สวมหน้ากากผ้า อาจไม่ช่วยป้องกันเชื้อโควิด-19 กลายพันธ์ุ

โควิด-19 ที่นับวันยิ่งเพิ่มพูนกลายพันธุ์และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หน้ากากผ้าเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ผู้คนนิยมสวมใส่เพื่อป้องกันตัวเองจากเชื้อโควิด-19 แต่ทว่า หน้ากากผ้าที่มีคุณลักษณะแตกต่างจากหน้ากากอนามัย จะช่วยให้เราปลอดภัยจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์เหล่านี้ได้จริงมั้ย?

Table of Contents

หน้ากากผ้าอาจไม่สามารถช่วยป้องกันเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ได้

เมื่อไม่นานมานี้มีคุณหมอท่านหนึ่งออกมาบอกว่า การสวมหน้ากากผ้านั้นอาจไม่สามารถป้องกันเชื้อโควิดกลายพันธุ์ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า

หน้ากากผ้ามีประสิทธิภาพช่วยป้องกันละอองจากการไอ จาม ของผู้สวมใส่ได้ แต่ประสิทธิภาพการป้องกันละอองฝอยและเชื้อไวรัสที่ลอยอยู่ในอากาศนั้นยังไม่เทียบเท่าการใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ กล่าวคือ หน้ากากผ้าป้องกันเชื้อออกได้ดีกว่าป้องกันเชื้อเข้า
หน้ากากผ้าที่ผลิตกันส่วนใหญ่จะไม่มีเส้นลวดให้บีบเพื่อยึดกับสันจมูก เมื่อหน้ากากผ้าไม่กระชับพอดีกับใบหน้า มีช่องว่างเหลือเยอะ ประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อก็ลดลง
ในช่วงแรกของการระบาด เราสามารถสวมใส่หน้ากากผ้ากันได้ ด้วยความที่ผู้ติดเชื้อยังมีจำนวนน้อย รวมถึงความรุนแรงของโรคก็ยังไม่มาก แต่ถ้าเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน หน้ากากผ้าที่มีประสิทธิภาพการป้องกันน้อยกว่าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์อาจจะเอาไม่อยู่

นอกจากเหตุผลของคุณหมอแล้ว ความแตกต่างอีกอย่างของหน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ คือ เรื่องของการใช้งาน หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เป็นหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง แต่หน้ากากผ้าเป็นหน้ากากที่ผลิตออกมาให้สามารถใช้ซ้ำได้ ซึ่งการใช้ซ้ำนี้เอง ที่ทำให้หน้ากากผ้ากลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและเชื้อไวรัส นอกจากนั้น การเสื่อมสภาพของหน้ากากผ้ายังสังเกตได้ยาก บางคนสวมใส่หน้ากากผ้าอันเก่ามานานโดยไม่ได้เปลี่ยน ซึ่งหากหน้ากากผ้าเสื่อมสภาพแล้ว ประสิทธิภาพก็ลดลง เสี่ยงจะได้รับเชื้อมากขึ้น

พูดมาถึงตรงนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถสวมหน้ากากผ้าได้อีกต่อไป แต่ควรเลือกหน้ากากผ้าที่ได้มาตรฐาน สวมให้ถูกวิธี พร้อมดูแลรักษาความสะอาดของหน้ากากผ้าอย่างถูกต้อง

หน้ากากผ้าต้องได้มาตรฐานและสวมให้ถูกวิธี

เลือกขนาดหน้ากากผ้าให้กระชับพอดีกับใบหน้า มีเส้นลวดหรือออกแบบมาให้รับกับสันจมูกได้ ใส่แล้วพูดคุยได้ไม่ลื่นหลุด
หน้ากากผ้าต้องไม่มีรอยเย็บหรือตะเข็บอยู่ตรงกลาง เพราะรูจากรอยเย็บหรือตะเข็บ อาจทำให้เชื้อไวรัส ละอองฝอย หรือละอองสารคัดหลั่งสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้
หน้ากากผ้าที่ได้มาตรฐานสามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ควรมี 3 ชั้น

ชั้นในสุดที่สัมผัสกับใบหน้า ควรทำมาจากวัสดุที่ดูดซับน้ำได้ อย่าง ผ้าฝ้าย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของสารคัดหลั่งจากตัวผู้สวมใส่
ชั้นกลางควรเป็นวัสดุที่ไม่ผ่านการถักทอ เช่น โพลีโพรพิลิน หรือมีช่องว่างให้ใส่แผ่นกรองเพิ่มได้ เพื่อเป็นตัวกรองอนุภาคขนาดเล็กต่างๆ ฝุ่นละออง เชื้อไวรัส และละอองฝอย
ชั้นนอกสุด ต้องทำมาจากผ้าสะท้อนน้ำหรือผ้าที่ไม่ดูดซับน้ำ เช่น โพลีเอสเตอร์ เพื่อป้องกันละอองฝอยและสารคัดหลั่งจากการไอ จาม

สวมหน้ากาก 2 ชั้น ป้องกันได้ 95%

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐฯ (CDC) สรุปแล้วว่า การสวมหน้ากาก 2 ชั้น ‘แบบถูกวิธี’ สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ 95% ซึ่งการสวมหน้ากาก 2 ชั้น แบบถูกวิธี คือ สวมหน้ากากอนามัยเอาไว้ด้านใน แล้วทับด้วยหน้ากากผ้า จะช่วยเพิ่มความกระชับ ลดช่องโหว่ระหว่างหน้ากากอนามัยกับใบหน้า และหน้ากากทั้ง 2 ชนิดนี้ ก็ควรเลือกแบบที่ได้มาตรฐาน ก็จะช่วยป้องกันได้สูงสุด

นอกจากการสวมหน้ากากให้ถูกวิธี ก็ควรกำจัดให้ถูกวิธีด้วยเช่นกัน สำหรับหน้ากากอนามัยถอดแล้วต้องแยกทิ้งจากขยะประเภทอื่นๆ แนะนำให้ทิ้งในถุงพลาสติกหรือถุงขยะที่สามารถมัดปากถุงได้ ติดป้ายเป็นขยะติดเชื้อหรือทิ้งในถุงขยะสีแดงโดยเฉพาะ ส่วนหน้ากากผ้า แม้จะใช้ซ้ำได้ แต่ควรเปลี่ยนสลับไปใช้อันใหม่และซักทำความสะอาดทุกวัน ที่สำคัญเมื่อจัดการซักและทิ้งหน้ากากอนามัยแล้ว ต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง

วิธีซักหน้ากากผ้า

ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนและหลังซักหน้ากากผ้า
ซักหน้ากากผ้าด้วยมือ ไม่ควรซักในเครื่องซักผ้า แนะนำให้ใช้สบู่เด็กหรือน้ำยาซักผ้าเด็ก ที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ขยี้เบาๆ เพื่อถนอมเนื้อผ้า ยืดอายุหน้ากากผ้าไม่ให้ขาดหรือเป็นรู
ตากให้แห้งสนิทก่อนนำมาใช้ และถ้ายังไม่ได้ใช้ทันทีควรเก็บเอาไว้ในถุงซิปล็อคหรือกล่องมีฝาปิดที่สะอาด
หน้ากากผ้าบางยี่ห้อจะระบุจำนวนครั้งที่ซักได้ หากครบจำนวนหรือพบว่าหน้ากากมีรอยชำรุด ขาด เริ่มเปื่อย ต้องรีบเปลี่ยนทันที

หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย เป็นเกราะป้องกันชั้นแรก เราจึงควรเลือกเกราะที่มีประสิทธิภาพพอที่จะช่วยให้เรารอดพ้นจากเชื้อไวรัสนี้ได้ เพราะศึกครั้งนี้ยังไม่จบลงง่ายๆ มาช้อปเกราะป้องกัน หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หน้ากากผ้าคุณภาพดี พร้อมบริการส่งฟรี ได้เลยที่ OfficeMate!