ปลั๊กไฟที่ไหนๆ ก็หน้าตาเหมือนกันไปซะหมด หลายคนจึงซื้อมาใช้แบบไม่ได้ระวัง และละเลยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ซ่อนอยู่ แล้วเชื่อมั้ยคะว่าหลายๆ ครั้ง สาเหตุของอัคคีภัย ก็มาจากการใช้ปลั๊กไฟที่ไม่ได้มาตรฐานนี้เอง วันนี้ออฟฟิศเมทจะพาคุณไปดูว่าก่อนซื้อปลั๊กไฟมาใช้งานต้องเลือกที่อะไร และเราควรเลือกซื้อปลั๊กไฟแบบไหนดี ให้ปลอดภัย และใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ไปดูกันเลย

ปลั๊กไฟ มีแบบไหนให้เลือกบ้าง?

นอกจากปลั๊กไฟแบบยึดติดผนังที่ใช้กันตามอาคารบ้านเรือนแล้ว ยังมีปลั๊กไฟรูปแบบอื่นๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์เราอีกด้วย

รางปลั๊กไฟ

รางปลั๊กไฟ

รางปลั๊กไฟ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘ปลั๊กพ่วง’ ถือเป็นรูปแบบของปลั๊กไฟที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบัน เป็นปลั๊กไฟที่มาพร้อมสายไฟยาวหลายขนาด สำหรับให้เราต่อไฟจากปลั๊กไฟหลักในบ้านหรืออาคาร พ่วงไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้า สามารถเคลื่อนย้ายไปตามจุดต่างๆ ได้ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย เหมาะสำหรับใช้จ่ายไฟแบบ ‘ชั่วคราว’ 

ปลั๊กไฟแบบมีล้อเก็บสายไฟ

ปลั๊กไฟแบบมีล้อเก็บสายไฟ

ปลั๊กไฟแบบมีล้อเก็บสายไฟ ถือเป็นปลั๊กพ่วงอีกรูปแบบหนึ่ง มาพร้อมสายไฟยาวหลายเมตร และล้อ หรือโรลม้วนสาย ที่ช่วยให้เราเก็บสายไฟยาวๆ ได้ง่าย สามารถเคลื่อนย้ายไปใช้งานในที่ต่างๆ ได้ ทั้งยังลากสายไฟได้ยาวอีกด้วย เหมาะสำหรับใช้งานในบ้าน โรงงานอุตสาหกรรม และอาคารสำนักงาน

ปลั๊กไฟนานาชาติ

ปลั๊กไฟนานาชาติ (Universal Plug) หรือ Adapter อเนกประสงค์ ปลั๊กไฟอีกรูปแบบหนึ่ง เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ เพราะปลั๊กไฟนี้มาพร้อมเต้าเสียบหลายรูปแบบ ที่สามารถเสียบเข้าได้กับปลั๊กไฟในแต่ละทวีปทั่วโลก ไม่ว่าจะ อังกฤษ ยุโรป อเมริกา หรือออสเตรเลีย ใครที่เป็นสายเดินทางท่องเที่ยว มีปลั๊กไฟนานาชาติแบบพกพาติดตัวเอาไว้ ไม่ว่าจะไปพักหลับนอนที่โรงแรมไหน ก็สบายใจหายห่วงแน่นอน

เลือกซื้อปลั๊กไฟยังไงดี?

มาถึงการเลือกซื้อปลั๊กไฟกันบ้าง ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบปลั๊กไฟแบบไหน หรือยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ แต่ก่อนตัดสินใจซื้อ เราอยากให้คุณลองพิจารณาจากองค์ประกอบต่างๆ ดังนี้ค่ะ

มองหา มอก. ปลั๊กไฟ เป็นอันดับแรก

สิ่งแรกที่ต้องมองหาก่อนซื้อปลั๊กไฟ คือ เครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ มอก. เพื่อให้ได้ปลั๊กไฟ หรือปลั๊กพ่วงที่มีมาตรฐาน ในปัจจุบันเครื่องหมาย มอก. ของปลั๊กไฟยังแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ มอก. หัวปลั๊ก, มอก. เต้ารับ และ มอก. สายไฟ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ มอก. ปลั๊กไฟ คลิก รู้ก่อนซื้อ! มอก.ใหม่ ควบคุมปลั๊กพ่วง หมดห่วงเรื่องไฟฟ้าลัดวงจร ) ดังนั้น ก่อนซื้อมองหา มอก. และอ่านรายละเอียดบนฉลากให้ครบก่อนนะคะ     

ดูขนาดสายของปลั๊กไฟ

สายไฟของปลั๊กไฟ นอกจากดูที่มอก. แล้ว ควรพิจารณาไปถึงการใช้งานของเราด้วย เช่น หากเราต้องการปลั๊กไฟเอาไปต่อพ่วงกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟมาก ควรเลือกปลั๊กไฟที่มีสายไฟขนาดใหญ่ เพราะสายไฟขนาดใหญ่จะสามารถรองรับกระแสไฟได้ดีกว่านั่นเอง 

  • สายไฟขนาด 0.5 sqmm. เหมาะสำหรับใช้ต่อพ่วงได้ไม่เกิน 1,200 วัตต์
  • สายไฟขนาด 1.0 sqmm. เหมาะสำหรับใช้ต่อพ่วงได้ไม่เกิน 2,200 วัตต์

วัสดุที่ใช้ผลิตปลั๊กไฟ

วัสดุที่ใช้ผลิตปลั๊กไฟต้องเป็นวัสดุทนไฟ ไม่หลอมละลายหากปลั๊กไฟมีความร้อนสูง ไม่ลามไฟ และไม่ติดไฟ เช่น พลาสติก ABS, พลาสติก AVC หรือ พลาสติก PC ที่ทนความร้อน ทนแรงกระแทกได้ดี จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย ปลอดภัยกับชีวิตและทรัพย์สินมากกว่า  

ปลั๊กไฟแบบมีม่านเปิดปิด

ม่านเปิด-ปิดนี้จะอยู่บริเวณรูปลั๊กไฟของเต้ารับ ม่านเปิด-ปิด ถือเป็นม่านนิรภัย (Safety shutter) เหมาะกับบ้านที่มีเด็กเล็กๆ วัยกำลังซน ช่วยป้องกันเด็กเอานิ้วแหย่เข้าไปในรูปลั๊กไฟนั่นเอง นอกจากนั้น ยังช่วยป้องกันไม่ให้น้ำ หรือละอองน้ำ เข้าได้อีกด้วย

ปลั๊กไฟแบบมีม่านเปิด-ปิด

ฟังก์ชันเสริมอื่นๆ ของปลั๊กไฟ

นอกจากองค์ประกอบหลักๆ ในปัจจุบันปลั๊กไฟ หรือปลั๊กพ่วง ยังมีฟังก์ชันเสริมอื่นๆ ที่ช่วยให้เราใช้ง่ายได้สะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เช่น

  • สวิตช์เปิด-ปิด จะช่วยป้องกันไฟกระชากจากการถอดหรือเสียบปลั๊ก ทั้งยังช่วยประหยัดไฟ เพียงแค่ปิดสวิตช์เมื่อไม่ใช้งาน ไม่ต้องดึงปลั๊กออกทุกครั้ง ช่วยเซฟสายไฟไม่ให้บิดงอหรือหักจากแรงดึงได้อีกด้วย 
  • ปลั๊กไฟที่มีช่องเสียบ USB ช่วยให้ใช้งานได้หลากหลายและสะดวกมากยิ่งขึ้น 
  • ระบบป้องกันไฟกระชาก (Surge Protection) ช่วยปกป้องเครื่องใช้ไฟฟ้าจากปัญหาฟ้าผ่า
  • ระบบตรวจจับความร้อน ช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร

อีกเทคนิคเล็กๆ ในการเลือกซื้อปลั๊กไฟ ก็คือ ลอง ‘เขย่า’ ปลั๊กไฟเบาๆ หากเขย่าแล้วมีเสียงดังก็อกแก็ก อาจเป็นเพราะชิ้นส่วนด้านในหลุด เชื่อมติดมาไม่แน่น ก็ไม่ควรซื้อ เพราะอาจเกิดอันตรายภายหลังได้นะคะ

ใช้ปลั๊กไฟแบบถูกวิธี ปลอดภัยกว่า

เมื่อได้ปลั๊กไฟที่มีมาตรฐานมาแล้ว ก็ควรใช้ปลั๊กไฟแบบถูกวิธีเช่นกัน ไม่อย่างนั้น เครื่องหมายมอก. ก็อาจไม่ช่วยอะไรนะคะ… 

  • ดูกำลังไฟให้ดี ปลั๊กไฟแต่ละตัวนั้นรองรับกำลังไฟได้แตกต่างกัน ก่อนจะเสียบปลั๊กต่อพ่วงเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ ควรตรวจสอบกำลังไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้า และกำลังไฟที่ปลั๊กไฟสามารถรับได้ โดยเฉพาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟเยอะ เช่น เตารีด ตู้เย็น ไมโครเวฟ กระติกน้ำร้อน หรือไดร์ฟเป่าผม หากต้องต่อพ่วงกับปลั๊กไฟ ควรเสียบเพียง 1 ตัว ต่อปลั๊กไฟ 1 อัน หรือเพื่อความปลอดภัย ต่อเข้ากับปลั๊กไฟหลักของบ้านก็จะดีกว่าค่ะ  
  • ไม่อยู่บ้าน ถอดออกจะดีกว่า หากไม่อยู่บ้านนานๆ ควรดึงปลั๊กอุปกรณ์ต่อพ่วงออกจากปลั๊กไฟให้หมดจะดีกว่า เพื่อป้องกันปัญหาทางไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างที่ไม่อยู่บ้าน การถอดปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ายังช่วยประหยัดค่าไฟในกรณีที่ปลั๊กไฟของคุณไม่มีสวิตช์เปิด-ปิดอีกด้วยค่ะ 
ไม่ควรเสียบปลั๊กไฟต่อพ่วงกับอุปกรณ์จำนวนมาก
  • ไม่เสียบปลั๊กไฟต่อพ่วงอุปกรณ์จำนวนมาก หากปลั๊กไฟต่อพ่วงของคุณมีจำนวนเต้ารับ 4 ตัว คุณสามารถเสียบปลั๊กเครื่องต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ครบทั้ง 4 ช่องได้ แต่ต้องระวังอย่าให้กำลังไฟเกินกว่าที่ปลั๊กไฟจะรับได้ แต่ทางที่ดี อย่าเสียบใช้งานพร้อมกันหมดทุกช่องจะเซฟความปลอดภัยได้มากที่สุดนะคะ 
  • อย่าดัดแปลงรางปลั๊กไฟ รางปลั๊กไฟ หรือปลั๊กพ่วงนั้น ออกแบบมาสำหรับใช้งานแบบชั่วคราวเท่านั้น จึงไม่ควรดัดแปลงส่วนประกอบ หรือนำไปติดตั้งแบบถาวร ไม่ว่าจะเป็นการเดินสายไฟพาดผนังห้อง หรือฝังไว้ใต้พื้น เพราะอาจทำให้สายไฟ และปลั๊กไฟชำรุดเสียหาย เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้นั่นเอง

ปลั๊กไฟใช้มานาน ควรเปลี่ยนตอนไหนดี?

หลายคนมีปลั๊กไฟที่ใช้อยู่นานแล้ว และคิดว่าสามารถใช้ต่อไปได้เรื่อยๆ ตราบใดที่เสียบแล้วยังมีกระแสไฟอยู่ แต่นั้นไม่จริงเลย ปลั๊กไฟที่ใช้งานมาสักระยะ ควรหมั่นสังเกตความผิดปกติให้ดี เช่น เสียบปลั๊กแล้วเกิดประกายไฟ มีเสียงดังเหมือนไฟฟ้าช็อต เสียบแล้วปลั๊กหลวมไม่แน่น หรือต้องขยับตัวปลั๊กหลายครั้งกว่าไฟจะเข้า หากปลั๊กไฟของคุณมีอาการแบบนี้ นั่นแปลว่า ปลั๊กไฟของคุณถึงคราวหมดอายุการใช้งาน และควรเปลี่ยนปลั๊กไฟอันใหม่ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินนะคะ

ว่าแล้วก็ลองเขย่า ขยับ ตรวจเช็กสภาพปลั๊กไฟกันซักหน่อย ถ้าปลั๊กไฟของคุณชำรุด หรืออยากได้ปลั๊กไฟต่อพ่วงเพิ่มอีกจะได้ไม่ต้องต่อพ่วงอุปกรณ์หลายๆ อัน ร้านค้า OfficeMate ของเรา มีปลั๊กไฟคุณภาพดี มีมอก. และได้มาตรฐาน รอให้คุณเข้ามาช้อปในราคาพิเศษ แถมด้วยบริการส่งฟรีถึงหน้าบ้าน เมื่อช้อปครบ 499 อีกด้วย!!