ร้อยละ 91 ของประชากรโลก อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีคุณภาพอากาศย่ำแย่และหายใจในสภาพแวดล้อมที่อากาศไม่บริสุทธิ์ ปัญหามลพิษทางอากาศนี้ ยังเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้มนุษย์มีอายุขัยสั้นลงราว 20 เดือน (ขอบคุณข้อมูลจาก The Standard)

มลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะ PM2.5 เป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ มากมาย เพราะประกอบไปด้วยสารเคมี สารระเหย ไปจนถึงสารก่อมะเร็ง แม้เราจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ภายในบ้านหรืออาคาร แต่ไม่ได้แปลว่าเราจะรอดพ้นจากอากาศและฝุ่นควันพิษนี้ไปได้ หนำซ้ำ ฝุ่นที่เล็ดลอดเข้ามาอยู่ภายในบ้านหรืออาคารที่เป็นระบบปิด จะยิ่งคละคลุ้งเพราะไม่มีช่องทางให้ระบายออก การป้องกันตัวเองจากฝุ่นพิษเหล่านี้ นอกจากจะหลีกเลี่ยงกิจกรรมนอกบ้านและสวมใส่หน้ากากอนามัยแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่จะช่วยดักจับฝุ่นให้อากาศภายในบ้านหรือในอาคารสะอาดขึ้นได้  นั่นก็คือ ‘เครื่องฟอกอากาศ’

เครื่องฟอกอากาศ คืออะไร?

เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยกรองและกำจัดมลพิษในอากาศบริเวณที่เราอยู่อาศัย เหมาะสำหรับติดตั้งไว้ภายในบ้านหรืออาคารแบบปิด ทั้งยังช่วยกำจัดแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และดักจับกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ที่ปนเปื้อนมากับอากาศได้อีกด้วย หลักการทำงานคร่าวๆ ของเครื่องฟอกอากาศ คือ การดูดอากาศที่เป็นพิษหรือปนเปื้อนเข้าไป ผ่านกระบวนการภายใน แล้วปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมา

ในหมู่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เครื่องฟอกอากาศมักอยู่ในลิสต์ must have อันดับท้ายๆ แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จัดอยู่ในหมวด Sold out และควรมีติดบ้านไว้มากที่สุด ไปดูกันดีกว่าค่ะว่า หากเราลงทุนซื้อเครื่องฟอกอากาศติดบ้านไว้ซัก 1 เครื่อง เราจะได้ประโยชน์อะไรกลับมาบ้าง (อ่านหลักการทำงานและวิธีการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศได้ที่ http://bit.ly/2QBvT3Q )

เครื่องฟอกอากาศจำเป็นแค่ไหน ทำไมถึงต้องมีไว้ติดบ้าน

เครื่องฟอกอากาศช่วยป้องกันสารก่อภูมิแพ้และสารเคมีที่ปะปนในอากาศ

สารก่อภูมิแพ้ที่ปะปนอยู่ในอากาศ มีทั้งฝุ่น ไรฝุ่น สปอร์เชื้อรา ซากแมลงหรือสิ่งปฏิกูลจากแมลง ละอองเกสรจากดอกไม้ รวมไปถึงเศษขน น้ำลาย และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วจากสัตว์เลี้ยง  สิ่งเหล่านี้อาจไม่มีผลกับคนทั่วไป แต่กับคนที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคภูมิแพ้ โรคหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง หรือหอบหืดจะเข้าใจดีว่า การสูดลมหายใจเอาฝุ่นเข้าไปแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถกระตุ้นให้อาการภูมิแพ้หรือโรคประจำตัวกำเริบขึ้นมาได้ และฝุ่นยังทำให้เกิดผดผื่นบนผิวหนังได้อีกด้วย 

ไม่เพียงแต่สารก่อภูมิแพ้เท่านั้น อากาศภายในบ้านยังอาจมีสารระเหยและสารเคมีปะปนอยู่ เช่น สารเคมีจากเคมีภัณฑ์ อย่างสีสเปรย์ สีทาบ้าน หรือสารระเหยอย่างทินเนอร์ กาว หรือน้ำมันเครื่องยนต์ การสูดดมสารเหล่านี้เป็นระยะเวลานานๆ เยื่อจมูกและหลอดลมของเรา จะโดนฤทธิ์จากสารเคมีกัดกร่อน ทำให้เกิดอาการอักเสบ และหากสารเคมีซึมผ่านเนื้อเยื่อเข้าสู่กระแสเลือด ก็อาจทำให้เลือดเป็นพิษได้

โดยเฉพาะกับคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการสูดดมสารเคมี จุลินทรีย์ แบคทีเรีย หรือเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับอากาศได้มากกว่าคนปกติ อาจทำให้คุณแม่คลอดก่อนกำหนด หรือส่งผลกับระบบทางเดินหายใจของทารก หรืออาจร้ายแรงจนทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตได้ 

แต่ถ้าเรามีเครื่องฟอกอากาศตั้งไว้ภายในบ้าน เครื่องฟอกอากาศจะช่วยดักจับสารก่อภูมิแพ้ สารเคมี และฆ่าเชื้อโรคทั้งหลายที่ปะปนอยู่ในอากาศ แล้วกรองออกมาเป็นอากาศที่สะอาด ปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้บริสุทธิ์ขึ้น ให้คุณสูดลมหายใจได้อย่างมั่นใจและไม่ต้องกังวลกับสารก่อภูมิแพ้อีกต่อไป

เครื่องฟอกอากาศช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์

นอกจากสารก่อภูมิแพ้และสารเคมี เครื่องฟอกอากาศยังช่วยดักจับและกำจัดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ อย่าง กลิ่นบุหรี่ กลิ่นอับตามจุดต่างๆ กลิ่นจากท่อระบายน้ำ กลิ่นจากสัตว์เลี้ยง กลิ่นขยะ หรือกลิ่นที่ฝังแน่นอยู่ในเฟอร์นิเจอร์ หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การที่เราใช้ชีวิตอยู่กับกลิ่นเหม็นและสูดดมกลิ่นเหล่านี้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ประสาทรับกลิ่นและการตอบสนองต่อกลิ่นของเราช้าลง ซึ่งเครื่องฟอกอากาศจะช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์เหล่านี้ และยังช่วยลดกลิ่นที่ฝังแน่นอยู่ตามเครื่องเรือนภายในบ้านได้อีกด้วย

เครื่องฟอกอากาศทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น

อากาศนั้นสำคัญกับชีวิตของมนุษย์และเป็นส่วนสำคัญในระบบการฟอกเลือด หากอากาศไม่บริสุทธิ์ แม้แต่คนที่ร่างกายแข็งแรงก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน ข้อมูลสถิติจากองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ในแต่ละปี พลเมืองโลกกว่า 7 ล้านคน เสียชีวิตเนื่องจากมลพิษทางอากาศ (ขอบคุณข้อมูลจาก The Standard)

แล้วเครื่องฟอกอากาศจะทำให้สุขภาพร่างกายของเราแข็งแรงขึ้นได้อย่างไร?

อันดับแรก คือลดการกำเริบและทำให้อาการภูมิแพ้ทุเลาลง ลดอาการไข้หวัดคัดจมูก ช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากฝุ่นและเชื้อแบคทีเรีย อากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ยังช่วยให้ปอดทำงานได้ดีและแข็งแรงขึ้น เพราะการสูดแต่อากาศที่บริสุทธิ์จะทำให้ปอดไม่ต้องทำงานหนัก ไม่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด หอบหืด ส่งผลให้สุขภาพร่างกายโดยรวมของเราแข็งแรงขึ้นนั่นเอง

ลองมาดูค่ารักษาพยาบาลแบบคร่าวๆ ของกลุ่มโรคที่เกิดจากมลพิษทางอากาศกัน

  • โรคภูมิแพ้และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ราคาค่ารักษาอยู่ที่ 500-15,000 บาท
  • โรคหลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบ ราคาค่ารักษาอยู่ที่  5,000 – 10,000 บาท 
  • โรคถุงลมโป่งพอง ราคาค่ารักษาพยาบาลอยู่ที่ 50,000 – 100,000 บาท 
  • โรคมะเร็งปอด ราคาค่ารักษาพยาบาลอยู่ที่ 100,000 – 1,000,000 บาท

ส่วนเครื่องฟอกอากาศ 1 เครื่อง ราคาอยู่ที่ 5,000 – 20,000 บาท หรืออาจถูกกว่านี้และมีอายุการใช้งานกว่า 5 ปี

จากข้อมูลตัวเลขทั้งหมดและประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ น่าจะพอบอกได้แล้วว่า การลงทุนซื้อเครื่องฟอกอากาศซัก 1 เครื่องติดบ้านเอาไว้ ย่อมคุ้มค่ากว่าการต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยแน่นอน

แม้ฝุ่นพิษหรือ PM2.5 จะมาๆ หายๆ และในระยะสั้นบางคนอาจจะรู้สึกว่ายังไม่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นควันนี้ แต่ในระยะยาว ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่า คุณและคนในครอบครัวของคุณจะไม่ป่วยเพราะฝุ่นควันพิษเหล่านี้ ฉะนั้น การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไขนะคะ

มาช้อปเครื่องฟอกอากาศคุณภาพดี ประสิทธิภาพสูงกับ OfficeMate พร้อมโปรโมชั่นส่วนลด ที่รับรองว่าคุ้มค่าคุ้มราคา คลิก!

ขอบคุณข้อมูลจาก
ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศ มันคืออะไร ทำงานอย่างไร และทำไมคนถึงนิยมใช้มัน

0 CommentsClose Comments

Leave a comment