มือใหม่เลือกซื้อ ‘เครื่องกรองน้ำ’ แบบไหนดี?
เครื่องกรองน้ำ เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้ายอดฮิต ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน สำหรับใครกำลังมีความคิด อยากซื้อเครื่องกรองมาใช้งานในบ้าน วันนี้ OfficeMate รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับเครื่องกรองน้ำ รวมไปถึงหลักในการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำมาฝากกัน ไปดูกันเลยค่ะ
ทำไมควรใช้เครื่องกรองน้ำ?
น้ำประปาที่ใช้ในการอุปโภค หากปนเปื้อนสารเคมี โลหะหนัก หรือเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่มีประโยชน์ จะส่งผลต่อผิวหนัง อาจทำให้ผิวหนังแห้งลอก ยิ่งกับคนที่ผิวหนังบอบบาง อาจเกิดอาการผื่นอย่างรุนแรงได้ แต่หากคุณมีเครื่องกรองน้ำ ติดตั้งเอาไว้ที่บ้าน คุณจะได้ใช้น้ำประปาที่ผ่านการกรองจนสะอาดหมดจด ปราศจากกลิ่น สารเคมี โลหะหนัก รวมถึงจุลินทรีย์ที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ส่งผลเสียต่อผิวหนัง ทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น และเส้นผมนุ่ม เรียบตรงขึ้นได้ เพราะน้ำประปาที่ผ่านการกรองจนสะอาด จะมีความกระด้างน้อย ล้างคราบสบู่ และแชมพูได้สะอาดหมดจด ทั้งยังช่วยลดตะกรันน้ำ คงความสะอาดของก๊อกน้ำ และวาวล์น้ำเอาไว้ได้ นอกจากนั้น น้ำจากเครื่องกรองน้ำยังช่วยให้ซักผ้าได้สะอาดยิ่งขึ้น ขจัดฟองได้หมดจด ลดผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มตกค้างที่อาจทำให้มีกลิ่นเหม็นอับบนเสื้อผ้าได้
นอกจากการใช้น้ำจากเครื่องกรองน้ำเพื่ออุปโภคแล้ว ทุกวันนี้ในหลายๆ ครัวเรือนยังใช้เพื่อกรองน้ำประปาสำหรับบริโภคอีกด้วย
ซื้อน้ำขวดลิตร VS ใช้เครื่องกรองน้ำ
หมดยุครองน้ำฝนเอาไว้ดื่ม และน้ำประปาก็มีสิ่งปนเปื้อนมากเกินจะดื่มได้ หลายคนจึงเลือกซื้อน้ำขวดลิตรเป็นแพ็คๆ ตุนเอาไว้ดื่มแทน แต่รู้หรือไม่ว่า หากคุณใช้เครื่องกรองน้ำที่กรองน้ำประปาให้สะอาดจนสามารถดื่มได้นั้น จะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงไปได้มากกว่า…
หากคำนวณค่าน้ำดื่ม โดยคำนวณจากปริมาณน้ำที่ร่างกายมนุษย์ต้องการใน 1 วัน ประมาณ 1.5 ลิตร จะเท่ากับน้ำดื่ม 1 ขวดใหญ่ ซึ่งคิดเป็นเงินเฉลี่ยประมาณขวดละ 10 บาท นั่นแปลว่าใน 1 ปี เราควรดื่มน้ำขวดใหญ่ประมาณ 365 ขวด จะคิดเป็นเงินค่าน้ำดื่มถึง 3,650 บาทต่อคน ต่อปี ยิ่งถ้าอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ก็อาจจะต้องเสียเงินมากขึ้นไปอีก
แต่หากคุณใช้เครื่องกรองน้ำ ค่าใช้จ่ายสำหรับซื้อเครื่องกรองน้ำอย่างดี ที่ผลิตได้มาตรฐานสากล ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 หมื่นบาท รวมค่าไส้กรองที่ต้องเปลี่ยนอีกราวๆ 4,000 บาท แต่เครื่องกรองน้ำสามารถผลิตน้ำดื่มได้มากถึง 5,000 ลิตรต่อปี หรือเท่ากับน้ำดื่มบรรจุขวด 1.5 ลิตร จำนวน 3,000 ขวด จะเห็นได้ว่าการลงทุนกับเครื่องกรองน้ำเพียงหนึ่งครั้ง ได้ทั้งน้ำอุปโภคและบริโภค ใช้ได้นาน แถมใช้ร่วมกันได้หลายคน ทั้งยังสะอาด ปลอดภัย ช่วยลดการใช้พลาสติกลงได้อีกด้วย
เห็นประโยชน์ของเครื่องกรองน้ำกันไปขนาดนี้แล้ว ทีนี้ก็ไปรู้จักกับเครื่องกรองน้ำกันเลยดีกว่าค่ะ
เครื่องกรองน้ำมีกี่ประเภท?
เครื่องกรองน้ำระบบ Reverse Osmosis (RO)
เครื่องกรองน้ำระบบ RO เป็นเครื่องกรองน้ำที่มีความละเอียดในการกรองสูง ประกอบด้วยขั้นตอนการกรองละเอียดถึง 5 ขั้นตอน ด้วยกระบวนการกรองที่ซับซ้อน และไส้กรองที่มีประสิทธิภาพจึงสามารถกรองสิ่งปนเปื้อนในน้ำออกได้มากถึง 99.99% ช่วยให้น้ำสะอาดบริสุทธิ์ และสามารถใช้กรองน้ำประปาเค็มให้สะอาดขึ้นได้อีกด้วย แต่ด้วยความที่เป็นเครื่องกรองน้ำที่มีระบบการกรองแบบละเอียด หลายครั้งจึงกรองเอาแร่ธาตุในน้ำที่จำเป็นต่อร่างกายออกไปด้วยเช่นกัน
เครื่องกรองน้ำระบบ Ultra Violet (UV)
เครื่องกรองน้ำระบบ UV จะกรองสิ่งสกปรก เชื้อโรค และสารปนเปื้อนออกจากน้ำด้วยหลอดไฟที่ปล่อยแสง UV ซึ่งเป็นลำแสงมาตรฐานที่ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ทำให้น้ำสะอาดและบริสุทธิ์ ทั้งยังสามารถคงแร่ธาตุที่จำเป็นเอาไว้ได้ ทั้งยังสามารถซื้อไส้กรองมาเปลี่ยนเองได้ง่าย ถือเป็นเครื่องกรองน้ำที่เหมาะสำหรับใช้งานในครัวเรือน หรือในสำนักงาน
เครื่องกรองน้ำระบบ Ultre Filtration (UF)
เครื่องกรองน้ำระบบ UF เป็นเครื่องกรองน้ำที่ต่อยอดและพัฒนามาจากเครื่องกรองน้ำระบบ UV มีระบบการกรองทั้งหมด 4-5 ขั้นตอน และมีการเพิ่มไส้กรองที่เรียกว่า โพรเทคแบคทีเรีย มีลักษณะคล้ายเส้นใยสังเคราะห์ที่มีความละเอียดสูง ช่วยดักจับสิ่งแปลกปลอม เชื้อแบคทีเรีย และสามารถกรองสิ่งปนเปื้อนขนาดเล็กได้ถึง 0.01 ไมครอน ช่วยกรองน้ำให้สะอาดได้มากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยคงแร่ธาตุในน้ำดื่มเอาไว้ได้อีกด้วย
ชนิดของสารกรองและไส้กรองที่ใช้กับเครื่องกรองน้ำ
- สารกรองคาร์บอน
เป็นคาร์บอนธรรมชาติที่นิยมใช้มากที่สุดในเครื่องกรองน้ำทุกประเภท มีคุณสมบัติพิเศษ คือ ช่วยลดระดับคลอรีนในน้ำ กำจัดกลิ่นหรือรสชาติที่ไม่พึ่งประสงค์ และช่วยขจัดโลหะหนักที่ปนเปื้อนมากับน้ำประปาได้ มีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี
- สารกรองแอนทราไซต์
ถ่านหินคุณภาพสูง น้ำหนักเบา ช่วยขจัดตะกอน โคลนตม และสนิมเหล็ก ที่ปะปนมากับน้ำ มีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี
- สารกรองเรซิ่น
ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนประจุในน้ำ ช่วยลดความกระด้างของน้ำ ลดการเกิดตะกรันหรือหินปูน ทั้งยังช่วยดูดซับสีและกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ มีอายุการใช้งานประมาณ 6-8 เดือน
- สารกรองถ่านกัมมันต์
ถ่านกัมมันต์ หรือที่เรียกว่า แอคทีเวตเท็ด คาร์บอน (Activated carbon) เป็นไส้กรองจากธรรมชาติ มาจากการเผาถ่านไม้ภายใต้อุณหภูมิสูง โดยเผาในภาวะที่ปราศจากออกซิเจน เพื่อกำจัดสารประกอบต่างๆ ออก ได้มาเป็นก้อนคาร์บอนที่มีความบริสุทธิ์ มีคุณสมบัติช่วยกรองสี กลิ่น คลอรีน และโลหะหนักที่ปนเปื้อนมากับน้ำได้เป็นอย่างดี
- สารกรองทรายปะการัง
ช่วยเพิ่มค่า PH ในน้ำ ทำให้น้ำประปาไม่เป็นกรด ปลอดภัยต่อการใช้อุปโภคและบริโภค ภายในทรายปะการังยังมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างแคลเซียม น้ำที่ผ่านไส้กรองทรายปะการังจึงมีแคลเซียมไอออนปะปนมา ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงได้อีกด้วย
- ไส้กรองเยื่อ UF
เยื่อ UF เป็นเยื่อที่ประกอบไปด้วยรูพรุนขนาดเล็ก ซึ่งเล็กกว่าแบคทีเรียที่ขนาดเล็กที่สุด ไส้กรองเยื่อ UF จึงช่วยดักจับแบคทีเรียที่ปะปนอยู่ในน้ำ รวมถึงจุลินทรีย์และเชื้อไวรัสได้ มีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี
- ไส้กรอง PP
มีลักษณะเป็นเส้นใยโพลีไพรโพลีน ช่วยดักจับตะกอนหยาบชิ้นใหญ่ เศษขยะ สิ่งสกปรก ดิน โคลน และสารแขวนลอยที่ปะปนมากับน้ำ มีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน
- ไส้กรองจีบ
สำหรับกรองสิ่งปนเปื้อนขนาดใหญ่ อย่างก้อนกรวด ก้อนหิน ดิน ทราย รวมถึงสนิม มีความละเอียดในการกรองประมาณ 30 ไมครอน อายุการใช้งานอยู่ที่ 3-6 เดือน
- ไส้กรองเมมเบรน
ช่วยกรองสารละลายที่ปนเปื้อนมากับน้ำ รวมถึงเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย มีความละเอียดในการกรองมากถึง 0.0001 ไมครอน สามารถกรองน้ำเค็มให้จืดสนิทได้ อายุการใช้งานประมาณ 1 ปี -1 ปีครึ่ง
สารกรองและไส้กรองเหล่านี้ ควรเปลี่ยนให้บ่อยตามอายุการใช้งาน เพื่อความสะอาดและสุขอนามัยที่ดี เพราะสารกรองหรือไส้กรองที่ครบกำหนดการใช้งานนั้น จะเสื่อมสภาพ และประสิทธิภาพในการกรองลดลง น้ำที่ได้ก็จะไม่สะอาด แถมยังอาจปนเปื้อนได้อีกด้วย
มือใหม่เลือกซื้อเครื่องกรองน้ำแบบไหนดี?
ก่อนซื้อเครื่องกรองน้ำต้องพิจารณาสภาพของน้ำที่จะนำมากรอง
น้ำที่ใช้ในครัวเรือนแต่ละพื้นที่นั้นมีความแตกต่างกัน ก่อนซื้อเครื่องกรองน้ำจึงควรพิจารณาแหล่งน้ำ รวมไปถึงสภาพของน้ำที่จะใช้กรอง ว่าเป็นน้ำประปา น้ำบาดาล หรือน้ำฝน เพราะสิ่งปนเปื้อนในน้ำแต่ละชนิดนั้นแตกต่าง ตัวอย่างเช่น หากบ้านของคุณใช้น้ำบาดาล ซึ่งมีสิ่งปนเปื้อนเยอะกว่าน้ำประปาและน้ำฝน ก็ควรเลือกใช้เครื่องกรองน้ำและไส้กรองประสิทธิภาพสูง ที่สามารถกรองสิ่งเจือปนได้มากกว่า เป็นต้น
แต่โดยทั่วไปแล้ว การกรองน้ำประปาสำหรับใช้อุปโภค บริโภคในครัวเรือน สามารถใช้ได้ทั้งเครื่องกรองน้ำระบบ RO และ UF เพราะถือเป็นระบบของเครื่องกรองอน้ำที่ออกแบบมาสำหรับใช้กรองน้ำประปาโดยตรงนั่นเองค่ะ
พิจารณาขนาดของเครื่องกรองน้ำ
ขนาดของเครื่องกรองน้ำควรเลือกให้สัมพันธ์กับปริมาณการใช้น้ำและจำนวนสมาชิกในครอบครัว หากในแต่ละวันมีการใช้น้ำไม่มากและมีจำนวนสมาชิกในครอบครัวน้อย หรือใช้เฉพาะกรองน้ำดื่ม ก็ควรเลือกใช้เครื่องกรองน้ำขนาดเล็ก-ปานกลาง เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองน้ำโดยเปล่าประโยชน์และไม่ให้เครื่องกรองน้ำทำงานหนัก ช่วยลดค่าไฟลงได้ แต่ถ้าอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ หรือใช้เครื่องกรองน้ำสำหรับน้ำบริโภคและอุปโภค ก็สามารถเลือกใช้เครื่องกรองน้ำขนาดใหญ่ จะช่วยผลิตและกรองน้ำสะอาดได้มากกว่า
เลือกจากประเภทของเครื่องกรองน้ำ
จากที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า เครื่องกรองน้ำมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็ใช้ระบบการกรอง การติดตั้ง รวมไปถึงการดูแลรักษาต่างกัน ก่อนซื้อเครื่องกรองน้ำจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบ และเลือกให้ตอบโจทย์ตามความต้องการของตัวเองมากที่สุด
เลือกเครื่องกรองน้ำที่มีมาตรฐานรับรอง
สุดท้าย คือเลือกเครื่องกรองน้ำที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 ซึ่งเป็นการรับรองในส่วนกระบวนการผลิต เพื่อให้ได้เครื่องกรองน้ำที่มีคุณภาพ นอกจากนั้น อาจเลือกเครื่องกรองน้ำที่ผ่านการรับรองอื่นๆ เช่น Water Quality Association (WQA) การรับรองจากสมาคมคุณภาพน้ำดื่มแห่งสหรัฐอเมริกา หรือการรับรองมาตรฐานจากประเทศไทย Thailand Trusted Mark หรือมีตราสัญลักษณ์ของ NFS ที่ใช้ในการรับรองผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่ตรงตามมาตรฐานสากล
ได้ข้อมูลและเรื่องควรรู้เกี่ยวกับเครื่องกรองน้ำกันไปแบบจุกๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ และช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำที่ตรงใจและตอบโจทย์ได้นะคะ สุดท้ายนี้ OfficeMate เอง ก็จำหน่ายเครื่องกรองน้ำ พร้อมไส้กรองที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ทั้งยังมีการรับประกันสินค้า มีศูนย์บริการที่สามารถติดต่อได้ง่าย รับรองว่าสะดวกในการบำรุงรักษา ซ่อมแซม รวมไปถึงการเปลี่ยนไส้กรองแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก
5 เรื่องควรรู้ ก่อนไปเลือกซื้อสารกรองน้ำ และเครื่องกรองน้ำ
10 เทคนิคเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ ได้ถูกต้องแบบง่ายๆ พร้อมวิธีดูแลรักษาเบื้องต้น
