ทุกๆ บ้านที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้า ก็คงต้องมีปลั๊กไฟ ปลั๊กพ่วง หรือที่บางคนอาจจะเรียกว่ารางปลั๊กไฟกันเป็นปกติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอะไรที่สามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป  แต่เคยสงสัยกันไหมคะว่า  จะซื้อปลั๊กไฟทั้งที  เราจะต้องเลือกจากอะไรบ้าง?  หลายคนอาจจะคิดว่า ปลั๊กไฟแบบไหน ราคาไหน ก็ใช้งานได้เหมือนๆกัน จึงละเลยเรื่องความปลอดภัยไป แต่รู้หรือเปล่าว่าการใช้ปลั๊กไฟที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่เหมาะสมกับการใช้งาน จะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้เลยนะคะ

ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นการใช้ไฟมากกว่าที่ปลั๊กไฟจะรับไหวทำให้สายไฟฟ้าร้อนจนหลอมละลาย ซึ่งเมื่อสายทองแดงด้านในสองเส้นแตะกันจะทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรแล้วอาจเกิดไฟไหม้ ดังนั้นก่อนจะซื้อปลั๊กไฟ ก็ควรจะศึกษารายเอียดต่างๆให้ดีเสียก่อน อย่าเลือกปลั๊กไฟราคาถูกแต่ไม่มีมาตรฐาน เพราะถ้าเกิดอันตรายขึ้นอาจจะได้ไม่คุ้มเสียกันเลยทีเดียว และวันนี้ออฟฟิศเมทก็มีวิธีเลือกปลั๊กไฟมาฝากกันค่ะ จะซื้อปลั๊กไฟทั้งทีต้องดูอะไรบ้าง?

1. ดูเครื่องหมาย มอก.2432 เท่านั้น เพราะเครื่องหมายนี้เป็นมาตรฐานเต้าเสียบและเต้ารับสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและงานทั่วไป โดยต้องระวังผู้ผลิตที่หัวใส ใส่เครื่องหมาย มอก.11 ลงไป ทั้งที่เครื่องหมายนี้เป็นมาตรฐานบังคับของสายไฟฟ้า ไม่ใช่ของปลั๊กไฟ ก็จะทำให้เราเข้าใจผิดหลงซื้อมาได้ หรือเพื่อความปลอดภัยอีกขั้น ให้ดูสัญลักษณ์มาตรฐาน UL ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา

2. สิ่งที่ปลั๊กไฟต้องมีคือสวิตช์เปิด-ปิด เพื่อป้องกันไฟกระชาก และฟิวส์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าเกินขนาดที่กำหนด

3. สิ่งที่ปลั๊กไฟต้องบอกคือค่าพิกัดไฟฟ้าสูงสุด ได้แก่ ค่าปริมาณไฟฟ้า, แรงดันไฟฟ้า และกำลังไฟฟ้า ซึ่งแรงดันไฟฟ้าที่ใช้ได้ในประเทศไทยมีกำหนดไม่เกิน 250 โวลต์

4. วัสดุทำรางเต้ารับควรผลิตจากพลาสติกเอบีเอสหรือเอวีซี เพราะเนื้อพลาสติกจะทนต่อความร้อนได้ดีกว่าพลาสติกพีวีซี ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากเพลิงไหม้ในกรณีเกิดความร้อนสูงที่ปลั๊กไฟสายพ่วง

5. เลือกขนาดและลักษณะให้เหมาะสมกับความต้องการ อย่าลืมตรวจสอบดูว่าลักษณะของหัวปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหรือออฟฟิศของเราส่วนใหญ่เป็นแบบไหน กลมหรือแบน แล้วดูว่าปลั๊กไฟที่จะซื้อนั้นรับได้หรือเปล่า อีกทั้งจำนวนเต้ารับ กำลังไฟ และความยาวสายไฟก็ควรพอดีกับจุดที่จะใช้ เพราะราคาของปลั๊กไฟก็จะสูงขึ้นตามจำนวนเต้ารับและความยาวสายไฟ

6. หากในบ้านมีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง ควรเลือกปลั๊กไฟที่มีม่านนิรภัยป้องกันไฟดูดเพื่อช่วยป้องการแหย่นิ้วลงไป

เมื่อทราบคุณสมบัติพื้นฐานกันแล้ว ก็ยังคงมีคนสงสัยอยู่แน่ๆ ว่าแล้วปลั๊กไฟราคาไม่ถึงร้อยกับปลั๊กไฟราคาเกือบพันแตกต่างกันอย่างไร แน่นอนว่าปลั๊กไฟราคาถูกก็ทำได้ตามความสามารถขั้นพื้นฐานอย่างที่ปลั๊กไฟควรจะเป็น แต่ปลั๊กไฟที่ราคาสูงกว่าจะมีฟังก์ชั่นที่เป็นประโยชน์อย่างอื่นเพิ่มเติมอีกเยอะแยะมากมาย เช่น ช่องเสียบสาย USB, สวิตช์เปิด-ปิด สำหรับแต่ละเต้ารับที่แยกจากกัน, หรือปลั๊กไฟสำหรับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะที่มีระบบ Master-slave control เปิด-ปิดไฟอุปกรณ์พ่วงอื่นๆ ตามอัตโนมัติ เช่น จอ ลำโพง ปริ้นท์เตอร์ ทั้งนี้นอกจากอุปกรณ์ที่เลือกใช้จะได้มาตรฐานแล้ว ตัวเราเองก็ต้องรู้จักใช้อย่างถูกวิธีเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินที่ยังไงก็มีราคาแพงกว่าปลั๊กไฟแน่นอน