9 ความจริงของ ‘ยางลบ’ ที่หลายคนยังไม่รู้!
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนมีที่มาที่ไป และคนเราก็ชอบที่จะหาคำตอบว่าสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมาจากอะไรจริงไหมคะ โชคดีของคนในยุคปัจจุบันที่คนรุ่นก่อนๆ ได้มีการคิดค้นการบันทึกเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้เราได้รู้ถึงเหตุการณ์ในอดีต และรู้ที่มาที่ไปของสิ่งต่างๆ เริ่มตั้งแต่การเขียนบันทึกตามฝาผนังถ้ำ จนมีการคิดดินสอและปากกาขึ้นมา ยิ่งทำให้ง่ายต่อการจดบันทึก ดังนั้นเมื่อพูดถึงประเด็นการจดบันทึก หลายๆ คนคงคิดถึงแต่ดินสอปากกา แต่อีกสิ่งที่ลืมคิดไป คือยางลบ ซึ่งใช้ลบและแก้ไขในส่วนที่เขียนผิด ถึงยางลบจะไม่ใช่สิ่งแรกที่จะนึกถึง แต่ยางลบก็มีความเป็นมาเป็นไปที่นาสนใจ และได้ถูกจดบันทึกไว้เช่นกัน งั้นเรามาดู 9 ความจริงของยางลบที่เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้กันดีกว่าค่ะ
1.ขนมปังเคยถูกใช้แทนยางลบมาก่อน
แต่เดิมมนุษย์ใช้ขนมปังขาวเป็นแผ่นๆ แบบไม่มีขอบในการลบรอยดินสอแกรไฟต์ จนถึงปีค.ศ.1770 เนื่องจากขนมปังหาง่ายและราคาถูก ผู้คนจึงนิยมนำมาใช้เป็นยางลบ แต่ในขณะเดียวกัน ขนมปังก็มีข้อเสียคือ เก็บได้ไม่นานและเน่าเสียง่าย
2.ผู้ค้นพบออกซิเจน เป็นแรงบัลดาลใจในการคิดค้นยางลบ
ในปี 1770 นักวิทยาศาสตร์ชื่อ Joseph Priestley ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบออกซิเจน ตามบันทึกส่วนหนึ่งของเขาระบุว่า มีสสารตัวหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติสามารถลบรอยดินสอบนกระดาษได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งสสารที่ว่านั้นก็คือ ยาง ในภาษาอังกฤษตอนนั้นเรียกสสารนี้ว่า “Rubber”
3.ยางลบถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยบังเอิญ
ต่อมาวิศวกรชาวอังกฤษชื่อ Edward Nairne บังเอิ๊ญ..บังเอิญหยิบ “ก้อนยาง” ที่ตั้งอยู่ข้างขนมปังใช้ลบรอยดินสอแทนขนมปัง ทำให้พบว่าจริงๆ แล้วยางสามารถใช้ลบรอยดินสอนได้ดีกว่า จึงได้คิดประดิษฐ์ยางลบจากยางและออกวางขาย จึงทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นผู้คิดค้นยางลบนั่นเอง
4.ยางลบมีส่วนประกอบของเถ้าภูเขาไฟ
อย่างที่รู้ไปแล้วว่าในยุคนั้น ยางถูกขายไปเป็นยางลบ แต่ด้วยข้อเสียเรื่องการเน่าเสีย และกลิ่นเหม็น ทำให้ยางลบจากยางไม่แพร่หลายมากพอ ต่อมา Charles Goodyear ได้ค้นพบวิธีการยืดอายุของยาง โดยการทำวัลคาไนเซชั่น (Valcanization) ซึ่งเป็นการนำกำมะถันมาใส่ลงไปในยางธรรมชาติเพื่อยืดอายุการใช้งานของยาง
5.ฝั่งอเมริกาและยุโรป เรียกยางลบไม่เหมือนกัน
บางคนอาจจะเคยได้ยินคำศัพท์ในภาษาอังกฤษเรียกยางลบว่า “Rubber” และ “Eraser” ไม่ต้องงงค่ะ เพราะทั้งสองคำแปลว่ายางลบ แต่ Rubber เป็นภาษาอังกฤษฝั่งบริทิช ใช้ในประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ อินเดีย นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และ Eraser เป็นภาษาอังกฤษฝั่งอเมริกัน ใช้ในประเทศอเมริกาและแคนนาดา
6.ยางลบทำงานด้วยหลักการทางเคมี
ก่อนอื่นต้องเข้าใจหลักการทำงานของดินสอก่อน คือ เมื่อเราเขียนดินสอลงในกระดาษ แกรไฟต์หรือไส้ดินสอจะผสมกับอนุภาคของกระดาษ ทำให้เห็นเป็นรอยดินสอ แต่ยางลบส่งผลในทางกลับกัน เมื่อใช้ยางลบลบรอยดินสอ ด้วยอนุภาคของโพลีเมอร์ที่ใช้ทำยางลบมีความเหนียวกว่าอนุภาคของกระดาษ ทำให้เมื่อถูยางลบลงบนรอยดินสอ แกรไฟต์ก็จะติดมากับยางลบ คล้ายหลักการทำงานของแม่เหล็ก
7.การคิดค้นยางลบบนหัวดินสอ ถือเป็นปรากฏการณ์ใหญ่ในอเมริกา
ถึงจะเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่และได้รับความนิยมในประเทศอเมริกา แต่กลับไม่ได้รับความนิยมนอกประเทศ และศิลปินส่วนใหญ่ก็ยังคงนิยมใช้ยางลบเป็นก้อนแยกจากดินสออยู่ดี
8.ยางลบผลิตจากวัสดุแตกต่างกัน
ยางลบที่ราคาถูกส่วนใหญ่ผลิตจากยางสังเคราะห์ ส่วนยางลบที่คุณภาพดี จะผลิตจากไวนิล เนื่องจากยางลบที่ผลิตจากไวนิลจะมีความแข็งและยืดหยุ่นกว่า แถมลบได้ดีกว่าอีกด้วย
9.ปัจจุบันมียางลบไฟฟ้าแล้ว!
ยางลบไฟฟ้าถูกคิดค้นขึ้นโดย Arthur Dremel ในปี ค.ศ.1932 ยางลบเป็นทรงกระบอกเล็ก ใช้ลบจุดหรือมุมแคบได้ดี สามารถลบได้อย่างนุ่มนวล และก่อให้เกิดร่องรอยบนกระดาษจากการถูยางลบน้อยมาก
ทั้งหมดนี้ก็เป็น 9 ความจริงเกี่ยวกับยางลบ ซึ่งสอดแทรกอยู่ในส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ และมีบางช่วงบางตอนในอดีตที่ยางลบบนหัวดินสอกลายเป็นปรากฏการณ์ใหญ่ เห็นไหมคะ แค่ของใช้ชิ้นเล็กๆ อย่างยางลบที่อยู่ในกล่องดินสอก็มีที่มาที่ไปและเกร็ดความรู้แฝงอยู่ให้เราได้ศึกษา ไว้มีเกร็ดความรู้อย่างอื่นที่น่าสนใจ ออฟฟิศเมทจะนำมาเล่าให้ทุกคนฟังอีกนะคะ
ช้อป ‘ยางลบ’ คุณภาพดี คลิกที่เว็บไซต์ OfficeMate เรามียางลบหลายรูปแบบ หลายสี ลบดี กระดาษไม่ขาด พร้อมบริการส่งฟรี เมื่อสั่งซื้อครบ 499 บาท!
ที่มา: theatlantic.com/ historyofpencils.com
