น้ำผึ้ง ผลผลิตจากธรรมชาติที่เป็นของโปรดของใครหลายๆ คน แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากความหอมหวาน น้ำผึ้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ วันนี้ OfficeMate จะพาคุณไปทำความรู้จักกับน้ำผึ้งให้มากขึ้นอีกนิด ไปดูกันว่านอกจากรสชาติแสนอร่อยแล้ว น้ำผึ้งยังมีดีอะไรอีกบ้าง

กว่าจะมาเป็น ‘น้ำผึ้ง’

น้ำผึ้ง คือ น้ำหวานจากดอกไม้ ได้มาจากการทำงานหนักของเหล่าผึ้งงาน กว่าจะได้น้ำผึ้งสัก 1 ลิตรกลับรัง ผึ้งงานอาจต้องเดินทางไกลหลายกิโลเมตร หรือบินไปกลับกว่า 20,000 ถึง 100,000 เที่ยว เมื่อพบแหล่งน้ำหวาน ผึ้งงานจะดูดน้ำหวานที่อยู่ตามโคนกลีบดอกไม้แล้วเก็บสะสมไว้ในกระเพาะ เมื่อน้ำหวานเข้าไปผสมกับน้ำย่อยหรือเอนไซม์ในกระเพาะก็จะแปรสภาพเปลี่ยนเป็นน้ำผึ้ง เมื่อกลับถึงรัง ผึ้งงานจะคายน้ำหวานที่เปลี่ยนสภาพแล้วแบบปากต่อปากกับผึ้งงานอีกตัวที่มีหน้าที่อยู่เฝ้ารัง จากนั้นจะนำไปเก็บไว้ในหลอดรวงน้ำผึ้ง แล้วปิดปากรูด้วยไขผึ้ง และเก็บน้ำผึ้งไว้เป็นอาหารของพวกมันเอง

การเก็บรังผึ้งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะใช้คบไฟไล่ตัวผึ้งออกก่อน แล้วจึงนำรังไปคั้นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากรังผึ้งธรรมชาติ คือ น้ำผึ้ง รวมถึงผึ้งที่เป็นตัวอ่อน และบางครั้งยังอาจมีเกสรดอกไม้ปนมาด้วย แต่ถ้าเป็นรังผึ้งจากฟาร์มเลี้ยงผึ้ง จะมีกรรมวิธีในการแยกตัวอ่อนและเกสรดอกไม้ออก จึงได้เป็นน้ำผึ้งบริสุทธิ์ สะอาด ปราศจากกากและสิ่งเจือปนต่างๆ สามารถเก็บได้นานกว่าน้ำผึ้งจากรังผึ้งธรรมชาติ แต่ถึงอย่างนั้น น้ำผึ้งจากรังผึ้งธรรมชาติก็ยังคงมีคุณภาพดีกว่าน้ำผึ้งที่ได้จากฟาร์ม

คุณประโยชน์ของ ‘น้ำผึ้ง’ ที่มีมากกว่าความหวาน

สารอาหารในน้ำผึ้งกว่าร้อยละ 80 คือคาร์โบไฮเดรตที่อยู่ในรูปของน้ำตาลฟรักโทสและน้ำตาลกลูโคส ที่เหลืออีกร้อยละ 20 คือ น้ำ กรดอะมิโน เอนไซม์ เกลือแร่ และวิตามินต่างๆ ไปดูกันดีกว่าค่ะว่าสารอาหารต่างๆ ที่อยู่ในน้ำผึ้ง มีประโยชน์กับร่างกายของเราอย่างไรบ้าง

น้ำผึ้งช่วยเพิ่มพลังงานและทำลายสิ่งแปลกปลอมที่เล็ดลอดเข้ามาในร่างกาย

น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะให้พลังงานประมาณ 60 แคลอรี การทานน้ำผึ้งจึงช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย เนื่องจากร่างกายสามารถดูดซึมน้ำตาลกลูโคสและฟรักโทสที่อยู่ในน้ำผึ้งและนำไปใช้ได้ทันที เหมาะกับนักกีฬาที่ต้องการพลังงานก่อนลงแข่งขัน น้ำตาลกลูโคสที่อยู่ในน้ำผึ้งยังมีส่วนช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน สามารถช่วยกำจัดและทำลายสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายได้อีกด้วย

น้ำผึ้งช่วยให้นอนหลับสบาย

สำหรับคนที่มีอาการนอนไม่หลับ กรดเดซิโนอิคในน้ำผึ้งจะช่วยคลายเครียดและทำให้คุณอารมณ์ดี การทานน้ำผึ้งก่อนนอนเพียง 1 ช้อนชาเล็กๆ หรือจะผสมน้ำอุ่นแล้วชงดื่ม ก็จะช่วยให้นอนหลับสบาย

น้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ

เอนไซม์ที่อยู่ในน้ำผึ้งมีประโยชน์สามารถย่อยสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตได้ น้ำผึ้งจึงมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยแก้อาการท้องผูกของเด็กและผู้สูงอายุ ส่วนคนวัยหนุ่มสาว ลองผสมน้ำผึ้ง มะนาว และน้ำอุ่น ชงดื่มก่อนนอน จะกระตุ้นการผลิตเมือกในลำไส้ ช่วยกำจัดสารพิษตกค้าง รับรองว่าตื่นมาตอนเช้าจะขับถ่ายสบายท้องแน่นอนค่ะ

น้ำผึ้งช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวพรรณอ่อนนุ่ม

ย้อนกลับไปในอดีต พระนางคลีโอพัตรา ใช้น้ำผึ้งเป็นเครื่องประทินโฉมและบำรุงผิวพรรณ ในปัจจุบันยังมีการนำน้ำผึ้งไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางค์หรือเวชภัณฑ์ชนิดต่างๆ ทั้งยังถูกนำไปใช้ในการรักษาโรคผิวหนัง เพราะน้ำผึ้งมีสารที่ชื่อว่า ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ ช่วยต่อต้านแบคทีเรีย กำจัดเชื้อโรคต่างๆ ได้โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อ

สารให้ความชุ่มชื้นในน้ำผึ้งมีประโยชน์ในเรื่องการต่อต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยให้ผิวพรรณอ่อนนุ่ม ปกป้องผิวจากรังสียูวี และช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้กับผิวหนังของเราได้

ประโยชน์ของน้ำผึ้งตามตำราแพทย์แผนไทย vs แพทย์แผนจีน

ตามตำราเภสัชกรรมไทย เชื่อว่าน้ำผึ้งช่วยแก้อาการสะอึก ลดไข้ ช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงธาตุต่างๆ ในร่างกาย ลดการอักเสบของแผล ดับกลิ่นแผล ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น และยังถือว่าน้ำผึ้งเป็นยาอายุวัฒนะ

ส่วนตำราจากแพทย์แผนจีน มีคัมภีร์ที่ชื่อว่า เปิ่น-เฉา-กัง-มู่ เขียนขึ้นโดยหลี่สือเจิน กล่าวไว้ว่า น้ำผึ้งมีคุณประโยชน์ 5 ประการ คือ ขับร้อน, บำรุงส่วนกลาง คือ กระเพาะอาหารและม้าม, ขับพิษ รักษาแผล, ลดความแห้งแก้ไอ และแก้ปวด ทั้งยังเชื่อว่าน้ำผึ้งที่มาจากเกสรดอกไม้ต่างชนิดกัน จะมีสรรพคุณต่างกันอีกด้วย เช่น

  • น้ำผึ้งจากเกสรดอกลำไย : ช่วยบำรุงเลือด บำรุงสมอง ช่วยเรื่องความจำ และทำให้นอนหลับ
  • น้ำผึ้งจากเกสรดอกลิ้นจี่ : กระตุ้นน้ำลาย แก้กระหาย ช่วยบำรุงไตและหัวใจ
  • น้ำผึ้งจากเกสรส้ม : ลดบวม ขับพิษ และแก้กระหายน้ำ เป็นต้น

‘น้ำผึ้ง’ ที่ดีที่สุดในโลก

ลักษณะของน้ำผึ้งที่ดีจะต้องข้นหนืด มีความใสและโปร่งแสง สะอาด ไม่มีตะกอนหรือสิ่งเจือปน ไม่มีไขผึ้ง ไม่มีฟอง กลิ่นต้องเป็นกลิ่นหอมของเกสรดอกไม้ ไม่เหม็นหืน หรือมีกลิ่นบูดเปรี้ยว แต่หากจะคัดเกรดน้ำผึ้งอย่างละเอียด ให้ดูที่ความชื้นหรือปริมาณน้ำที่ผสมอยู่ ถ้าน้ำผึ้งมีน้ำผสมอยู่น้อยกว่าร้อยละ 21 จะจัดว่าเป็นน้ำผึ้งที่อยู่ในเกรดดี อย่างน้ำผึ้งเดือน 5 ของไทยเรา ที่เป็นน้ำผึ้งในหน้าแล้ง ความชื้นจะน้อย น้ำผึ้งจึงมีความเข้มข้นมากนั่นเอง

แต่ถ้าถามถึงน้ำผึ้งที่ดีที่สุดในโลก ต้องยกให้น้ำผึ้งที่ได้จากดอกมานูก้า หรือ มานูก้าฮันนี่ (Manuka Honey) เป็นน้ำผึ้งธรรมชาติจากประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ความโดดเด่นของน้ำผึ้งดอกมานูก้าคือสีและรสชาติที่เข้มข้น ทั้งยังมีสาร UMF (Unique Manuka Factor) ซึ่งจะพบในดอกมานูก้าเท่านั้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสารนี้สามารถรักษาโรคผิวหนัง บำรุงผิว รักษาสิว ลดรอยเหี่ยวย่น และช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ น้ำผึ้งมานูก้ายังมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้ดีกว่าน้ำผึ้งชนิดอื่นๆ อีกด้วย

ประเทศไทยของเราก็มีน้ำผึ้งคุณภาพดีที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเช่นกัน คือ น้ำผึ้งดอกลำไยจากจังหวัดเชียงราย ซึ่งถือเป็นน้ำผึ้งคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย ผ่านการควบคุมและเก็บผลผลิตด้วยวิธีแบบธรรมชาติ มีกลิ่นหอมของดอกลำไยที่เป็นเอกลักษณ์และรสชาติหวานละมุน ถูกนำไปผลิตและบรรจุเพื่อจำหน่ายในหลายๆ แบรนด์ หนึ่งในนั้นคือ แบรนด์ดอยคำ ที่ใช้ผลผลิตน้ำผึ้งจากจังหวัดเชียงรายเช่นกัน

ใครอยากลิ้มลองรสชาติหวานหอมของน้ำผึ้งดอกลำไย สามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ดอยคำหรือร้านค้าดอยคำทุกสาขา และถ้าปีใหม่ปีนี้ยังไม่รู้จะมอบอะไรเป็นของขวัญปีใหม่ กระเช้าของขวัญดอยคำที่อัดแน่นไปด้วยสินค้าเพื่อสุขภาพ ทั้งน้ำผัก น้ำผลไม้ น้ำสมุนไพร รวมถึงน้ำผึ้งแท้ 100% จากดอกลำไย ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะคะ

ช้อปกระเช้าดอยคำ และกระเช้าของขวัญปีใหม่อื่นๆ ได้ที่ OfficeMate

0 CommentsClose Comments

Leave a comment