม เห็นอะไรที่ชวนหดหู่ซ้ำๆ ย้ำๆ จึงอาจทำให้เราเกิดความเครียดขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว

ความเครียดระดับไหนที่ควรกังวล?

ความเครียดนั้นมีหลายระดับ ซึ่งเป็นธรรมดาที่เราจะเกิดความเครียดเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นชิน รับมือไม่ได้ รวมไปถึงเหตุการณ์สะเทือนใจต่างๆ แต่หลายคนที่เครียดแล้วส่งผลไปถึงสภาพร่างกาย สภาพจิตใจ การทำงาน รวมถึงการใช้ชีวิต แบบนี้ถือว่าน่าเป็นห่วง และต้องรีบแก้ไข เพื่อไม่ให้มีผลกระทบที่ร้ายแรงตามมา ลองมาเช็กกันดูว่า ทุกวันนี้ คุณมีอาการแบบนี้เกิดขึ้นบ้างรึเปล่า?

เทคนิคเยียวยาตัวเอง
  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดฉุนเฉียวง่ายขึ้นจากเมื่อก่อน
  • นอนหลับยาก หรือนอนหลับไม่สนิท ตื่นกลางดึกบ่อยๆ 
  • มีอาการฝันร้ายต่อเนื่อง
  • วิตกกังวล ครุ่นคิดถึงเรื่องต่างๆ ตลอดเวลา 
  • เบื่อหน่าย ท้อแท้ 
  • ปฏิเสธงานอดิเรกอื่นๆ นั่งๆ นอนๆ ไม่อยากทำอะไร
  • สมาธิแย่ลง 
  • หลงลืมบ่อย 
  • ฟุ้งซ่าน จดจ่อกับงานไม่ได้ ทำงานไม่สำเร็จ
  • พฤติกรรมการกินปกติ เช่น กินไม่ลง หรือกินมากขึ้น  
  • สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์จัดขึ้น

นอกจากอาการต่างๆ เหล่านี้ บางคนหลังจากเสพข่าวแล้วเกิดปวดหัว ปวดท้อง ปวดกล้ามเนื้อ มีอาการใจสั่น หรือหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ นั่นหมายถึงร่างกายของเรากำลังตอบสนองต่อความเครียด เพื่อจะเอาชนะ หรือกำจัดความเครียดออกไป

อาการทางกายและจิตใจที่เกิดขึ้นนี้ หลายคนอาจไม่ได้สังเกต หรือละเลยไป จนความเครียดเริ่มกัดกินจิตใจ ส่งผลไปถึงการใช้ชีวิตประจำวัน กระทบความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง รวมไปถึงหน้าที่การงาน อย่างที่หลายคนพูดบ่อยๆ ว่าช่วงนี้ขาดความคิดสร้างสรรค์ รู้สึกเบื่อ ไม่สามารถครีเอทอะไรใหม่ๆ ได้ ซึ่งก็ถือเป็นสัญญาณเตือนรูปแบบหนึ่งเช่นกัน นอกจากนั้น ความเครียดยังทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำลง ส่งผลให้เป็นหวัดง่าย ท้องเสียบ่อย หรืออาจมีผื่นขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าการเจ็บไข้ได้ป่วยในช่วงนี้ มีแต่จะทำให้เครียดหนักยิ่งกว่าเดิม

ดังนั้น ลองใช้เวลาซัก 5 นาทีในแต่ละวัน สังเกตทบทวนตัวเอง หากรู้สึกว่ามีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น อย่าปล่อยเอาไว้ มาหาทางจัดการกับความเครียด และเยียวยาจิตใจตัวเองกันดีกว่าค่ะ 

เยียวยาตัวเองจากความเครียดเหล่านี้ยังไงดี?  

เทคนิคเยียวยาตัวเอง
  • กำหนดเวลาการติดตามข่าวในแต่ละวัน แนะนำให้เช็กข่าววันละครั้งตอนเช้า หรือตอนเย็น งดเช็กข่าวระหว่างทำงาน และก่อนนอน ที่สำคัญ คืออ่านข่าวจากช่องทางที่เชื่อถือได้เท่านั้น     
  • รู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง ใครที่เสพข่าวจนเกิดความเครียด จิตใจห่อเหี่ยว หรือมีอาการเศร้าซึม แนะนำให้ปิดรับข่าวสารซักพัก เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ
  • แม้สถานการณ์ตอนนี้จะไม่ปกติ แต่ก็แนะนำว่าให้พยายามใช้ชีวิตประจำวันให้เป็นปกติ ทำกิจวัตรตอนเช้า วางแผนการทำงานในแต่ละวัน และทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมาย ส่วนงานอดิเรกที่เคยทำก็ทำต่อไป หรืออาจจะลองหาอะไรใหม่ๆ ทำ เช่น ปลูกต้นไม้ ดูหนังแนวที่ไม่เคยดู ฝึกทำขนม หาคอร์สเรียนออนไลน์ อ่านหนังสือ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองไปจากข่าวสารที่ชวนเครียด 
  • ดูแลตัวเอง อย่าปล่อยให้ร่างกายทรุดโทรม  กินอาหารดีๆ ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ป้องกันไม่ให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง จะได้ไม่เจ็บป่วยง่าย 
  • ติดต่อกับเพื่อน และครอบครัว พูดคุยแลกเปลี่ยนให้กำลังใจซึ่งกันและกันบ้าง หรืออาจจะใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงให้มากขึ้น เพราะงานวิจัยบอกว่าสัตว์เลี้ยงที่เราเลี้ยงไว้ เป็นตัวช่วยเยียวยาจิตใจชั้นดีเลยทีเดียว

ในช่วงนี้นอกจากป้องกันตัวเองจากโควิด-19 แล้ว ก็ต้องให้ความสำคัญกับสภาพจิตใจด้วยเช่นกัน หมั่นเช็กอาการทางร่างกาย และตรวจสอบสภาพจิตใจของตัวเองอยู่เสมอ นอกจากนั้น ควรสังเกตอาการของคนใกล้ชิด โดยเฉพาะคนที่มีประวัติเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต หากผู้ป่วยมีอาการกำเริบ หรือผิดปกติไปจากเดิม ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้รักษาทันที หรือสำหรับใครที่รู้สึกตัวว่าช่วงนี้สภาพจิตใจย่ำแย่ลง ทำงานไม่ได้ ใช้ชีวิตประจำวันไม่มีความสุข ก็สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาจากจิตแพทย์ได้เช่นกัน  

ข่าวสารสามารถติดตามได้เพื่ออัปเดตสถานการณ์ แต่อย่าหมกหมุ่นกับข่าวที่กระตุ้นอารมณ์มากเกินไป เซฟใจตัวเองเอาไว้ก่อน จะได้มีแรงต่อสู้ และผ่านสถานการณ์นี้ไปให้ได้ OfficeMate เป็นกำลังใจให้นะคะ

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม

ขอบคุณข้อมูลจาก : bangkokhospital