เหตุการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในชั้นบรรยากาศเพิ่มสูงขึ้นเกินมาตรฐาน พบได้บ่อยขึ้นในประเทศไทย หลายคนยังคงไม่เข้าใจว่า ทำไมฝุ่น PM 2.5 ถึงได้ถูกพูดถึงบ่อยๆ ว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานระมัดระวังการใช้ชีวิต งดกิจกรรมกลางแจ้งและสวมหน้ากากอนามัย วันนี้เราจะมาทำความรู้จักเจ้าฝุ่น PM 2.5 ให้ลึกขึ้น พร้อมเหตุผลว่าทำไมจึงควรป้องกันตัวเองจากเจ้าฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้ไปพร้อมๆ กันค่ะ

ฝุ่น PM 2.5 คืออะไร?

ฝุ่น PM 2.5 หรือ Particulate Matter ก็คือฝุ่นละอองปกตินี่แหละค่ะ ส่วนที่มาของ 2.5 ก็คือขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางเจ้าตัวฝุ่นละอองนี่เอง (ฝุ่นละอองที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน) ถ้าใครยังนึกไม่ออกว่าเจ้าฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็กแค่ไหน ให้ลองคิดถึงขนาดของเส้นผม ฝุ่นละออง PM 2.5 มีขนาดเท่ากับ 1 ใน 20 ส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ เรียกได้ว่าเล็กมากจริงๆ และด้วยขนาดที่เล็กจิ๋วของมันนี่เอง ฝุ่น PM 2.5 จึงเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้รวดเร็ว และสร้างผลกระทบให้กับคนที่สูดมันเข้าไปได้ง่ายขึ้น

ฝุ่น PM 2.5 มาจากไหน?

ฝุ่น PM 2.5

จริงๆ แล้วเหตุการณ์ปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นเกินเกณฑ์มาตรฐานเคยเกิดขึ้นในบ้านเรามาแล้วหลายครั้ง สาเหตุของปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นนี้เกิดจากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือสภาพการจราจรที่หนาแน่น โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าจำนวนมาก ในช่วงที่สภาพอากาศปิด แสงจากดวงอาทิตย์ส่องไม่ถึงพื้น หากการผลิตของภาคอุตสาหกรรมมีการเผาไหม้ที่ทำให้เกิดปริมาณฝุ่นละอองขึ้น ฝุ่นละอองเหล่านั้นก็จะไม่สามารถกระจายตัวในชั้นบรรยากาศได้  ทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า ปริมาณฝุ่นละอองจึงสูงขึ้นจนเกินเกณฑ์มาตรฐาน 

การที่มีฝุ่นละอองสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานแบบนี้ ทำให้เวลาที่เราหายใจเข้าไป  ฝุ่นละอองเหล่านั้นจะถูกพาเข้าสู่ทางเดินหายใจของเราด้วย แต่ฝุ่นละอองที่มีขนาดใหญ่จะถูกร่างกายของเรากรองออกไปด้วยน้ำมูก หรือขนจมูก แต่พอเจอเจ้าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 นี่แหละค่ะ เลยเกิดเป็นปัญหาใหญ่ขึ้น เพราะร่างกายของเราไม่สามารถกรองฝุ่นละอองชนิดนี้ได้ ทำให้เวลาที่เราหายใจเข้าไป ฝุ่นละอองขนาดเล็กเหล่านี้ก็จะเข้าสู่ทางเดินหายใจของเราเข้าไปสู่หลอดลม และปอด ตามลำดับ ซึ่งถ้ามีฝุ่นละอองเข้าไปในร่างกายของเราปริมาณมากก็จะส่งผลต่อสุขภาพตามมา

ผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน

ฝุ่น PM 2.5

ผลกระทบแบบเฉียบพลันจาก PM 2.5 คือ ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่างๆ ขึ้นได้ เช่น ไอ, จาม, น้ำมูกไหล, คลื่นไส้, อาเจียน มีอาการแสบจมูกและแสบคอ โดยเฉพาะคนที่เป็นภูมิแพ้ อาจมีอาการภูมิแพ้กำเริบได้  

ส่วนผลกระทบในระยะยาวจาก ฝุ่น PM 2.5 อาจทำให้ระบบทางเดินหายใจติดเชื้อ เกิดพังผืดที่ปอดจนส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของปอดได้ จากการศึกษาของ Institute for Health and Evaluation มหาวิทยาลัยวอชิงตัน พบว่า การมีฝุ่นละอองขนาดเล็กสะสมอยู่ในอวัยวะต่างๆ เป็นเวลานานเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและมะเร็งปอดได้

ด้วยผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกายของมนุษย์นี้ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO จึงได้ประกาศให้ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จัดอยู่ในกลุ่มที่ 1 ของสารก่อมะเร็ง ในปี พ.ศ.2556

เห็นไหมล่ะคะว่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 นั้นอันตรายมากจริงๆ บางคนที่ละเลยเรื่องนี้ไปอาจจะต้องกลับมาทบทวนตัวเองกันอีกครั้ง เพราะหากเผลอสูดหายใจเอาอากาศที่มีฝุ่น PM 2.5 เข้าไปในปริมาณมากจนฝุ่นละอองเหล่านั้นแพร่กระจายอยู่ในกระแสเลือด สะสมในอวัยวะต่างๆ เป็นเวลานาน อาจจะนำไปสู่การเป็นโรคร้ายแรงที่เราคาดไม่ถึงได้

วิธีรับมือในวันที่ฝุ่น PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน

ฝุ่น PM 2.5

ในวันที่ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน กลุ่มเสี่ยงที่สุด ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ รวมถึงคนที่เป็นภูมิแพ้ วิธีรับมือ คือ 

  • เช็กสภาพอากาศ และค่าฝุ่นละอองก่อนออกจากบ้าน ดาวน์โหลดแอปฯ เช็กค่าฝุ่น คลิก! 9 แอปพลิเคชั่นตรวจค่าฝุ่นละออง PM 2.5
  • หลีกเลี่ยงการออกนอกอาคาร โดยเฉพาะการออกกำลังกายในสวนสาธารณะ
  • เมื่ออยู่ในบ้านหรือในอาคาร ควรปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิด เพื่อป้องกัน PM 2.5 จากภายนอกแพร่เข้ามา
  • ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ภายในบ้าน ห้องนอน หรือในตัวอาคาร เพื่อช่วยกรองฝุ่นละออง และสิ่งแปลกปลอมในอากาศ
  • หากมีอาการแสบคอจากการสูดดมฝุ่น PM 2.5 ให้กลั้วคอด้วยน้ำเปล่า หรือน้ำเกลือ แล้วบ้วนทิ้ง 2-3 ครั้ง 
  • หากมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก คลื่นไส้ ให้รีบไปพบแพทย์ 
  • สำหรับผู้ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมภายนอกอาคารได้ ควรสวมใส่หน้ากากเผื่อป้องกันฝุ่นละออง ซึ่งควรเป็นหน้ากากที่ผลิตมาเพื่อป้องกันฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 โดยเฉพาะ

หน้ากากอนามัยแบบป้องกัน PM 2.5 ได้บ้าง? 

หน้ากากอนามัย N95

หน้ากาก N95

หน้ากากอนามัย N95 เป็นหน้ากากอนามัยที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันอนุภาคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้ มีประสิทธิภาพในการกรองเชื้อโรคขนาด 0.3 ไมครอนได้ถึง 95% โดยตัวหน้ากากจะครอบลงไปในบริเวณปากและจมูกของเราอย่างมิดชิด ทำให้ฝุ่นละออง เชื้อไวรัส หรือ สารปนเปื้อนไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ เรียกว่ามีประสิทธิภาพการป้องกันสูงกว่าหน้ากากอนามัยชนิดอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้เราปลอดภัยจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้

อ่านเพิ่มเติม : รวมหน้ากาก N95 พร้อมฝ่าวิกฤตฝุ่นละออง PM2.5 ในเมือง!

หากใครไม่สามารถหาซื้อหน้ากาก N95 มาใช้งานได้ สามารถใช้หน้ากาก KF94 หรือ KN95 ที่มีประสิทธิภาพการกรองใกล้เคียงหน้ากาก N95 หรือใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แบบกรอง 3 ชั้น แล้วรองด้วยกระดาษทิชชู่อีกสองชั้น ก็จะพอช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้เช่นกันค่ะ

ในขณะนี้ที่มีทั้งโรคระบาดและฝุ่นละออง ไม่แนะนำให้เลือกหน้ากากแบบมีวาล์ว แม้จะป้องกัน PM2.5 และช่วยให้หายใจสะดวกกว่า แต่ไม่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้ เพราะฉะนั้นการเลือกใช้หน้ากาก N95 ที่สามารถช่วยป้องกันได้ฝุ่น และเชื้อไวรัสจึงปลอดภัย และตอบโจทย์ที่สุดในยุคนี้

ปกป้องปอดของคุณและคนที่คุณรักด้วยหน้ากากอนามัยคุณภาพ รวมถึงเครื่องฟอกอากาศที่ช่วยให้อากาศใน้านสะอาดบริสุทธิ์ หายใจสบายขึ้น มีจำหน่ายแล้วที่เว็บไซต์ OfficeMate ช้อปก่อน ป้องกันก่อนที่จะสายเกินแก้ แถมช้อปวันนี้ ส่งฟรี! เมื่อช้อปครบ 499 บาท

บทความแนะนำ!

ข้อมูลจาก http://www.stou.ac.th/