พูดถึงงานบ้าน ต่างคนก็ต่างส่ายหน้า กว่าจะเสร็จงานแต่ละวัน เหนื่อยสายตัวแทบขาด ยังต้องมานั่งทำงานบ้านอีกเหรอ? ใครจะคิดแบบนี้ก็ไม่ผิด ด้วยภาระงานที่ต้องสะสาง ทั้งยังต้องแบกรับความเครียดต่างๆ จบวันก็หมดแรง ไม่มีกะใจจะทำอะไรต่อ…

แต่ทุกวันนี้ ที่เราต้องนั่งทำงานที่บ้าน ใช้ชีวิตที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อบ้านไม่ใช่แค่สถานที่พักผ่อนหลับนอนเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป การจัดการสภาพแวดล้อมในบ้านให้สะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อยากให้ละเลย ลองคิดดูว่า เราอยากอยู่ในบ้านแบบไหนมากกว่ากัน ระหว่างบ้านสะอาดๆ ข้าวของเป็นระเบียบ ผ้าปูที่นอนหอมฟุ้ง กับบ้านที่สกปรก รกรุงรัง เสื้อผ้าเหม็นอับอยู่ในตะกร้า ล้มตัวลงนอนก็มีแต่กลิ่นไม่พึงประสงค์ หากบ้านเป็นแบบนี้ แล้วเราจะนอนหลับพักผ่อน ใช้ชีวิตในบ้านอย่างมีความสุขได้จริงหรือ?

บ้านสกปรก ข้าวของอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง นอกจากจะไม่น่าอยู่ ดูแล้วไม่สบายตา ยังเป็นการเพิ่มระดับความเครียด ทำให้หงุดหงิด และเกิดความว้าวุ่นในใจได้แบบไม่รู้ตัว การต้องนั่งทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่ดูยุ่งเหยิง ยังเป็นการปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย วันนี้ OfficeMate เลยจะชวนทุกคนลุกขึ้นมาทำงานบ้าน ว่าด้วยงานบ้าน 4 อย่าง ที่ทำแล้วช่วยให้หายเครียด แถมยังช่วยสร้างสภาพแวดล้อมดีๆ ให้เหมาะกับการทำงาน และการพักผ่อนได้อีกด้วย เพราะดูเหมือนเราจะยังต้องอยู่แต่บ้านกันไปอีกนาน เพราะฉะนั้น มาทำบ้านให้น่าอยู่กันดีกว่า !

ล้างจานช่วยผ่อนคลาย และทำให้จิตใจสงบ

ทำงานบ้าน

กินข้าวเสร็จแล้วแต่ไม่อยากล้างจาน ปล่อยทิ้งไว้ในอ่างอยู่อย่างนั้น นอกจากไม่น่ามองแล้ว ยังส่งกลิ่นเหม็นทำให้แบคทีเรียหมักหมม หากทิ้งไว้หลายวันอาจเกิดเชื้อราจากเศษอาหาร แถมเป็นตัวล่อแมลงเข้าบ้าน ซึ่งหลายคนอาจแก้ปัญหาด้วยการสั่งเดลิเวอรีแบบบรรจุภัณฑ์พร้อมทานมากิน เสร็จแล้วก็โยนทิ้งง่ายๆ ไม่ต้องเปลืองแรง แต่วันนี้ OfficeMate ขอนำเสนอผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เขาบอกว่าการล้างจานเป็นหนึ่งในวิธีคลายเครียดที่ทำแล้วได้ผลจริง 

งานวิจัยบอกว่า การล้างจานนั้นทำให้จิตใจสงบ และช่วยเพิ่มสมาธิ เพราะขณะที่ล้างจาน เราได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ล้างจานใบแล้วใบเล่า ทำแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมา เสมือนเป็นการทำสมาธิ จิตใจของเราจะจดจ่ออยู่กับกลิ่นของน้ำยาล้างจาน และอุณหภูมิของน้ำที่สัมผัสกับมือ ซึ่งช่วยให้จิตใจสงบ สมองปลอดโปร่ง และผ่อนคลายได้ชั่วขณะ ผลทดลองจากกลุ่มตัวอย่างยังพบว่าการล้างจานช่วยลดความเครียดได้ 26% ทั้งยังช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจได้ถึง 23% เห็นแบบนี้แล้ว ทานข้าวเสร็จตอนพักเที่ยง ก็ลองพักสมองจากงาน เพิ่มความผ่อนคลายซักแป๊บด้วยการล้างจานดูนะคะ (ข้อมูลจาก kinyupen.co)

เก็บที่นอนตอนเช้า มีแนวโน้มช่วยให้หลับฝันดี

ทำงานบ้าน

เก็บที่นอนตอนเช้าเป็นเรื่องที่หลายๆ คนละเลย เพราะสมองมักจะไปโฟกัสกับงานที่คั่งค้างหรืออย่างอื่นที่ต้องทำหลังตื่นนอนมากกว่า แต่งานวิจัยบอกว่าการเก็บที่นอนทันทีหลังตื่นนอนนั้นช่วยให้จิตใจสงบ และดีต่อสุขภาพร่างกาย

อย่างแรกเลย คือ การเก็บที่นอนช่วยให้ภาพรวมของห้องดูสะอาดขึ้น ไม่ว่าสภาพห้องของคุณจะรกแค่ไหน แต่ถ้าบนเตียงเป็นระเบียบ ก็จะทำให้ทั้งห้องดูสะอาดเรียบร้อยตามไปด้วย อีกทั้งยังมีผลงานวิจัยจาก National Sleep Foundation ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่าง พบว่าการเก็บที่นอนในตอนเช้าช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนในตอนกลางคืน และมีแนวโน้มว่าจะช่วยให้นอนหลับฝันดีอีกด้วย สำหรับการเก็บที่นอนแนะนำว่าให้เก็บแบบพับผ้าห่มไว้ที่ปลายเตียง ไม่จำเป็นต้องหาผ้ามาคลุม เพื่อให้เตียงได้โดนแดด และระบายความชื้นจากคราบเหงื่อไคลของเราออกไป เป็นการลดแบคทีเรียและไรฝุ่นที่อาจก่อให้เกิดภูมิแพ้ ช่วยให้สุขภาพของเราดีขึ้นได้ (ข้อมูลจาก brandthink.me)

นอกจากเก็บที่นอนแล้ววันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ถ้าไม่รู้จะทำอะไรดี แนะนำให้ขนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนและผ้าห่มไปซักให้สะอาด ตากแดดหรืออบให้หอมฟู เท่านี้ที่นอนก็จะไม่กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอีกต่อไป ทั้งยังช่วยให้ผ่อนคลายและหลับสบายขึ้นด้วยกลิ่นหอมๆ ของน้ำยาปรับผ้านุ่ม     

ดูดฝุ่นช่วยให้สุขภาพดีขึ้น

ทำงานบ้าน

การดูดฝุ่นนี้อาจเรียกได้ว่าช่วยคลายเครียดจากปัญหาสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะกับคนเป็นภูมิแพ้ การจามหนักๆ หรือน้ำมูกไหลทุกเช้า บางคนมีผื่นขึ้นจนแสบคัน ทั้งหมดนี้อาจดูเป็นเรื่องเล็ก แต่ก็สร้างความรำคาญใจ และรบกวนการทำงานได้ ดังนั้น หากวันไหนมีเวลาว่าง ไม่ว่าจะหลังเลิกงาน หรือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็แนะนำว่าให้ลองลุกขึ้นมาดูดฝุ่นในห้อง จัดการให้สะอาดทุกซอกทุกมุม รับรองว่าใช้เวลาไม่นาน แถมยังช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ไม่ต้องนอนหรือนั่งทำงานท่ามกลางฝุ่นละอองคละคลุ้งทั่วห้องอีกต่อไป 

จัดเก็บของให้เข้าที่ ช่วยขจัดความคิดอันสับสนและยุ่งเหยิง

ทำงานบ้าน

อย่างที่บอกว่าห้องรกๆ ข้าวของกระจัดกระจาย ทำให้ความคิดของเรายุ่งเหยิง ส่งผลให้เกิดความเครียด และทำงานไม่สำเร็จตามเป้าหมาย อ้างอิงจากผลวิจัยของ Princeton University พบว่าของที่กระจัดกระจายไม่เป็นที่ ทำให้เราไม่มีสมาธิกับงานตรงหน้า สมองไม่สามารถโฟกัสกับปัญหาที่ต้องแก้ได้ เพราะสายตาถูกรบกวนด้วยความไม่เป็นระเบียบบนโต๊ะทำงาน หรือข้าวของและขยะที่เกลื้อนอยู่บนพื้นห้อง เมื่อสมาธิถูกทำลาย ก็ส่งผลถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง นำมาซึ่งความเครียดและความกดดัน (ข้อมูลจาก thematter.co)

ดังนั้น เพื่อเพิ่มสมาธิให้การทำงาน ลองเริ่มจากการจัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ เก็บเอกสารใส่แฟ้ม เก็บปากกาในที่ใส่ปากกา หากวันไหนมีเวลาว่างก็ค่อยเก็บจัดบ้านให้เข้าที่เข้าทาง และอย่าลืมเอาขยะไปทิ้งทุกวัน ถือเป็นการเคลียร์ความยุ่งเหยิงออกจากบ้าน เมื่อบ้านสะอาดและเป็นระเบียบ มองไปทางไหนก็สบายตา รับรองว่าช่วยลดระดับความเครียดลง และช่วยให้ความคิดเป็นระเบียบมากขึ้น หรือถ้าอยากเพิ่มแรงบันดาลใจ อาจหาของแต่งบ้านสวยๆ หรือปลูกต้นไม้ในบ้านก็ช่วยให้บ้านน่าอยู่ขึ้นได้ 

นอกจากคลายเครียดแล้ว การทำความสะอาดบ้านในช่วงนี้ยังเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้มีเชื้อโรคหมักหมม จะได้ไม่ป่วยออดๆ แอดๆ ซึ่งมีแต่จะยิ่งทำให้เครียดหนักยิ่งกว่าเดิม ดังนั้น มาดูแลสภาพแวดล้อมในบ้าน ด้วยอุปกรณ์ทำความสะอาดจากออฟฟิศเมท อยากได้เครื่องดูดฝุ่น น้ำยาล้างจาน หรืออุปกรณ์อื่นๆ คลิกช้อปออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยที่เว็บไซต์ OfficeMate