เวลาปิดเทอมที่ผ่านมาคุณพ่อคุณแม่ก็คงพาเจ้าตัวเล็กไปเที่ยวเล่น เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ กันจนเต็มปอดเลยใช่มั้ยล่ะคะ แต่เพราะเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ ทำให้อีกไม่กี่อึดใจก็ใกล้ถึงวันเปิดเทอมวันแรกแล้ว เด็กๆ ที่เคยได้นอนตื่นสายก็คงต้อง Back to school กันอีกครั้งแล้วล่ะค่ะ

ซึ่งหลังจากปิดเทอมมานาน สิ่งต่างๆ ก็อาจเปลี่ยนแปลงไป ข้าวของเครื่องใช้บางอย่างก็อาจจะหายหรือพังลง รวมทั้งเจ้าตัวเล็กก็อาจจะมีไซส์ที่ใหญ่ขึ้นเพราะกินและนอนอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปวิ่งเล่นเหมือนอย่างเคย วันนี้เพื่อให้การเปิดเทอมของเค้า หรือวันเปิดเทอมวันแรกผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เราก็มี Check List เล็กๆ น้อยๆ มาฝากกัน

เตรียมอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ

เตรียมพร้อม Back to School ด้วยอุปกรณ์การเรียน

อุปกรณ์เครื่องเขียนสำหรับเด็กๆแล้วนับเป็นชีวิตจิตใจในการเรียนเลยก็ว่าได้นะคะ เพราะอุปกรณ์ที่ไม่พร้อมใช้งานหรือขาดบางอย่างไป จะทำให้เด็กมีความยากลำบากในการเรียน จนอาจส่งผลกระทบถึงขั้นเรียนไม่ทันเลยก็ได้นะ โดยเฉพาะเด็กเล็กยิ่งแล้วใหญ่ เพราะอยู่ในช่วงวัยที่กำลังพัฒนา ถ้าเปิดเทอมวันแรกแล้วต้องมามัวง่วนอยู่กับการเหลาดินสอให้แหลม หายางลบ หรือมัวแต่หันซ้ายทีขวาทีขอยืมเพื่อนให้วุ่นวาย เพราะอุปกรณ์การเรียนของตัวเองไม่ครบ แบบนี้แย่เลยล่ะค่ะ

ยิ่งสำหรับเด็กบางคนที่กำลังขึ้นชั้นเรียนใหม่และมีจุดเปลี่ยนสำคัญคือ การเปลี่ยนจากใช้ดินสอมาเป็นปากกา เชื่อว่าเด็กๆคงตื่นเต้นและคงไม่อยากพลาดเลือกอุปกรณ์เครื่องเขียนที่ไม่ดี ยิ่งถ้าเพิ่มลูกเล่นและความน่ารักน่าใช้ของปากกาเข้าไป ยิ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำในวันเปิดเทอมใหม่เลยล่ะค่ะ

เครื่องพิมพ์เทป_Rilakkuma

สำหรับปัญหาที่พ่อแม่ผู้ปกครองมักเจอ เกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องเขียนของลูกๆ คือใช้ไปซักพัก ของเริ่มหายไปทีละชิ้นสองชิ้น เด็กๆอาจจะไปลืมทิ้งไว้ หรือไปสลับสับเปลี่ยนกับเพื่อนคนอื่นๆ แก้ไขได้ด้วยการติดเทปชื่อ และสัญลักษณ์ต่างๆ โดยใช้เครื่ืองพิมพ์ฉลากน่ารักๆ อย่างเครื่ืองพิมพ์ฉลากจาก Brother ลาย Rilakkuma 

เพราะฉะนั้นก่อนวันเปิดเทอม ให้คุณพ่อคุณแม่จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ ของลูกรักให้พร้อม ทั้งดินสอ ปากกา ยางลบ ไม้บรรทัด รวมถึงกล่องดินสอน่ารักๆ ด้วยนะ เพราะมันเป็นเหมือนกำลังใจเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้เจ้าตัวเล็กมีความสุข และสนุกกับการเรียนมากยิ่งขึ้น

ตรวจเช็กเสื้อผ้าชุดนักเรียนให้พร้อมใส่

อย่างที่บอกกันไปว่าวันเปิดเทอมใหม่ย่อมไม่มีอะไรที่เหมือนเดิม โดยเฉพาะหุ่นของเจ้าตัวเล็กเนี่ยแหละค่ะ เพราะช่วงเวลาปิดเทอม ลูกรักของเราได้อยู่ใกล้เราตลอดเวลา ทำให้คุณพ่อคุณแม่ก็อดใจไม่ไหว ต้องทำของกินอร่อยๆ รวมถึงอาหารจานโปรดให้เค้าได้กินแบบไม่หยุด แบบนี้น้ำหนักตัวจะขึ้น ใส่ชุดเก่าๆ ไม่ได้ก็คงจะไม่แปลกอะไร แถมพัฒนาการของเด็กสมัยนี้โตเร็วกว่าที่เราคิด เสื้อผ้าเก่าที่มีก็คงคับแน่นไปแล้ว และอีกปัญหานึงที่มองข้ามไม่ได้เลย เพราะเสื้อผ้าที่เก็บอยู่ในตู้นานๆ อาจมีพวกมดแมลงกัดแทะจดเสื้อผ้าชำรุดหรืออาจเกิดคราบเหลืองบริเวณขอบตะเข็บ จนไม่เหมาะที่จะนำกลับมาใช้ใหม่นะครับ

จึงเป็นหน้าที่ของเราๆ เหล่าผู้ปกครองในการเช็กเสื้อผ้าชุดนักเรียนของเค้าให้พร้อมใส่อยู่เสมอ โดยการลองเอามาเช็กและเทียบดูก่อนสัก 1 อาทิตย์ก่อนเปิดเทอมว่าเค้ายังใส่เสื้อผ้าชุดเดิมได้มั้ย แนะนำให้ซื้อเสื้อผ้าที่ใหญ่กว่าปกติสัก 2 ไซส์ เป็นการประหยัดงบ เพราะไม่ต้องเปลี่ยนใหม่บ่อยๆ และควรเก็บเสื้อผ้าอย่างพิถีพิถัน ดูแลตู้เสื้อผ้าเป็นประจำเพื่อลดปัญหาแมลงมดกินผ้าด้วยนะค่ะ

ปรับพฤติกรรมการนอนของเจ้าตัวเล็ก

เตรียมพร้อม Back to School ด้วยการรีเซตเวลาตื่นนอน

ถ้าคิดว่าการเตรียมตัวสำหรับลูกน้อยก่อนเปิดเทอมมันมีแค่ข้าวของเครื่องใช้นี่บอกเลยว่าคิดผิดแล้วล่ะค่ะ เพราะหนึ่งในปัญหาหลักที่ผู้ปกครองต้องปวดหัวกันทุกบ้านในวันเปิดเทอมวันแรกก็คือ การปลุกเจ้าตัวเล็กนี่แหละ เนื่องจากช่วงปิดเทอมส่วนมากเราก็จะถือว่าเป็นเวลาพักผ่อนของเค้า พ่อแม่หลายคนก็จะปล่อยให้ลูกได้นอนตื่นสายๆ ตรงนี้เองที่จะทำให้ลูกรักติดนิสัยตื่นยากและไปโรงเรียนไม่ทันในเช้าวันเปิดเทอมวันแรก

ดังนั้นเราในฐานะผู้ปกครองห้ามชะล่าใจเด็ดขาดเลยนะคะ ต้องฝึกให้เค้าปรับตัวกับการตื่นเช้าให้ได้ก่อนเปิดเทอมวันแรก โดยอาจจะเริ่มปรับพฤติกรรมการเข้านอนและตื่นนอนก่อนวันเปิดเทอมประมาณ 1 สัปดาห์ เริ่มจากพยายามให้เด็กเข้านอนเร็วขึ้น และค่อยๆ ปลุกเค้าให้เช้าขึ้น วันแรก 08.30 น. วันต่อมา 08.10 น. และค่อยๆ ขยับเร็วขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้เจ้าตัวเล็กรู้สึกตื่นง่าย ไม่งอแง และพร้อมสำหรับวันเปิดเทอม

ดูแลสุขอนามัยให้พร้อม Back to School

เพราะช่วงปิดเทอมถือเป็นช่วงแห่งความอิสระของเด็กๆ ทำให้พ่อแม่ส่วนมากลืมดูแลสุขอนามัยของเค้า ทั้งเล็บ ทั้งผม ที่ปล่อยยาวจนอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งสุขอนามัยตรงนี้เราจำเป็นที่จะต้องดูแลให้เรียบร้อยก่อนการเปิดเทอมเลยนะคะ เมื่อเปิดเทอมใหม่ เด็กๆ ก็มักจะตื่นเต้นกับการได้เจอเพื่อน และเล่นกันจนลืมเรื่องความระมัดระวังจนทำให้เล็บข่วนตัวเองและเพื่อนๆได้

อีกทั้งหลายๆ โรงเรียนมีกฎห้ามไว้ผมยาว เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกต่างๆ และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ดังนั้นพ่อแม่ก็อย่าลืมตัดผมให้น้องๆ และดูแลสุขอนามัยของเค้าก่อนถึงวันเปิดเทอมด้วยนะคะ ลูกรักจะได้มีสุขอนามัยที่ดี และหมดห่วงอุบัติเหตุที่จะตามมา

เช็กวิธีและเส้นทางการเดินทาง

เตรียมพร้อม Back to School ด้วยการสำรวจเส้นทาง

ไม่ใช่แค่กับลูกน้อยอย่างเดียวนะคะที่จะต้องเช็กความพร้อมต่างๆ ให้เรียบร้อยต้อนรับวันเปิดเทอมใหม่ หน้าที่ของผู้ปกครองอย่างเราเองก็มีเช่นกัน ควรมีการเช็กเส้นทางการจราจรให้ชัวร์ๆ เพราะเปิดเทอมใหม่นี้เด็กๆ เลื่อนชั้นและอาจมีการเปลี่ยนโรงเรียน ทำให้เส้นทางการเดินทางของเราต้องเปลี่ยนไปด้วย รถอาจจะติดมากกว่าเดิม หรือมีเส้นทางที่กำลังปรับปรุง สำหรับผู้ปกครองบางคนที่ใช้การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ควรเช็กวิธีการให้แน่นอน ดีกว่าไปงมหาวันเปิดเทอม ยิ่งทำให้เสียเวลานะคะ

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงควรเช็กเส้นทางการเดินทางและวิธีการเดินทางให้พร้อม จะได้รู้ว่าจะใช้เวลาเตรียมตัวนานแค่ไหน จะออกจากบ้านตั้งแต่กี่โมงดี เพื่อไปส่งลูกน้อยให้ถึงโรงเรียนได้ทันก่อนเคารพธงชาติ และตัวเราเองจะได้ไปเข้างานทันเวลาด้วยนั่นเองค่ะ

จบไปแล้วนะคะกับ 5 เช็กลิสต์ที่ต้องพร้อมต้อนรับวันเปิดเทอม แรกๆก็อาจจะต้องอาศัยการปรับตัวให้ชินกันสักหน่อย ทั้งช่วงเวลาเดินทาง ทั้งการปลุกเจ้าตัวเล็กขึ้นจากที่นอน แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้สักอาทิตย์นึง ทุกอย่างก็จะเข้าที่เข้าทางเองค่ะ ยิ่งเราเตรียมสิ่งเหล่านี้ล่วงหน้านานเท่าไหร่ เราก็จะเข้าสู่ช่วงเวลาปกติได้ไวเท่านั้น ทำให้ไม่มีผลกระทบทั้งกับตัวลูกน้อย และกับตัวผู้ปกครองอย่างเรา เปิดเทอมวันแรกของเค้าก็จะเหมือนวันปกติๆ ทั่วไปแบบไม่มีอะไรให้ต้องกังวลเลย