หลายคน Work from home อยู่บ้านมาหลายปี ตอนแรกอาจจะรู้สึกสบาย ไม่ต้องไปฝ่ารถติด มีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น แถมมีเวลาทำงานทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น แต่นานวันไป กลายเป็นว่าเวลางานกับเวลาส่วนตัวปะปนกัน Work Life Balance เริ่มหายไป ต้องตอบแชทเฝ้าจอเช็กเมลตลอดทั้งวัน และบางคนอาจเบื่อที่ต้องอยู่แต่ในห้องแคบๆ ยิ่งนานก็ยิ่งเครียดและหดหู่ พาลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงไปอีก วันนี้ออฟฟิศเมทเลยมีเคล็ดลับง่ายๆ มาช่วยเพิ่ม Work life Balance ให้คุณทำงานที่บ้านได้อย่างสุขภาพดีทั้งกายและใจ! ไปดูพร้อมๆ กันเลย

1.เลือกห้องทำงานที่อยู่แล้วรู้สึกมีพลัง

คนเราจะเกิดอาการหดหู่ขึ้นได้เมื่อต้องอยู่แต่ในสถานที่เดิมๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ดังนั้นหากต้องทำงานที่บ้าน การเลือกพื้นที่หรือห้องทำงานให้เหมาะสมกับการนั่งทำงาน ถือเป็นเรื่องสำคัญ 

ทำงานที่บ้าน Work from home

ห้องทำงานควรเป็นห้องที่อยู่แล้วรู้สึกมีพลัง ถ้าว่ากันตามหลักการ คือห้องที่อากาศถ่ายเทสะดวก วิวดี และที่สำคัญต้องมีแสงสว่างจากธรรมชาติเพียงพอ เพราะแสงจากดวงอาทิตย์  จะกระตุ้นการหลั่งสารเซโรโทนิน ที่มีส่วนช่วยรักษาสมดุลทางอารมณ์ ทำให้อารมณ์ดีนั่นเองและที่สำคัญ ควรเป็นห้องทำงานส่วนตัว ที่เงียบสงบ จะได้ไม่โดนรบกวนสมาธิจนเสียงาน

แต่สำหรับใครที่อยู่หอพักหรือคอนโด ไม่สามารถเลือกห้องได้ตามใจชอบ ให้พยายามเปิดม่านและเปิดไฟให้สว่างขณะทำงาน อย่านั่งทำงานแบบมืดๆ ไม่อย่างนั้นนอกจากบรรยากาศจะอึมครึมชวนให้หดหู่แล้ว อาจปวดตาจากแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่สว่างจ้าได้อีกด้วย

2.ตกแต่งพื้นที่สำหรับ Work from home ให้น่านั่งแบบยาวๆ

อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความน่าเบื่อของการทำงานที่บ้าน คือ ตกแต่งพื้นที่ทำงานให้น่านั่ง อาจหาต้นไม้เล็กๆ ดอกไม้ งานศิลปะ หรือของตกแต่งที่ชอบ มาวางไว้บนโต๊ะทำงาน เอาไว้พักสายตาและเพิ่มความมีชีวิตชีวา ที่สำคัญคือ โต๊ะทำงานต้องจัดให้เป็นระเบียบ เคลียร์ข้าวของที่ไม่จำเป็นทิ้งไป และทำความสะอาดโต๊ะให้เรียบร้อย เพราะการทำงานบนโต๊ะที่รกและสกปรก จะทำให้เสียสมาธิและความคิดก็จะยุ่งเหยิงตามไปด้วย ใครที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้จัดเก็บข้าวของภายในห้อง ก็ถือว่าใช้โอกาสนี้ในการทำความสะอาดและตกแต่งห้องใหม่ก็ได้นะคะ และถ้าอยากเพิ่มบรรยากาศอีกนิด แนะนำให้หาน้ำหอมปรับอากาศหรือเครื่องหอมที่ชอบมาวางไว้บนโต๊ะทำงาน กลิ่นหอมๆ จะช่วยให้ผ่อยคลายและสบายใจขึ้นได้ 

3.Work from home แบบไม่หงุดหงิด ควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมทำงาน

ทำงานที่บ้าน Work from home

อุปสรรคของการทำงานที่บ้านคือความไม่พร้อมของอุปกรณ์ คุณจำเป็นต้องเตรียมตัวล่วงหน้า ทั้งการสำรองไฟล์ข้อมูลต่างๆ บุ๊กมาร์กหน้าต่างที่สำคัญไว้ให้ครบ เช็กให้แน่ใจว่า VPN สามารถใช้งานได้ และเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นกับการทำงานไว้ให้ครบ ทั้งโน๊ตบุ๊ก สายชาร์จ หูฟัง อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องปริ้นเตอร์ และอื่นๆ เมื่อมีอุปกรณ์พร้อมสรรพ คุณจะได้ทำงานอย่างสบายใจ ไม่ต้องหงุดหงิดและวุ่นวายตามหาทุกครั้งที่ต้องการใช้งานนั่นเองค่ะ

4.ทำงานที่บ้านแบบสุขภาพดี ต้องไม่ตามใจปาก

อาหารการกินและขนมนมเนย รวมทั้งบริการเดลิเวอรี่ที่มีอาหารให้เลือกมากมายหลายเมนู สิ่งเหล่านี้เป็นสวรรค์หรือจะเรียกว่าเป็นโอเอซิสของการทำงานที่บ้านก็จริง แต่เราอยากแนะนำว่าอย่าตามใจปากจนเกินไป เพราะอาจทำให้น้ำหนักและปริมาณไขมันในร่างกายของคุณพุ่งพรวดขึ้นได้ง่ายๆ คุณควรเลือกกินแต่อาหารดีๆ ที่ให้คุณค่าและสารอาหารกับร่างกาย เน้นกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ กินผักและผลไม้เป็นประจำ ส่วนของว่างก็ควรเลือกแบบที่มีประโยชน์ เช่น ถั่วหรือโยเกิร์ต หากอยากทานขนมหวานหรือชานมไข่มุก ให้ทานเป็นครั้งคราวหรือเลือกเป็น Cheat meal จะดีกว่า และอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ระหว่างวัน เพื่อเติมความสดชื่นให้ร่างกายและสมองนะคะ

5.ทำงานที่บ้านไม่ให้เป็น ‘ออฟฟิศซินโดรม’ ต้องเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง

ทำงานที่บ้าน Work from home

การทำงานที่บ้านก็ทำให้เป็นออฟฟิศซินโดรมได้เช่นกัน คุณควรเตือนตัวเองให้ปรับเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ เพราะเมื่ออยู่บ้านมักไม่มีเหตุให้ต้องลุกไปนู่นไปนี่เหมือนตอนอยู่ออฟฟิศ บางคนอาจนั่งทำงานจนลืมเวลา ซึ่งจะทำให้คอ บ่า ไหล่ แขน และหลังเกร็งมากจนเกินไป วิธีเปลี่ยนอิริยาบถง่ายๆ คือการบิดขี้เกียจ ทำท่ายืดเหยียดบริเวณไหล่และคอ หรืออาจจะเป็นการลุกไปชงกาแฟบ้าง รดน้ำต้นไม้บ้าง เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวซักนิด และจะให้ดีควรหาเวลาออกกำลังกายหลังเลิกงาน เปิดคลิปออกกำลังที่บ้านแบบง่ายๆ ตามยูทูป ก็จะช่วยให้แข็งแรงและเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอีกด้วยค่ะ

สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่าง คือ หลีกเลี่ยงการทำงานบนโซฟาหรือเตียงนอน เพราะจะทำให้ปวดหลังและปวดคอได้ ทางที่ดีหาเก้าอี้ที่นั่งสบายๆ หรือเก้าอี้เพื่อสุขภาพมานั่งทำงานจะดีกว่าค่ะ

  • ช้อปเก้าอี้นั่งทำงาน คลิก OfficeMate

6.กำหนดตารางเวลา Work from home ให้ชัด และอย่าลืมพักเบรค

การทำงานที่บ้านให้ได้งานและไม่เครียด จะต้องแบ่งเวลางานและเวลาส่วนตัวออกจากกันให้ได้ เทคนิคที่เราอยากแนะนำคือ ให้คุณตื่นเช้าเหมือนกับไปทำงานปกติ อาบน้ำแต่งตัวและทานอาหารเช้าให้เรียบร้อย จัดลำดับลิสต์งานที่ต้องทำในแต่ละวัน จากนั้นกำหนดเวลาเข้างาน พักเที่ยง และเลิกงานให้ชัดเจน ทำเช่นนี้ให้เป็นกิจวัตร จะช่วยให้นาฬิกาชีวิตของคุณสมดุลขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากมีงานด่วนหรืองานเร่งเข้ามา ก็ลองปรับเปลี่ยนเวลาตามที่สมควรนะคะ และที่สำคัญ ต้องอย่าลืมหาช่วงพักเบรค ไปชงกาแฟ จิบชา ทานขนม รดน้ำต้นไม้ ทักไปคุยกับครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงานบ้าง จะได้ไม่เครียดและฟุ้งซ่านจนเกินไปนั่นเอง

7.Work from home ให้แฮปปี้ อย่าลืมให้รางวัลตัวเองหลังเสร็จงาน

หลังเสร็จงานในแต่ละวัน ลองให้รางวัลกับตัวเองดูบ้าง อาจเป็นอาหารอร่อยๆ หนังสือดีๆ ซักเล่ม ดูหนัง ดูซีรีย์ ฟังเพลง หรือช้อปปิ้งออนไลน์ ใช้โอกาสที่ได้อยู่กับตัวเองนี้ในการเติมพลังบวกให้กับชีวิต การได้ทำสิ่งที่อยากทำจะช่วยให้คุณผ่อนคลาย มีความสุข และมีพลังในการต่อสู้กับวันถัดๆ ไป 

Work from home อาจถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญของใครหลายๆ คน แรกๆ อาจจะยังไม่ชิน จนรู้สึกเบื่อหรือเครียดไปบ้าง แต่ให้คุณลองนำเทคนิคที่เราแนะนำไปปรับใช้ วันละนิดวันละหน่อย เชื่อว่าจะช่วยลดความน่าเบื่อของการทำงานที่บ้านลงได้ 

สุดท้ายนี้ หากข้าวของเครื่องใช้ที่สต็อกเอาไว้หมดแล้ว ไม่ต้องออกไปเสี่ยงที่นอกบ้านนะคะ มาช้อปออนไลน์กับออฟฟิศเมท เรามีสินค้าหลากหลาย พร้อมให้บริการคุณในช่วง Work from home ทั้งอุปกรณ์สำนักงาน โต๊ะทำงาน เก้าอี้เพื่อสุขภาพ และอีกมากมายที่รอคุณอยู่บนเว็บไซต์ของเรา แถมบริการส่งฟรีเมื่อสั่งซื้อครบ 499 บาท! คุ้มแบบนี้ อย่ารอช้า มีโปรดีๆ รออยู่เพียบ!! รีบมาช้อปกันเลยที่เว็บไซต์ OfficeMate    

บทความแนะนำ!

0 CommentsClose Comments

Leave a comment