ไมโครเวฟ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีแทบทุกบ้าน ใช้สำหรับอุ่นอาหารให้ร้อน รวมถึงการปรุงอาหารง่ายๆ บางประเภท ด้วยความที่ใช้งานง่าย ฟังก์ชันไม่เยอะไม่ซับซ้อน เพียงแค่ใส่อาหาร ปิดประตู ตั้งเวลา และความร้อน รอไม่นานก็ได้ทานอาหารอุ่นๆ เหมือนใหม่ ซึ่งตอบโจทย์ความสะดวกสบาย และความรวดเร็ว แต่! ใช่ว่าอาหารทุกอย่างจะสามารถนำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟได้นะคะ วันนี้ OfficeMate จะมาเตือนภัย กับของ 7 อย่างที่ห้ามนำเข้าไมโครเวฟ พร้อมวิธีการเลือกซื้อ และการใช้งานไมโครเวฟอย่างปลอดภัย ไปดูกันเลย!

7 อย่าง ‘ห้าม’ นำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟ

ไมโครเวฟ
  1. ไข่ไก่

ไข่สดๆ ไข่ต้ม ไข่ลวก ไข่ทั้งฟองพร้อมเปลือก ห้ามนำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟโดยเด็ดขาด เพราะความร้อนจากไมโครเวฟ จะทำให้เกิดไอน้ำแรงดันสูง บวกกับอากาศภายในไข่เริ่มขยายตัว จนไข่ร้อนจัด ส่งผลให้ไข่ระเบิดได้

  1. บรรจุภัณฑ์กระดาษ

ทุกวันนี้ร้านอาหารหลายเจ้าหันมาใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษกันมากขึ้น แต่ใครที่ซื้ออาหารมาแล้วอยากจะอุ่นทาน ห้ามอุ่นโดยใส่บรรจุภัณฑ์กระดาษ หรือภาชนะกระดาษโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดไฟลุกไหม้ได้

  1. ผลไม้เปลือกหนา

ผลไม้ที่มีเปลือกหนา เช่น องุ่น ห้ามนำเข้าไปอุ่น หรือละลายน้ำแข็งในไมโครเวฟ เพราะจะทำให้เกิดระเบิด เหมือนกับกรณีการต้มไข่ทั้งฟองในไมโครเวฟนั่นเอง

  1. ฟอยล์ห่ออาหาร 

ฟอยล์ห่ออาหาร หรืออลูมิเนียมฟอยล์ เมื่อโดนความร้อนจากไมโครเวฟจะทำให้เกิดประกายไฟ และลุกไหม้ได้ 

  1. กล่องพลาสติก 

กล่องพลาสติกที่จะนำเข้าอุ่นในไมโครเวฟ ควรเป็นพลาสติกที่ระบุว่าสามารถใช้กับไมโครเวฟได้เท่านั้น ได้แก่ พลาสติกประเภท PET และ PP ส่วนพลาสติกบรรจุอาหารอื่นๆ แม้จะไม่ระเบิดตู้มต้าม แต่ความร้อนจากไมโครเวฟจะทำให้สารเคมีที่อยู่ในพลาสติกละลายมาปนเปื้อนกับอาหารได้ ซึ่งสารบางอย่างเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย

  1. ภาชนะโลหะ

ภาชนะที่เป็นโลหะ เช่น หม้อ ชาม แก้ว หรือแม้แต่ภาชนะที่มีส่วนประกอบของโลหะเพียงเล็กน้อย ไม่ควรนำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟ เพราะพื้นผิวของโลหะจะสะท้อนคลื่นความร้อน ซึ่งอาจทำให้เกิดประกายไฟ และทำให้ไมโครเวฟเสื่อมสภาพไวขึ้น 

  1. ภาชนะเคลือบ

ภาชนะที่มีการเคลือบลาย แม้จะเป็นภาชนะที่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ แต่ควรระวังให้ดี เพราะหากผลิตไม่ได้มาตรฐาน ลายที่เคลือบจะไม่ทนความร้อน และอาจละลายมาปนเปื้อนกับอาหารได้ 

วิธีใช้งานไมโครเวฟให้ปลอดภัย

ไมโครเวฟ
  1. ใช้ฝาครอบภาชนะอาหารก่อนนำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟทุกครั้ง และควรเป็นฝาที่มีรูระบายอากาศ เพื่อป้องกันไม่ให้ภาชนะภายในมีความร้อนมากเกินไป เพราะอาจเกิดระเบิดได้
  2. ตั้งไมโครเวฟในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก มีช่องว่างให้ระบายอากาศได้ทั้ง 4 ด้าน อย่าตั้งชิดฝาผนัง
  3. ไม่แนะนำให้อุ่นอาหารในไมโครเวฟโดยใช้ความร้อนสูงเกิน ควรใช้ความร้อนปานกลาง และเพิ่มระยะเวลาในการอุ่นให้นานขึ้น จะช่วยกระจายความร้อน และทำให้อาหารสุกได้ทั่วถึงกันมากกว่า 
  4. ใช้ถุงมือกันความร้อน หรือผ้าหนาๆ ก่อนหยิบอาหารออกจากไมโครเวฟทุกครั้ง
  5. ไม่อุ่นอาหารนานเกินไป เพราะอาจทำให้อาหารเดือดจนปะทุ แนะนำให้อุ่นช่วงสั้นๆ แล้วคอยเปิดเช็กว่าร้อนพอแล้วหรือยังจะดีกว่า 
  6. ใช้ภาชนะที่ระบุว่าสามารถนำเข้าไมโครเวฟได้เท่านั้น โดยสังเกตจากสัญลักษณ์ที่ฉลาก หรือที่ตัวบรรจุภัณฑ์
  7. ไม่นำสิ่งแปลกปลอม หรือวัสดุอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารเข้าอุ่นในไมโครเวฟโดยเด็ดขาด 
  8.  การทำความสะอาดไมโครเวฟ ภายในให้เช็ดด้วยผ้าแห้งนุ่มๆ ส่วนภายนอกอาจชุบด้วยน้ำสบู่เล็กน้อย ทิ้งไว้ให้แห้งสนิทก่อนใช้งานไมโครเวฟ
  9. การทำความสะอาดจานแก้วหรือจานหมุน ให้ถอดออกมาล้างด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำสบู่ เช็ดให้แห้งสนิท แล้วจึงใส่กลับเข้าไป
  10. อีกหนึ่งข้อที่ช่วยให้คุณสามารถใช้งานไมโครเวฟได้อย่างปลอดภัย คือการเลือกซื้อไมโครเวฟให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไปดูกันดีกว่าว่า ก่อนซื้อไมโครเวฟควรตัดสินใจเลือกจากอะไรบ้าง?

หลักการเลือกซื้อไมโครเวฟ

รูปภาพจาก https://th.sharp/products/r-219ex-k?v=1451

  • ขนาดของไมโครเวฟ : เลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ตั้ง หากอยู่หอ หรือคอนโดที่มีพื้นที่น้อย ก็ควรเลือกไมโครเวฟขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถตั้งโดยเว้นพื้นที่ระบายอากาศได้ 
  • ความจุของไมโครเวฟ : ความจุแปรผันกับขนาด ไมโครเวฟขนาดเล็กจะมีความจุประมาณ 20 ลิตร ซึ่งกำลังพอดีสำหรับคนที่อยู่หอ หรืออยู่คนเดียว แต่ถ้าต้องการซื้อไมโครเวฟสำหรับใช้งานที่บ้าน ควรเลือกที่ความจุตั้งแต่ 20 ลิตรขึ้นไป ส่วนไมโครเวฟขนาดใหญ่ที่มีความจุเยอะประมาณ 30 ลิตร จะเหมาะสำหรับร้านค้า หรือร้านสะดวกซื้อที่มีบริการอุ่นอาหาร
  • กำลังไฟของไมโครเวฟ : กำลังไฟของไมโครเวฟควรอยู่ที่ 700 – 800 วัตต์ ขึ้นไป จะอุ่นอาหารให้ร้อนได้รวดเร็ว
  • ฟังก์ชันการใช้งาน : นอกจากอุ่นอาหารแล้ว ไมโครเวฟบางรุ่นสามารถละลายน้ำแข็ง หรือมีระบบย่างสำหรับใช้ปรุงอาหารบางอย่างได้ แต่ราคาก็จะแพงขึ้น หากคิดว่าไม่ได้ใช้ ก็แนะนำให้เลือกแบบอุ่นอาหารเพียงอย่างเดียว จะใช้งานง่าย และประหยัดเงินได้มากกว่าค่ะ
  • ดีไซน์ และวัสดุ : ดีไซน์ของไมโครเวฟเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ เพราะไมโครเวฟสวยๆ ก็ถือเป็นของแต่งบ้าน แต่งห้องครัวไปในตัว แต่นอกจากดีไซน์แล้ว อย่าลืมโฟกัสที่วัสดุและความแข็งแรงทนทาน จะได้ใช้งานได้นาน และปลอดภัย
  • ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 : ไมโครเวฟเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานเยอะ และค่อนข้างกินไฟ หากใช้งานบ่อยๆ ก็ควรเลือกไมโครเวฟที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพื่อช่วยเซฟเงินในกระเป๋าจะดีกว่า
  • แบรนด์ที่น่าเชื่อถือ : ไมโครเวฟมีให้เลือกหลายรุ่น หลายแบรนด์ OfficeMate แนะนำให้เลือกซื้อจากแบรนด์ที่คุ้นตา และน่าเชื่อถือ เพื่อเป็นการการันตีว่าไมโครเวฟจะมีคุณภาพดี สามารถใช้งานได้ปลอดภัย นอกจากนั้น แบรนด์ส่วนใหญ่ยังมีประกันรองรับ จะสะดวกกว่าหากไมโครเวฟเกิดเสียหายระหว่างการใช้งาน ก็สามารถส่งซ่อม ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือส่งเคลมตามเงื่อนไขในประกันได้ทันที

ช้อปไมโครเวฟคุณภาพดี จากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Electrolux, Toshiba, Sharp และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมประกันสินค้า และค่าจัดส่งฟรี! คลิกเลยที่ OfficeMate 

ขอบคุณข้อมูลจาก