ปัจจุบันนี้การแข่งขันในสังคมนับวันจะเริ่มทวีความดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์ต่างๆ ก็ไม่เป็นใจให้เราทำงานได้อย่างมีความสุขเท่าไหร่นัก ชาวออฟฟิศหลายคนต้องทำงานหนักมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความเครียดตามมา ยิ่งหากไม่สามารถทำงานให้เสร็จตามเป้าหมาย หรือเกิดความผิดพลาดขึ้น ก็จะยิ่งทำให้ความเครียดสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นเอากลับมาเครียดต่อที่บ้านด้วยอยู่หลายครั้ง ซึ่งก็ทำให้เกิดผลเสียต่างๆ ตามมามากมายเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด ทั้งโรคร้ายที่แฝงมากับความเครียด  หรือแม้แต่ความสัมพันธ์กับคนในบ้าน

โรคนอนไม่หลับ

โรคนอนไม่หลับจากความเครียด

โรคนอนไม่หลับเป็นโรคที่ชาวออฟฟิศหลายคนรู้จักกันดี เมื่อเกิดความเครียดมากๆ อันเนื่องมาจากสมองจะต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา ร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมนต่างๆ โดยเฉพาะฮอร์โมนคอร์ติซอล ที่ส่งผลในเรื่องของการนอนไม่หลับ ยิ่งเครียดมากก็จะยิ่งนอนหลับได้ยากมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนอาจถึงขั้นต้องพึ่งยานอนหลับ (และถ้าหากใช้ยานอนหลับเป็นประจำ ก็จะทำให้ไม่สามารถนอนได้ด้วยตัวเอง กลายเป็นโรคติดยานอนหลับที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต) เมื่อนอนไม่หลับมากๆ เข้า ไม่ได้พักผ่อนเพียงพอ ก็จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิต้านทานต่ำลง ก็เป็นเหตุให้เกิดโรคแฝงอื่นๆ อย่างเช่นโรคมะเร็งตามมาได้

ภาวะออฟฟิศซินโดรม

ภาวะออฟฟิศซินโดรมจากความเครียด

ภาวะออฟฟิศซินโดรม มักเกิดขึ้นกับชาวออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานอยู่ท่าเดียวเป็นเวลานาน และถ้าหากเกิดความเครียดร่วมด้วยก็จะมีอาการรุนแรงมากขึ้น โดยสามารถแบ่งออกได้ คือ อาการปวดหัวเรื้อรัง หรือจะเรียกว่าโรคไมเกรนก็ย่อมได้ ยิ่งถ้าทำงานหนัก ใช้สายตามาก บวกกับมีความเครียด ก็จะส่งผลให้อาการปวดหัวทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจกระทบกับการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน

นอกจากนั้น ยังมีอาการปวดกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณ คอ หลัง ไหล่ และข้อมือ ที่จะเกิดการอักเสบอย่างหนัก จนอาจถึงขั้นไม่สามารถใช้การได้ ต้องไปทำกายภาพบำบัดเพื่อยืดและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ คนที่เครียดอยู่กับเรื่องงานอาจเผลอนั่งติดโต๊ะในท่าเดิมตลอดเวลา ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อตึงเกร็ง และถ้าหอบเอางานกลับมาทำที่บ้าน กลับมานั่งทำงานในท่าเดิมๆ ก็จะยิ่งทำให้อาการปวดรุนแรงมากยิ่งขึ้น

โรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้าจากความเครียด

คงจะเห็นกันแล้วว่า ในปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้น ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากความเครียด และความกดดันจากการทำงาน ที่อาจทำให้เกิดการคาดหวังในตัวเองสูง เมื่อเกิดข้อผิดพลาด หรือไม่สามารถทำตามความคาดหวังของตัวเองได้ ก็จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเครียด และเริ่มเก็บตัวอยู่คนเดียว ไม่เข้าสังคมเหมือนที่เคยเป็น และถ้าหากไม่ได้รับการรักษา หรือไม่ได้รับความใส่ใจจากคนรอบข้างเท่าที่ควร ก็อาจถึงขั้นทำร้ายร่างกายตัวเองจนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

ทะเลาะเบาะแว้งกับคนในครอบครัว

ความเครียดอาจส่งผลให้เกิดทะเลาะเบาะแว้ง

ในส่วนของหัวข้อนี้อาจไม่เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ แต่ก็มีความรุนแรงพอสมควร โดยเฉพาะถ้าภายในครอบครัวมีผู้สูงอายุ หรือมีเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เพราะอาจสร้างความกระทบกระเทือนจิตใจ จนเป็นเหตุนำไปสู่ปัญหาต่างๆ อีกได้ ปัญหาที่เกิดจากความเครียดในการทำงานที่ส่งผลมาถึงครอบครัว สามารถจำแนกออกมาได้ดังต่อไปนี้

  • สนใจแต่เรื่องของตัวเองจนลืมสิ่งรอบข้าง – มีหลายคนมากๆ ที่เก็บเอาความเครียดจากการทำงานกลับบ้านมาด้วย และเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น จนไม่สนใจว่าสมาชิกในครอบครัวทำอะไรบ้าง หรือพูดจาอะไรกับตัวเองบ้าง เมื่อถูกทักท้วงก็จะเริ่มแสดงความหงุดหงิด โดยยกเรื่องความเครียดเรื่องงานมาอ้าง และอาจกลายเป็นการทะเลาะเบาะแว้งใหญ่โต
  • อารมณ์รุนแรงเมื่อคนในครอบครัวพูดไม่ถูกหู – ต่อเนื่องมาจากหัวข้อด้านบน คือ เมื่อถูกทักท้วง หรือมีการพูดจาอะไรที่ไม่เข้าหู หากระงับอารมณ์ไม่ได้ ก็จะเผลอแสดงอารมณ์รุนแรงด้วยการด่าทอ หรือทำลายข้าวของ ตามสภาวะความเครียดที่เกิดขึ้น ซึ่งก็อาจจะมีทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว ในกรณีนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาภายในครอบครัว
  • ไม่มีเวลาให้คนในครอบครัว ขาดความเอาใจใส่ และความผูกพันกันลดลง – เมื่อมีความเครียดมากๆ หลายๆ คนก็เลือกที่จะเฉยเมยกับบุคคลในครอบครัว ไม่รับรู้ ไม่เอาอะไรทั้งสิ้น ใครจะพูดอะไรก็ไม่สนใจ ทำให้ความสัมพันธ์ของครอบครัวอาจจะเริ่มสั่นคลอน และไม่อบอุ่นเหมือนที่เคยเป็น เมื่อถึงเวลาหนึ่งก็อาจทำให้เกิดความไม่สนิทใจที่จะพูดคุยเช่นเดิม

หลายคนคงจะเห็นแล้วว่า การเอาความเครียดจากการทำงานกลับมาที่บ้านด้วยนั้น ส่งผลให้เกิดอันตรายมากขนาดไหน เพราะฉะนั้นแล้ว ในแต่ละสัปดาห์ควรจัดตารางการทำงาน ลิสต์งานด่วน งานเร่ง งานสำคัญเอาไว้ลำดับต้นๆ และบริหารเวลาการทำงานให้ดี เพื่อให้งานแต่ละชิ้นเสร็จทันตามเป้า จะได้ไม่ต้องเหลืองานกลับมาทำที่บ้าน และไม่ว่าตอนนี้คุณจะทำงานอยู่ออฟฟิศ หรือทำงานที่บ้าน เมื่อหมดเวลางานแล้ว OfficeMate แนะนำให้ชัตดาวน์เรื่องงานไปพร้อมๆ กับชัตดาวน์คอมพิวเตอร์ ปล่อยวางความเครียดเรื่องงาน และกลับบ้านมาใช้เวลาส่วนตัว จะได้มี Work life balance ที่สมบูรณ์แบบ รับรองว่าจะส่งผลดีต่อชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวในระยะยาวแน่นอน!

จัดการกับความเครียด

อ่านเทคนิคจัดการกับความเครียดเพิ่มเติม!