ไลฟ์สด (Live) กลายมาเป็นเทรนด์ใหม่ในตลาด e-Commerce ปัจจุบันนี้จำนวนการไลฟ์สดขายสินค้าของร้านค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้นกว่า 110% ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผู้คนส่วนใหญ่ใช้เวลากักตัวอยู่ที่บ้าน บวกกับคำสั่งให้ปิดหน้าร้านชั่วคราว พ่อค้าแม่ค้าหลายเจ้าจึงต้องหันมาพึ่งช่องทางออนไลน์ในการขายสินค้าเพื่อให้ธุรกิจยังดำเนินต่อไป แต่การเลื่อนดูสินค้าผ่านภาพนิ่งแบบ JPEG ก็ดูจะน่าเบื่อและจำเจ การไลฟ์สดขายของจึงกลายมาเป็นเทรนด์ใหม่ที่ช่วยสร้างสีสัน ช่วยดึงดูดลูกค้า และว่ากันว่าเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยปิดการขายและเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าออนไลน์ได้ดี

ทำไม การ Live ถึงช่วยเพิ่มยอดขายได้?

ส่วนหนึ่งที่การไลฟ์สดขายของสามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้ ก็เพราะลูกค้าได้เห็นสินค้าจริง ที่ไม่ผ่านการแต่งสีหรือปรับแต่งรูป ได้รู้คุณสมบัติของสินค้ามากขึ้นจากการบรรยายของแม่ค้าพ่อค้า ทั้งยังได้เห็นวิธีการใช้งานจริงๆ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวสินค้าได้มากกว่าการดูรูปและอ่านแค่แคปชั่น   

แต่ไม่ใช่ทุกร้านที่จะไลฟ์สดแล้วสามารถปิดการขายได้ เพราะในเมื่อทุกคนต่างใช้กลยุทธ์แบบเดียวกันนี้ เราจึงต้องมีเคล็ดลับเพื่อดึงลูกค้าหรือสร้างความแตกต่าง ไปดูกันดีกว่าค่ะว่า เราควร Live สดขายของยังไง ไม่ให้ลูกค้าปิดไลฟ์หนี แถมยังช่วยเพิ่มยอดออเดอร์ให้พุ่งกระฉูดได้ 

7 กลยุทธ์ไลฟ์สดขายของยังไง ให้ยอดออเดอร์พุ่งกระฉูด?

1.เตรียมสคริปต์ล่วงหน้า เพื่อการไลฟ์ขายของที่ไม่สะดุด

สำหรับร้านค้าออนไลน์ ก่อนลงขายสินค้าแต่ละชิ้น ต้องวางแผนตั้งแต่การถ่ายรูป แต่งรูป รวมไปถึงการคิดแคปชั่น ใส่ราคา และรายละเอียดสินค้าให้ครบ สังเกตได้เลยว่า ร้านไหนที่วางแผนมาดี มีรายละเอียดสินค้าครบ บอกราคาชัดเจน ย่อมขายได้มากกว่าร้านค้าที่ไม่มีการวางแผน ซึ่งการเตรียมสคริปต์ก่อนเปิด Live ก็ไม่ต่างจากการใส่แคปชั่น เพราะสคริปต์จะทำหน้าที่เป็นไกด์ให้คุณพรีเซนต์สินค้าและบริการของคุณได้อย่างลื่นไหลและเป็นธรรมชาติ สคริปต์ที่ดีสำหรับการไลฟ์ เราแนะนำให้คุณจัดลำดับเรื่องที่จะพูด เรียงลำดับสินค้าเอาไว้ให้ดี และจดโน้ตสั้นๆ เกี่ยวกับจุดเด่นรวมถึงจุดขายสำคัญของสินค้าแต่ละตัวเอาไว้ จะทำให้คุณส่งต่อข้อมูลของผลิตภัณฑ์ได้อย่างครบถ้วนไม่ตกหล่น ไม่ต้องมานั่งเสียดายหลังไลฟ์จบว่าลืมพูดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้นั่นเองค่ะ

2.ไลฟ์สดขายของให้ลื่นไหล อุปกรณ์และอินเทอร์เน็ตต้องพร้อมใช้

ไลฟ์ขายของ

นอกจากสินค้าและสคริปต์แล้ว ก่อนเปิด Live ก็ต้องเตรียมอุปกรณ์อื่นๆ สำหรับถ่ายทอดสดให้พร้อม อุปกรณ์ที่ต้องมีสำหรับการ Live คือ เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ อย่าง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุ๊ก ซึ่งจำเป็นต้องมีกล้องพร้อมไมโครโฟนในตัวและสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ อย่างที่สองคือ อินเทอร์เน็ตที่เร็วและแรงพอสมควร ถ้าอินเทอร์เน็ตของคุณไม่ดีพอ อาจทำให้ภาพไม่คมชัด เกิดการดีเลย์ เสียงมาก่อนภาพ การไลฟ์กระตุก ซึ่งจะทำให้ลูกค้าหงิดหงุดและปิดหนีก่อนที่คุณจะปิดการขายได้

และที่สำคัญควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับสื่อสารกับลูกค้าไว้ 2 เครื่อง เครื่องหนึ่งสำหรับการ Live และอีกเครื่องสำหรับสื่อสารกับลูกค้า เพื่อให้คุณตอบคำถามลูกค้าได้แบบ Real Time และป้องกันการตกหล่นของออเดอร์ได้อีกด้วย

ถ้าใครพอมีต้นทุน อาจหาอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อช่วยให้การไลฟ์ของคุณมีประสิทธิภาพและดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น เช่น โคมไฟไลฟ์สดหรือไฟสตูดิโอ สำหรับเพิ่มแสงให้ลูกค้าเห็นรายละเอียดสินค้ามากขึ้น ขาตั้งกล้องป้องกันการสั่น ไมโครโฟนแยก และชั้นวางของหรือราวแขวนเสื้อผ้า

3.แจ้งวัน-เวลา ไลฟ์ขายของล่วงหน้าให้ลูกค้ารับรู้ 

สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่าง ก่อนการ Live ขายของ ก็คือ แจ้งวันและเวลา Live ล่วงหน้า เพื่อให้ลูกค้ารับรู้ ทางที่ดีอาจแจ้งล่วงหน้าซัก 1 อาทิตย์และหมั่นย้ำเตือนความจำให้ลูกค้าบ่อยๆ จนกว่าจะถึงวัน Live การแจ้งเวลาล่วงหน้าจะช่วยให้ลูกค้าที่สนใจในสินค้าของเราได้มีเวลาเคลียร์คิว เพื่อเตรียมตัวดู Live โดยเฉพาะ หากอยู่ๆ คุณคิดอยากจะไลฟ์ก็ไลฟ์ขึ้นมาโดยไม่แจ้ง จำนวนคนดูอาจน้อย เพราะติดธุระและไม่ได้เตรียมตัว

นอกจากระบุวันเวลา Live แล้ว ควรใส่รายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการไลฟ์ หรือถ้ามีโปรโมชั่นพิเศษหรือของรางวัล ก็ใช้จังหวะนี้ในโปรโมท จะช่วยดึงให้คนเข้ามาดู Live ของเราได้มาขึ้นนั่นเองค่ะ

4.ไลฟ์ขายของให้น่าสนใจ ต้องงัดทักษะการพูดและสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ไลฟ์ขายของ

แม้ช่วงต้นของการ Live จะมีคนเข้ามาดูเยอะ แต่ถ้าการไลฟ์ของคุณน่าเบื่อก็จะทำให้คนกดปิดได้ไม่ยาก เทคนิคที่เราอยากแนะนำคือ ผู้ดำเนินการไลฟ์ ควรดึงทักษะการพูดและความเป็นแม่ค้าพ่อค้าออกมาให้ได้มากที่สุด พูดให้ชัดถ้อยชัดคำ ใช้น้ำเสียงในโทนที่น่าฟัง เพิ่มลีลา มีการใส่มุกตลกเฮฮาลงไปบ้าง และไม่เคอะเขิน ยิ่งถ้าคุณสามารถสร้างคาแรคเตอร์หรือเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้นมาได้ก็จะยิ่งดี เพราะจะทำให้ผู้ชมสนุกและอยากดูไลฟ์ของเราไปเรื่อยๆ แม้จะไม่ซื้อสินค้าในครั้งแรก แต่ก็ช่วยเพิ่มโอกาสให้คนเข้ามาดูซ้ำในไลฟ์ครั้งถัดไป เพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น และยังอาจเพิ่มจำนวนผู้ติดตามใหม่ๆ ได้อีกด้วย

ถ้าอยากสร้างความน่าสนใจมากขึ้น เราแนะนำให้สลับการขายสินค้าด้วยกิจกรรมสนุกๆ หรือมีการแจกของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคนที่เข้ามาดูไลฟ์ เช่นการตอบคำถามง่ายๆ แลกกับของรางวัล หรือมีการเปิดประมูลสินค้าภายในร้าน เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็ช่วยดึงคนให้อยู่กับเราจนจบการไลฟ์ แถมยังดึงลูกค้าไว้ในไลฟ์ครั้งหน้าได้อีกด้วยนะคะ

ทริคอีกอย่างให้การไลฟ์ไม่น่าเบื่อก็คือ เปิดเพลงคลอเบาๆ ระหว่างการไลฟ์ จะได้ไม่มีช่วงเงียบหรือเดดแอร์ เลือกเพลงให้เข้ากับบรรยากาศหรือเข้ากับตัวสินค้าที่ขาย แต่ต้องระวังไม่ให้เสียงเพลงดังเกินไปจนกลบเสียงของเราด้วยนะคะ

5.สร้าง Engagement กับลูกค้า

การสร้าง Engagement คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า สำหรับการ Live ขายของ สามารถสร้าง Engagement ได้ง่ายๆ ผ่านการทักทายกลุ่มผู้ชม หากมีผู้ชมที่เป็นแฟนตัวยงหรือเป็นลูกค้าประจำ แนะนำให้จำชื่อ และทักทายอย่างเป็นกันเอง จะช่วยสร้างความประทับใจได้มากเลยทีเดียวค่ะ

6.โชว์สินค้าทุกชิ้นที่มี พร้อมสาธิตวิธีการใช้

ไลฟ์ขายของ

สำหรับสินค้าที่ขายผ่านการ Live สด เราแนะนำให้หาวิธีการจัดวางสินค้าทุกชิ้นไว้ในเฟรมกล้อง ถ้าคุณขายเสื้อผ้า อาจหาราวมาแขวนเสื้อผ้าทุกตัวโชว์เป็นฉากหลัง หรือถ้าขายเครื่องสำอางค์ลองหาโต๊ะมาตั้งไว้ด้านหน้าให้ลูกค้ามองเห็นเครื่องสำอางค์ทุกชิ้น จะช่วยดึงดูดความสนใจ ให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าจริง แอบเล็งสินค้าที่อยากได้ไว้ในใจ และทำให้เกิดการซักถาม ซึ่งจะช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์การสั่งซื้อได้นั่นเอง ทั้งยังช่วยให้ผู้ขายเองหยิบสินค้าขึ้นมาโชว์ได้สะดวกไม่ต้องเสียเวลาหาหรือวิ่งเข้าวิ่งออกจากเฟรมกล้อง

อีกทริคที่ช่วยปิดการขายได้ดี ก็คือ การสาธิตวิธีการใช้ หากคุณขายสกินแคร์หรือเครื่องสำอางค์ก็ควรเทสต์สี เทสต์เนื้อผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าได้เห็น ถ้าขายเสื้อผ้าก็อาจสวมใส่เป็นตัวอย่าง หรือถ้าขายเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก็ควรมีการประกอบหรือสาธิตการเปิดปิด ทดลองฟีเจอร์ต่างๆ ให้เห็นภาพ จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

7.ไลฟ์ขายของอย่างสม่ำเสมอ ทำซ้ำๆ ในเวลาเดิมๆ

กลยุทธ์สุดท้าย คือ เมื่อเริ่มไลฟ์แล้ว ต้องหมั่นไลฟ์บ่อยๆ และไลฟ์ในเวลาเดิมๆ แต่คำว่าบ่อยในที่นี้อาจจะไม่บ่อยจนถึงขั้นไลฟ์ทุกวัน เพราะการขายสินค้าเดิมๆ พูดแบบเดิมๆ อาจจะทำให้ลูกค้าเบื่อได้ ทางที่ดีอาจ Live ขายของแค่อาทิตย์ละครั้ง หรือเลือก Live เฉพาะตอนมีสินค้าคอลเลคชั่นใหม่หรือมีโปรโมชัน จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้มากกว่าการขายสินค้าเดิมซ้ำไปซ้ำมา และควรเลือกไลฟ์ในวันเวลาเดิมๆ เช่น วันอาทิตย์ 2 ทุ่ม หรือ วันศุกร์สิ้นเดือน ให้ลูกค้าได้วางแผน ล็อกเวลาและเคลียร์คิวเพื่อมาดูไลฟ์ของเรานั่นเอง การทำอย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มกลุ่มผู้ติดตามและแสดงให้เห็นว่าร้านของเรายังมีตัวตน ยังมีการเคลื่อนไหว และไม่หายไปจากหน้าฟีดข่าวสารของลูกค้าอีกด้วย

ได้กลยุทธ์การ Live ขายของเพิ่มยอดออเดอร์กันไปแล้ว มาเพิ่มความคล่องตัวอีกขั้นให้ธุรกิจของคุณด้วยสินค้า Pack & Post คุณภาพดีจากออฟฟิศเมท ทั้งกล่องไปรษณีย์ ซองเอกสาร เทปกาว ที่ตัดเทปกาว กรรไกร มีดคัตเตอร์ เชือกฟาง รวมไปถึงบรรจุภัณฑ์อื่นๆ มากมาย ให้คุณแพ็คได้ครบทุกออเดอร์แบบไม่สะดุด ส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้แบบไม่เสียหาย ช้อปเลยที่ เว็บไซต์ OfficeMate  

0 CommentsClose Comments

Leave a comment