อาการปวดหลังเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการนั่งทำงานนานๆ นั่งผิดท่า การยกของหนัก รวมถึงการยืนเป็นเวลานาน อาการปวดหลังส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นมากกับคนในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป แต่ทุกวันนี้กลุ่มคนอายุ 20 ต้นๆ ที่ต้องนั่งทำงานนานๆ หรือแม้แต่เด็กที่เรียนออนไลน์กันในขณะนี้ ก็มีปัญหาอาการปวดหลังได้เช่นเดียวกัน 

แม้จะอาการปวดหลังจะหายได้เอง แต่ต้องยอมรับว่าเวลาที่ปวดนั้นค่อนข้างทรมาณ และหลายครั้งก็ปวดจนทำให้เสียสมาธิ วันนี้ OfficeMate เลยมาแชร์วิธีแก้ปวดหลังที่เพื่อนๆ สามารถทำเองได้ที่บ้าน รับรองว่าจะช่วยให้อาการปวดหลังบรรเทาลงได้แน่นอน ไปดูกันเลย

7 วิธีแก้อาการปวดหลังด้วยตัวเอง

1.ปรับท่านอนใหม่

วิธีแก้ปวดหลัง

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลายคนปวดหลังมาจากการนอนไม่ถูกท่า ถ้าใครมีอาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่ในตอนเช้าหลังตื่นนอน OfficeMate ก็ขอแนะนำให้รีบปรับท่านอนด่วนๆ ก่อนจะกลายเป็นอาการปวดเรื้อรัง โดยท่านอนที่ช่วยให้หายปวดหลังได้ มีดังนี้

  • นอนหนุนหมอนตะแคงด้านขวา แล้วเอาหมอนอีกใบมารองตรงช่องว่างระหว่างขาทั้ง 2 ข้าง
  • นอนหงายแล้วหนุนหมอนเอาไว้ใต้เข่า

ท่านอนทั้ง 2 นี้ จะช่วยให้กระดูกสันหลังไม่คดงอ และช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ  ซึ่งจะช่วยลดและป้องกันอาการปวดหลังหลังตื่นนอนได้ดี 

2.ประคบร้อน หรือประคบเย็น

มาต่อกันที่วิธีง่ายๆ อย่างการประคบเย็น และประคบร้อน ใครที่เพิ่งเริ่มมีอาการปวดหลัง ให้นำน้ำแข็งห่อในผ้าขาวบาง หรือผ้าขนหนู วางประคบเอาไว้บริเวณที่ปวดประมาณ 20 นาที ความเย็นจะช่วยบรรเทาอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ และคลายอาการปวดลงได้

ส่วนใครที่ปวดหลังเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มานาน แนะนำให้ใช้แผ่นแปะแบบร้อน แปะเอาไว้บริเวณที่ปวด หรืออาบน้ำอุ่นๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ขยายหลอดเลือดให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น วิธีนี้นอกจากช่วยให้หายปวดหลังแล้ว ยังช่วยให้นอนหลับสบายขึ้นอีกด้วย

3.ทำท่าโยคะ และท่าบริหารยืดกล้ามเนื้อ

สำหรับชาวออฟฟิศที่วันๆ นั่งอยู่แต่หน้าคอมเป็นเวลาหลายชั่วโมง กล้ามเนื้อตึงเกร็งจนปวดไปทั้งหลัง OfficeMate แนะนำให้ทำท่ากายบริหาร หรือท่าโยคะง่ายๆ ทุกวัน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อ ลดอาการตึงเกร็ง และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกยิ่งขึ้น สำหรับท่าโยคะ และท่ากายบริหารที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้ สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้เลยที่ 

4.ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ

นอกจากทำท่ากายบริหารหรือยืดเหยียดกล้ามเนื้อแล้ว แนะนำให้ออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่ว่าจะออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ หรือจะเล่นเวทเทรนนิ่งก็ได้ เพราะการออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ และเพิ่มความทนทานให้กับร่างกาย ใครที่ออกกำลังกายแบบใช้กล้ามเนื้อเป็นประจำ จะเห็นความแตกต่างเลยว่า อาการปวดหลังนั้นบรรเทาลงได้จริง โดยเฉพาะกับคนที่มีน้ำหนักตัวค่อนข้างมาก แนะนำให้ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักตัวลง จะช่วยให้กล้ามเนื้อหลังไม่ต้องทำงานหนัก หายตึง หายเกร็ง ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดหลังลงได้

5.นวดหลัง และเอว

อะไรจะช่วยคลายปวดได้ดีไปกว่าการนวด ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องออกไปจ่ายเงินนวดก็สามารถนวดหลังบรรเทาอาการปวดด้วยตัวเองได้ วิธีการ คือ นั่งขัดสมาธิหลังตรง กำมือทั้งสองข้างไปวางไว้ที่บริเวณเอว ออกแรงกดคลึงบั้นเอว จากนั้นใช้กำปั้นทุบหรือคลึงเบาๆ ไปที่บริเวณไหล่ หรือบริเวณที่มีอาการปวด ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง อาจใช้ยาหม่องทาพร้อมนวดไปด้วย จะช่วยคลายกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น

6.ปรับท่านั่งทำงานให้ถูกต้อง

วิธีแก้ปวดหลัง

นอกจากการนอนผิดท่าจะทำให้ปวดหลัง การนั่งผิดท่าก็ทำให้ปวดหลัง จนอาจลุกลามกลายเป็น Office Syndrome หรือปวดหลังเรื้อรังได้เลย 4 ท่านั่งที่ไม่ควรนั่ง ก็คือ 1. ท่านั่งไขว่ห้าง 2. นั่งขัดสมาธิ 3. นั่งหลังงอ และ 4. นั่งไม่เต็มก้น อ่านเพิ่มเติมได้เลยที่ 4 ท่านั่งทำงานสุดอันตราย ไม่อยากปวดหลัง รีบปรับด่วน!

ส่วนท่านั่งที่ถูกต้องนั้น คือการนั่งหลังตรง ก้นเต็มเก้าอี้ คอตั้งตรง และเท้าวางติดขนานกับพื้น สำหรับชาวออฟฟิศที่นั่งทำงานนานๆ แล้วมีอาการปวดหลัง แนะนำให้ลุกขึ้นมาจัดพื้นที่ทำงานใหม่ ตามคำแนะนำของเรา ดังนี้

  • เก้าอี้ต้องปรับให้ได้ระดับกับโต๊ะ คือสามารถนั่งทำงานได้โดยที่ฝ่าเท้าแตะพื้นพอดี และข้อศอกตั้งฉาก 90 องศา ขนานไปกับโต๊ะ 
  • หลังต้องชิดติดกับพนักพิง บริเวณก้นกบไม่ควรเหลือช่องว่าง อาจหาหมอนเล็กๆ ม้วนผ้าขนหนู หรือใช้หมอนรองหลัง จะช่วยให้เรานั่งหลังตรงได้อัตโนมัติ ช่วยรับน้ำหนัก ทำให้แผ่นหลังไม่เกร็งตึง และนั่งทำงานนานๆ ได้สบายขึ้น
  • ถ้าอยากนั่งทำงานบนเตียง ควรมีโต๊ะวางโน้ตบุ๊ก นั่งหลังตรงพิงหัวเตียง แนะนำว่าให้มีหมอนรองหลัง หรือม้วนผ้าขนหนูรองไว้บริเวณก้นกบ

7.เปลี่ยนมาใช้เก้าอี้เพื่อสุขภาพ

วิธีสุดท้ายที่อยากแนะนำ สำหรับชาวออฟฟิศหรือใครก็ตามที่ต้องนั่งทำงานทั้งวัน ควรเปลี่ยนมาใช้เก้าอี้เพื่อสุขภาพ หรือเก้าอี้ Ergonomic ซึ่งเป็นเก้าอี้ที่ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ แม้ลักษณะภายนอกจะดูเหมือนเก้าอี้นั่งทำงานทั่วๆ ไป แต่ทุกส่วนประกอบของเก้าอี้เพื่อสุขภาพ ได้ออกแบบมาเพื่อช่วยจัดระเบียบร่างกายของผู้ใช้งานให้อยู่ในท่านั่งที่ถูกต้อง มีที่พักศีรษะสำหรับผ่อนคลายต้นคอ พนักพิงหลังมีซัพพอร์ตช่วยรับน้ำหนัก ป้องกันไม่ให้กระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อหลังทำงานหนักเกินไป เบาะรองนั่งขนาดใหญ่ นั่งได้เต็มก้น ส่วนที่พักแขนและเก้าอี้จะสามารถปรับระดับได้ เพื่อให้นั่งแล้วแขนสามารถวางระนาบไปกับโต๊ะได้พอดีและเท้าติดพื้น

จะเห็นว่าเก้าอี้ Ergonomic ออกแบบมาให้สามารถปรับส่วนต่างๆ ได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนนั้นก็เพื่อให้ทุกส่วนของเก้าอี้พอเหมาะพอดีกับสรีระของผู้ใช้งาน เพื่อจัดท่านั่งที่เหมาะสมให้กับผู้ใช้แต่ละคนได้อย่างตรงจุด

อ่านมาถึงตรงนี้ ใครมีอาการปวดหลัง หรือปวดคอบ่าไหล่จนต้องกินยาแก้ปวดบ่อยๆ ลองเอาวิธีที่เราแนะนำไปใช้กันดูนะคะ ส่วนใครที่สนใจเก้าอี้เพื่อสุขภาพ สามารถเข้ามาเลือกช้อปได้เลยที่ เว็บไซต์ OfficeMate ช้อปวันนี้ มีทั้งของแถมดีๆ และโปรโมชั่นเด็ดๆ พร้อมบริการส่งฟรีทันทีเมื่อช้อปครบ 499 บาท! 

บทความแนะนำ!

ขอบคุณข้อมูลจาก