ใครที่เปิดบทความนี้คงต้องเป็นผู้ประสบปัญหาเหมือนกันแน่นอน ซึ่งปัญหาที่ว่ามาคือ ไม่รู้จะเลือกเครื่องมือช่างพื้นฐานอะไรบ้างที่ควรมีติดบ้านเอาไว้ใช้งาน เผื่ออนาคตอันใกล้จำเป็นจะต้องซ่อมแซม อุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถทำได้เองโดยไม่ต้องโทรเรียกช่างให้เสียเวลาและเสียเงิน

แต่ปัจจุบันนี้เครื่องมือช่างก็มีผลิตออกมามากมายหลายชนิด แต่ละชิ้นก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับงานที่แตกต่างกัน แถมมีหลากหลายเกรดอีกต่างหาก ใครที่ไม่ได้อยู่ในวงการงานช่างก็คงจะเกิดความสับสน ยิ่งหาข้อมูลก็ยิ่งเยอะ ยิ่งเยอะก็ยิ่งเลือกยาก จบด้วยการเรียกช่างมาซ่อมเหมือนเดิม วันนี้คุณมาถูกทางแล้ว…ออฟฟิศเมทได้รวบรวมเครื่องมือช่างพื้นฐานที่ควรมีติดบ้านมาไว้ให้ เพื่อแก้ปัญหานี้กันค่ะ

เครื่องมือช่างพื้นฐาน 12 ชิ้น ที่ควรมีติดบ้าน

ไขควง

ไขควง เป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานชนิดหนึ่งที่ใกล้ชิดเรามาก เพราะไขควงเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการขันและคลายสกรูหรือน็อตที่ติดมากับอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะตามตู้ โต๊ะ เก้าอี้ และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ดังนั้นไขควงจึงถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือช่างพื้นฐานที่ควรมีติดบ้านไว้

เวลาจะใช้งาน โดยปกติไขควงก็มีให้เลือกหลายขนาด แต่หลักการง่ายๆ ในการเลือกใช้ไขควง คือการเลือกปากไขควงให้เหมาะกับหัวสกรูที่เราจะขันหรือคลายนั่นเอง เพราะปัญหาที่พบบ่อยๆ คือการใช้ไขควงที่ไม่เหมาะกับหัวสกรู หรือเรียกง่ายๆ คือ มีไขควงอยู่อันเดียว ไขสกรูทุกแบบไปเลย ทำให้หัวสกรูพัง ไขไม่ออก เสียของ เสียเวลาอีกด้วยนะคะ ทั้งนี้การเลือกซื้อไขควงเป็นเซ็ท หรือ ชุดไขควงแบบเปลี่ยนหัวได้ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับมีไว้ที่บ้านนะคะ

นอกจากไขควงขันน็อตแล้ว แนะนำให้ซื้อไขควงลองไฟติดบ้านเอาไว้ สำหรับใช้ในการทดสอบกระแสไฟฟ้าหรือแรงดันไฟฟ้าในอุปกรรือิเล็กทรอนิกส์ ปลั๊กไฟ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ลักษณะทั่วไปของไขควงลองไฟมีหน้าตาเหมือนไขควงปกติ มีขนาดเล็ก ด้ามทำจากพลาสติกหรือแก้ว ด้านในมีหลอดไฟนีออนเพื่อแสดงเมื่อมีไฟไหลครบวงจร ปากเป็นโลหะแบน และมีปุ่มโลหะตรงปลายหรือมีคลิปหนีบปากกา

ไขควงลองไฟ
ไขควงลองไฟ

เมื่อใช้งานให้เอาปากไขควงแตะที่วัสดุที่ต้องการตรวจเช็คกระแสไฟ ก่อนเอานิ้วสัมผัสที่ปลายโลหะหรือคลิปหนีบที่อยู่อีกด้านของไขควง ไม่สวมรองเท้าและไม่ยืนอยู่บนพื้นที่เป็นฉนวนเพราะจะทำให้ไฟไม่ครบวงจร หลอดไฟนีออนด้านในไม่ติด ทำให้อ่านค่าไม่ได้ อีกประเด็นสำคัญในการเลือกซื้อหรือเลือกใช้ไขควงลองไฟ ควรดูที่ปริมาณกระแสไฟและชนิดกระแสไฟให้สอดคล้องกับกระแสไฟที่จะตรวจสอบทุกครั้งนะคะ

สว่าน

สว่านเป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานใช้ในงานขุดเจาะ เซาะรูร่อง หรือขันสกรูต่างๆ โดยใช้หลักการหมุน และกดแรงลงไปบนวัสดุ ควรมีติดบ้านไว้สำหรับใครที่ต้องการเจาะ หรือประกอบตู้ ชั้น โต๊ะ หรือแม้แต่เจาะรูแขวนกรอบรูปเพื่อตบแต่งบ้านก็ได้ สว่านจะมาคู่กับดอกสว่านขนาดต่างๆ เพื่อให้เราเลือกใช้กับงาน หรือขนาดของรูที่ต้องการ และมีเดือยที่มีน่าที่ในการจับยึดดอกสว่านให้ติดกับตัวสว่าน ออฟฟิศเมทขอแนะนำสว่านพื้นฐาน 2 ชนิดที่เจ้าของบ้านควรมีติดไว้ เป็นสว่านที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี่ในการทำงาน ช่วยทุ่นแรงและทำให้งานเสร็จไวขึ้น

  • สว่านไฟฟ้า เป็นสว่านที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำงานตามชื่อของมันนั่นเอง ใช้งานง่าย ราคาไม่สูงมาก เหมาะกับงานเจาะไม้ โลหะไม่หนามาก หรือพลาสติก และใช้ขันสกรู แต่ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้สว่านไฟฟ้าขันสกรูคือ สกรูอาจลึกเกินไปและกินเนื้อชิ้นงาน เพราะกำหนดแรงได้ยาก ทั้งนี้เนื่องจากกำลังวัตต์ไม่สูงมาก ไม่ควรนำไปใช้ในงานเจาะปูน อิฐ หรือหิน
  • สว่านไฟฟ้าไร้สายถือเป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานอีกอย่างที่ควรมีติดบ้าน เป็นสว่านแบบใช้พลังงานแบตเตอรี่ในการทำงานของเครื่อง เหมาะสำหรับการใช้งานนอกสถานที่หรือใช้งานในจุดที่ปลั๊กไฟเข้าไม่ถึง แถมสะดวกสบายกว่าสว่านไฟฟ้าเพราะไม่มีสายไฟมาเกะกะ เหมาะกับการใช้งานเจาะวัสดุไม่แข็งจนเกินไป เช่น ไม้ เหล็ก พลาสติก แต่จุดเด่นคือหลายๆ รุ่นมีระบบกำหนดความเร็วหรือแรงบิดได้ ทำให้เหมาะกับการใช้งานขันสกรู หรือขันน็อตมากกว่าสว่านไฟฟ้า ใช้เป็นเครื่องมือช่วยประกอบเฟอร์นิเจอร์ได้

คีม

คีมเป็นเครื่องมืองานช่างพื้นฐานที่ทำหน้าที่ในการจับยึด ตัด ดัด โค้ง งอ ชิ้นงาน โดยส่วนใหญ่ทำมาจากเหล็ก มีลักษณะคล้ายกรรไกร การเลือกใช้งานคีมก็ควรเลือกให้เหมาะกับงานเช่นกัน แต่ปัจจุบันมีคีมหลายชนิดที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น ทั้งใช้จับและตัดในคีมตัวเดียวกัน หรือคีมบางชนิดใช้จับยึด แต่สามารถปรับเลื่อนขนาดของปากคีมให้เหมาะกับงานได้ ออฟฟิศเมทเลือกคีมที่ควรมีติดบ้านมาให้ 3 ตัวด้วยกัน

คีม
คีม
  • คีมปากเฉียง เป็นคีมที่มีคมตัด เหมาะสำหรับการตัดลวดและสายไฟ ปากคีมมีความแข็งแรงพิเศษผลิตโดยใช้เทคนิคชุบแข็ง หรือการทำให้แข็งด้วยความร้อน ดังนั้นไม่ควรใช้งานกับชิ้นงานที่มีความร้อนเพราะจะทำให้ปากคีมเสียทรง
  • คีมปากแหลม คีมชนิดนี้มีหน้าที่ในการใช้จับ ยึดชิ้นงานเล็กๆ ที่ไม่ถนัดในการจับด้วยมือเปล่า บริเวณปากคีมมีฟันเรียงเพื่อเพิ่มความต้านทานในขณะจับชิ้นงานให้แน่นขึ้น
  • คีมปากจิ้งจก คีมอเนกประสงค์ ใช้งานได้ทั้งตัด ยึด และบีบชิ้นงานในอันเดียว

ประแจ

ประแจเป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานที่ใช้ในการจับน็อตที่มีหัวเป็นเหลี่ยม ไม่ว่าจะขันหรือคลายออกก็ตาม ทำมาจากเหล็กแข็งและทนทาน เพราะลักษณะการใช้งานจะต้องมีแรงดึงและดันเยอะ ความกว้างของปากประแจมีขนาดตามหัวน็อต สำหรับซื้อประแจไว้ติดบ้าน ออฟฟิศเมทแนะนำ 2 แบบนี้ค่ะ

  • ประแจปากแหวนด้านปากตายด้าน เป็นการรวมตัวกันของประแจ 2 ชนิดนั้นก็คือ ประแจปากตาย และประแจปากแหวน เพราะประแจทั้ง 2 ชนิดเหมาะกับการใช้งานที่ต่างกัน โดยประแจปากแหวน เหมาะกับงานขันน็อตหรือโบลท์ที่ต้องใช้แรงจับยึดเยอะ แต่จำเป็นต้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมจึงจะจับชิ้นงานได้ดี ส่วนประแจปากตาย เหมาะกับการขันน็อตที่ไม่ต้องใช้แรงมากนัก และไม่จำเป็นต้องกำหนดตำแหน่งให้พอเหมาะมากเหมือนประแจปากแหวน ดังนั้นการซื้อเครื่องมือช่างพื้นฐานอย่างประแจปากแหวนด้านปากตายด้านจึงเหมาะและคุ้มค่ากับการใช้งานเองที่บ้าน
  • ประแจเลื่อน เป็นประแจอีกชนิดที่เหมาะแก่การมีไว้ในเครื่องมือช่างพื้นฐานในบ้าน เพราะปากของประแจชนิดนี้สามารถปรับขนาดความกว้างได้ ทำให้สามารถใช้ขันน็อตได้หลายไซส์ โดยมีปากชิ้นหนึ่งตายตัว อีกชิ้นปรับเลื่อนได้ แต่สิ่งที่ต้องระวังขณะใช้งาน คือต้องคอยเช็คเสมอให้ปากล็อกกับหัวน็อตหรือโบลท์อย่างพอดี ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ประแจหลุดจากน็อตและเกิดความเสียหาย รวมถึงเกิดอันตรายกับผู้ใช้ได้

ค้อนหงอน

ค้อน
ค้อน

ค้อนหงอนเป็นเครื่องมือช่างชนิดค้อนพื้นฐานที่หลายๆ คนเคยเห็นกันมาบ้าง ส่วนใหญ่ใช้กับงานไม้ ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนหัวค้อน และส่วนด้ามค้อน ซึ่งส่วนหัวค้อนนั้นจะมีส่วนที่เป็นหน้าค้อน ใช้ในการตอกตะปู อีกด้านจะเป็นหงอนทำหน้าที่ในการงัด ดึงตะปู เครื่องมือช่างชนิดนี้แนะนำให้เลือกที่ซื้อแบบคุณภาพดี เนื่องจากปัญหาที่พบบ่อยจากการซื้อค้อนหงอนคุณภาพต่ำคือ หน้าค้อนบิ่น บุบเมื่อใช้งาน อาจทำให้เสียเวลา และเกิดความเสียหายต่อชิ้นงาน รวมถึงเศษค้อนที่บิ่นอาจทำให้ผู้ใช้เกิดอันตรายอีกด้วย

ตลับเมตร

เป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานที่จำเป็นต้องมีติดบ้านอย่างแน่นอน เพราะเราสามารถใช้งานได้กับงานเกือบทุกรูปแบบ ตลับเมตรเป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัด สามารถใช้ได้ทั้งวัดตัวชิ้นงานหรือวัดขนาดของพื้นที่ตามความต้องการ ควรเลือกแบบที่ดูทนทาน จับแล้วถนัดมือผู้ใช้ มีสายคล้องมือ หรือบางตัวอาจมีคลิปเพื่อใช้หนีบส่วนต่างๆ เช่น เข็มขัด สายวัดด้านในต้องชัดเจน อ่านค่าง่าย

เลื่อยตัดเหล็ก

เลื่อยตัดเหล็กใช้ในการตัดวัสดุต่างๆ ที่เราอาจต้องซ่อมแซมภายในบ้าน เช่น ท่อ PVC ท่ออลูมิเนียม แผ่นพลาสติก น็อต สกรู คันเลื่อยโค้ง สามารถเปลี่ยนใบเลื่อยได้ ไม่แนะนำให้ใช้เลื่อยไม้ เพราะจะเลื่อยได้ช้าเนื่องจากฟันของใบเลื่อยละเอียดกว่าเลื่อยที่ใช้ในงานไม้

บันได

บันไดทรงเอ
บันไดทรงเอ

บันไดสำหรับใช้งานซ่อมแซมในที่สูง เช่น เปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมประตู หน้าต่าง หรือติดตั้งต่อเติมบนผนังสูงๆ สำหรับซื้อติดบ้าน แนะนำบันไดทรงเอที่มีถาดสำหรับวางเครื่องมือ สามารถกางบันไดใช้งานได้ทันที ไม่จำเป็นต้องค้ำยันกับกำแพง มีความมั่นคงและปลอดภัยสูง

มีดคัตเตอร์

ถือเป็นอีกเครื่องมือช่างพื้นฐานที่ใช้งานได้บ่อย ทั้งตัดเทป หรือปอกสายไฟ แนะนำให้แยกจากมีดคัตเตอร์ที่ใช้กับกระดาษภายในบ้าน  เพื่อง่ายต่อการหยิบใช้งาน และปลอดภัย

เทปพันสายไฟ

เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการพันสายไฟในกรณีฉนวนที่ห่อหุ้มสายไฟชำรุด ทำจากพลาสติกที่ทนต่อความร้อน ยืดหยุ่นได้ เมื่อใช้งานควรดึงเทปให้ยืดก่อนพันลงบนสายไฟ เพื่อลดการเกิดฟองอากาศ พันรอบจุดที่ต้องการประมาณ 2-3 รอบ

เทปพันเกลียว

เทปพันเกลียวทำจากพลาสติกที่เหนียว ยืดหยุ่นได้ และทนความร้อน ใช้ในงานประปา สำหรับพันเกลียว ท่อน้ำประปา ทั้งท่อ PVC และท่อโลหะ ช่วยยึดต่อท่อได้อย่างแน่นหนา ช่วยให้น้ำไม่รั่วซึม

ถุงมือผ้า

ถุงมือผ้าอาจไม่ได้เป็นเครื่องมือช่างซะทีเดียว แต่เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้สำหรับป้องกันมือของผู้ใช้งาน เนื่องจากงานช่างส่วนใหญ่ต้องจับหรือสัมผัสกับวัสดุที่แหลม มีคม ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ได้รับบาดเจ็บ หรือถึงขั้นเสียนิ้วมือได้ เหมาะสำหรับงานช่าง ต่อเฟอร์นิเจอร์ หรือใช้สวมใส่ขณะทำสวน

ทีนี้ก็ได้คำตอบกันไปแล้วนะคะ ว่าเครื่องมือช่างพื้นฐานอะไรบ้างที่จำเป็นต้องซื้อติดบ้านไว้ นอกเหนือจากงานซ่อมแซมที่จะมีแล้ว วันไหนอยากดัดแปลงต่อเติมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถทำได้เองไม่ต้องเรียกช่าง ช่วยประหยัดเวลาและประหยัดเงินได้จริงๆ ค่ะ แล้วอย่าลืมหากล่องเครื่องมือดีๆ สำหรับจัดเก็บเครื่องมือช่างให้เป็นระเบียบ จะได้หยิบใช้งานง่าย ช่วยยืดอายุการใช้งาน ทั้งยังปลอดภัยอีกด้วย

แต่ถ้าใครนั่งอ่านบทความนี้และไม่รู้จะไปซื้อเครื่องมือช่างที่ไหนดี สามารถเข้ามาช้อปเครื่องมือช่าง ได้เลยที่เว็บไซต์ OfficeMate สะดวกสบายกว่าด้วยบริการจัดส่งฟรีถึงบ้าน เมื่อช้อปครบ 499 บาท!!