รถยนต์นับเป็นปัจจัยที่สำคัญของใครหลาย ๆ คน ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เมื่อทำงานหาเงินได้ ก็มักจะเลือกที่จะมีรถเป็นสินทรัพย์อย่างแรกและก็เช่นกันกับที่ผู้ที่ต้องการซื้อรถส่วนมากก็จะใช้วิธีการ “เช่าซื้อ” แทนการซื้อด้วยเงินสด ผู้ที่อยากมีรถจึงต้องมองหา “สินเชื่อรถยนต์” เพื่อตอบสนองความต้องการในจุดนี้และนี่เองที่ทำให้ผู้เช่าซื้อต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยจากการคำนวณผ่อนรถไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ก็ตาม ดอกเบี้ยที่ว่าหนักหนาแล้วนั่นเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่จะตามมาหากเกิดการผิดสัญญา และนั่นเองที่ทำให้ผู้เช่าซื้อจำนวนไม่น้อย รู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมที่ตนได้รับแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้เพราะตัวสินเชื่อรถยนต์ก็ดี การคำนวณผ่อนรถก็ดี รวมถึงอัตราดอกเบี้ยรถที่ใช้กันมาแต่เดิมนั้นล้วนอยู่ภายใต้ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาในธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจควบคุมสัญญาทั้งฉบับแรกปี พ.ศ.2555 และ ฉบับที่ 2 ปี พ.ศ.2558 ผู้เช่าซื้อจึงต้องทนผ่อนรถภายใต้สัญญาและวิธีการคำนวณผ่อนรถที่ทางไฟแนนซ์กำหนดต่อไป

ภาครัฐตื่นตัว แก้ไขปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบ

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือ สคบ. ก็รับรู้ถึงความระทมของผู้เช่าซื้อตรงจุดนี้ จึงได้มีประกาศแก้ไขข้อกำหนดข้างต้นและประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 ให้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่ากันว่านี่คือประกาศที่ทำให้ผู้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักยานยนต์ได้ลืมตาอ้าปากเพราะมันช่วยปกป้องผลประโยชน์ของผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกัน ทั้งเรื่องดอกเบี้ยรถ สินเชื่อรถยนต์มากขึ้นกว่าเดิม เราจะมาดูกันว่าประกาศที่หลายคนว่าดีนั้นแท้ที่จริงแล้วใครจะได้ผลประโยชน์มากกว่ากัน เราตามไปดูกันเลย

 คำนวณดอกเบี้้ยรถใหม่

อัตราดอกเบี้ยรถใหม่กับการคำนวณผ่อนรถ ใครได้ประโยชน์?

อย่างแรกที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้และกับสัญญาสินเชื่อรถยนต์แบบใหม่ก็คือวิธีการคิดอัตราดอกเบี้ยซึ่งเดิมกำหนดให้การคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์เป็นแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2% เขาก็จะนำเอา 2% นี้มาคำนวณเป็นจำนวนเงินดอกเบี้ยที่คุณต้องเสียแล้วคูณกับจำนวนปีที่คุณตกลงผ่อนรถใหม่ของคุณ ในกรณีนี้ก็คือ สมมุตคุณซื้อรถในราคา 800,000 บาท (หักยอดดาวน์แล้ว) คุณต้องเสียดอกเบี้ย 16,000 บาท/ปี หากคุณตกลงจะผ่อนเป็นจำนวน 4  ปี เท่ากับคุณต้องเสียดอกเบี้ยทั้งสิ้น 64,000 บาท เมื่อนำไปรวมกับเงินต้นคุณจะได้ยอดรวมดอกเบี้ยเท่ากับ 864,000 บาท แล้วจึงนำไปหารเฉลี่ยจำนวนเดือนทั้งหมดนั่นเท่ากับว่าคุณต้องชำระค่างวดผ่อนรถใหม่ทั้งสิ้น 18,000 บาท เช่นนี้ไปจนจบสัญญา

แต่วิธีคำนวณผ่อนรถด้วยอัตราดอกเบี้ยรถใหม่กำหนดให้ไฟแนนซ์จะต้องคำนวณอัตราดอกเบี้ยด้วยวิธีลดต้นลดดอก (effective rate) คล้าย ๆ กับการผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน นั่นคือทุก ๆ เดือนที่มีการผ่อนชำระจะมีการคำนวณดอกเบี้ยใหม่ซึ่งคิดจากเงินต้นที่ลดลงทุกครั้ง นั่นทำให้วิธีคำนวณผ่อนรถด้วยอัตราดอกเบี้ยรถใหม่ ดอกเบี้ยที่คำนวณจะลดลงทุก ๆ เดือน นี่คือข้อแตกต่างอย่างแรกครับ

แต่ช้าก่อนหากคุณคิดว่าการคำนวณผ่อนรถวิธีนี้จะทำให้คุณแบกภาระดอกเบี้ยลดลงแล้วล่ะก็ คุณอาจคิดผิดเพราะหากคุณไปดูสัญญาสินเชื่อรถยนต์ก่อนประกาศฉบับนี้ไฟแนนซ์เขาก็โชว์ให้คุณดูทั้ง 2 แบบ ทั้งวิธีคิดแบบคงที่และลดต้นลดดอกและที่สำคัญอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกจะเท่ากับแบบคงที่คูณด้วย 1.8-2 นั่นแปลว่าไม่ว่าจะใช้ดอกเบี้ยรถเก่าหรือดอกเบี้ยรถใหม่คุณก็เสียดอกเบี้ยไม่ต่างกัน

คำนวณผ่อนรถแบบใหม่จะแสดงพลังเมื่อ “โปะ”!!!

พอถึงตรงนี้หลายคนคงตั้งคำถามว่าถ้าอัตราดอกเบี้ยรถใหม่ไม่ต่างจากเดิมจะคำนวณผ่อนรถแบบใหม่ทำไม วิธีการคิดแบบนี้จะมาสำแดงเดชเอาเมื่อคุณจะปิดยอดรถเร็วกว่ากำหนดหรือเรียกสั้น ๆ ว่า “โปะ” นี่แหละ เพราะถ้าเป็นแบบเดิมคุณจะต้องจ่ายยอดที่เหลือรวมดอกเบี้ยทั้งหมดที่คิดมาจากยอดเต็ม กลายเป็นว่าจะโปะหรือไม่โปะคุณก็ต้องเสียดอกเบี้ยเท่าเดิมแต่สำหรับประกาศฉบับใหม่เขากำหนดว่าถ้าคุณคิดจะโปะเพื่อปิดสัญญาสินเชื่อรถยนต์เขาจะให้ไฟแนนซ์คิดอัตราดอกเบี้ยด้วยอัตราลดต้นลดดอกด้วยการนำเงินต้นที่เหลือมาใช้คิดดอกเบี้ยและยิ่งกว่านั้นตัวประกาศยังกำหนดว่าดอกเบี้ยที่ได้ไฟแนนซ์ต้องลดให้คุณอีกไม่น้อยกว่า 50%  ถึงตรงนี้คุณคงยิ้มออกแล้วใช่ไหมครับขอแค่มีเงินโปะคุณก็ลดดอกเบี้ยได้เยอะเลย

และที่สำคัญในประกาศผ่อนรถใหม่นี้ กำหนดให้ไฟแนนซ์จะต้องทำตารางแจงแยกเงินต้น-ดอกเบี้ย วัน เดือน ปี ที่คุณชำระให้ชัดเจนอีกด้วย

ประกาศสัญญาสินเชื่อรถยนต์ใหม่คุ้มครองกรณีผิดสัญญา

ปัญหาน่าปวดหัวที่สุดในการผ่อนรถก็คือ เมื่อคุณผิดนัดชำระในประกาศฉบับเก่าไม่ได้คุ้มครองผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกัน หากคุณผิดนัดคุณก็ถูกยึด หากไฟแนนซ์เอาไปขายทอดตลาดคุณก็ไม่มีทางรู้เลยว่ารถของคุณไปอยู่ไหนแล้วและผลจากประกาศฉบับเดิม คนที่น่าสงสารที่สุดคือผู้ค้ำประกันเพราะหากผู้เช่าซื้อผิดนัด ผู้ค้ำประกันแทบไม่รู้เรื่องเลย กว่าจะรู้ตัวอีกทีใบแจ้งหนี้ก็มาถึงหน้าบ้านเสียแล้ว แต่ด้วยประกาศฉบับใหม่เขาไม่ยอมให้ไฟแนนซ์โขกสับคุณได้อีกต่อไป เริ่มตั้งแต่การคำนวณดอกเบี้ยในกรณีผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระ กำหนดให้ใช้อัตราดอกเบี้ยรถใหม่แบบลดต้นลดดอกมาใช้คำนวณและต้องไม่เกิน 15% เท่านั้น (ซึ่งจากเดิมจะบวกนู่นนี่นั่นจนดอกเบี้ยผิดนัดชำระพุ่งไปถึง 17% ก็มี)

ที่สำคัญกระบวนการยึดรถก็ละมุนละม่อมมากขึ้น หากผู้เช่าซื้อผิดนัด3 งวดขึ้นไป ทางไฟแนนซ์จะต้องทำหนังสือแจ้งภายใน 30 วัน และต้องส่งหนังสือแจ้งไปถึงผู้ค้ำประกันภายใน 60 วันเพื่อให้ผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันรับทราบก่อนจึงจะยึดรถได้

 ดอกเบี้ยรถใหม่

สัญญาสินเชื่อรถยนต์แบบใหม่ให้สิทธิ์ซื้อคืนและเปิดโอกาสให้ผู้เช่าซื้อรับรู้ก่อน

นอกจากนี้หลังการยึดรถแล้ว ทางไฟแนนซ์จะต้องแจ้งสิทธิ์การซื้อรถกลับคืนแก่ผู้เช่าซื้อภายใน 7 วัน หลังถูกยึดหากผู้เช่าซื้อไม่ประสงค์ใช้สิทธิ์ต้องแจ้งไปยังผู้ค้ำประกันภายใน 15 วัน หากไม่มีใครใช้สิทธิ์จึงอนุญาตให้ขายทอดตลาดได้

เมื่อต้องถึงขั้นตอนการขายทอดตลาด ทางไฟแนนซ์จะต้องแจ้งไปยังผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันล่วงหน้า 7 วัน และเมื่อสิ้นสุดก็ต้องแจ้งถึงผลการดำเนินงานภายหลังด้วย

สิ่งสำคัญในประกาศฉบับนี้คือไฟแนนซ์สามารถเก็บค่าธรรมเนียมการทวงถามได้ตามการใช้จ่ายจริงและห้ามเก็บค่าดำเนินการยึดรถโดยเด็ดขาด

ผู้ค้ำประกันรอดตาย ประกาศคุ้มครองจนถึงที่สุด

ในทุก ๆ สัญญาเช่าซื้อ คนค้ำประกันคือคนที่ดวงกุดที่สุดหากเกิดการผิดนัดชำระเพราะประกาศฉบับก่อน ผู้ค้ำประกันจะอยู่ในฐานะ “ลูกหนี้ร่วม” แต่จากประกาศสัญญาสินเชื่อรถยนต์ใหม่นี้ ผู้ค้ำประกันจะอยู่ในฐานะลูกหนี้ชั้น 2 เท่านั้น ทางไฟแนนซ์ต้องแจ้งรายละเอียดแก่ผู้ค้ำประกันให้ชัดเจนก่อนลงนาม และหากเกิดการผิดนัดชำระขึ้น ผู้ค้ำประกันมีสิทธิ์ผลักภาระการชำระหนี้กลับไปหาผู้เช่าซื้อได้ หากทราบว่าผู้เช่าซื้อสามารถชำระหนี้ได้ นอกจากว่าถึงที่สุดแล้วจริง ๆ ผู้ค้ำประกันจึงจะเป็นผู้รับผิดชอบหนี้นั้นแทน

การปรับอัตราดอกเบี้ยรถใหม่ไฟแนนซ์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้สบายจริงหรือ?

แม้ประกาศสินเชื่อรถยนต์ไม่มีการกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยก็จริง แต่สิ่งนี้ก็ไม่ใช่สาเหตุที่ไฟแนนซ์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะเหตุผลสำคัญที่ทางไฟแนนซ์ปรับอัตราดอกเบี้ยมาจากการปรับตัวของดอกเบี้ยที่ประกาศจากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งทำให้ต้นทุนการเงินที่ไฟแนนซ์แบกรับสูงขึ้น ไฟแนนซ์จึงต้องปรับอัตราดอกเบี้ยรถขึ้นในทุก ๆ สินเชื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการเงินนั่นเอง ไม่เฉพาะแต่สินเชื่อรถยนต์เท่านั้น เพราะฉะนั้นแม้จะมีการกำหนดหรือไม่กำหนดอัตราดอกเบี้ย หากต้นทุนดอกเบี้ยสูงขึ้นทางไฟแนนซ์ก็ต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอยู่ดี

บทสรุปประกาศสัญญาสินเชื่อรถยนต์ฉบับใหม่ใครได้ประโยชน์?

หากเอาข้อมูลจากประกาศที่ออกมาต้องยอมรับว่าประกาศฉบับใหม่นี้คุ้มครองให้ผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันไม่ถูกเอาเปรียบจากไฟแนนซ์มากจนเกินไป โดยเฉพาะในกรณีผิดนัดชำระ หากเป็นการผ่อนชำระตามปกติไม่ค่อยเห็นความแตกต่างจากเดิม ยกเว้นเฉพาะกรณีการปิดสัญญาเร็วกว่ากำหนดในเรื่องดอกเบี้ยที่ลดลงเท่านั้น

ในส่วนของไฟแนนซ์แทบไม่เห็นผลกระทบใด ๆ เพียงแต่ข้อบังคับจากประกาศควบคุมให้ไฟแนนซ์จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการยึดรถและการขายทอดตลาดให้เป็นระบบและโปร่งใสมากกว่าเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้อาศัยช่องโหว่มาเอาปรียบผู้เช่าซื้อมากจนเกินพอดีนั่นเอง ซึ่งหากทุกคนปฏิบัติตามโดยไม่ตีความหรือพยามยามบิดเบือนพลิกแพลงก็นับว่าประกาศสัญญาสินเชื่อรถยนต์ฉบับนี้เป็นประกาศที่ออกมาเพื่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง

อ่านบทความนี้จบ ทุกคนคงเข้าใจกฎหมายฉบับใหม่เกี่ยวกับการคำนวณอัตราดอกเบี้ยกันไปแล้ว ส่วนใครที่อยากมีรถใหม่แต่ยังไม่พร้อม รถเก่าที่บ้านก็ยังขับได้ ลองเปลี่ยนรถเก่าให้เป็นรถใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรถยนต์กันดีกว่า สามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ออฟฟิศเมทนะคะ พร้อมบริการจัดส่งฟรี*อีกด้วย