หลายคนอาจคุ้นเคยกับการใช้กระดาษ A4 ทั่วไปในการพิมพ์งาน และถ่ายเอกสาร แต่จริงๆ แล้ว ‘กระดาษ’ ในชีวิตประจำวันของเรา มีอยู่มากมายหลายชนิด และกระดาษแต่ละชนิดก็เหมาะสมกับงานพิมพ์คนละแบบ ดังนั้นคุณสมบัติของกระดาษแต่ชนิด คือสิ่งที่คนใช้กระดาษ โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจงานพิมพ์ควรรู้และเข้าใจ เพื่อที่จะสามารถเลือกประเภทของกระดาษให้เหมาะสมกับงานพิมพ์ได้มากที่สุด

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียน นักศึกษากำลังทำโปรเจคต์ เจ้าของธุรกิจงานพิมพ์ เจ้าของพ็อกเก็ตบุ๊คที่มองหากระดาษมาทำหนังสือ เจ้าของร้านอาหารที่กำลังมองหากระดาษไปปริ้นโปสเตอร์โปรโมท หรือทำบรรจุภัณฑ์ ฯลฯ OfficeMate หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ และช่วยให้คุณได้กระดาษไปพิมพ์งานสวยๆ กันนะคะ ไปดูกันเลย!

ชนิดของกระดาษ

กระดาษอาร์ต

กระดาษอาร์ต เป็นกระดาษเนื้อแน่นที่ผ่านการเคลือบผิวให้เรียบ มีทั้งแบบผิวเรียบด้านเดียวและแบบผิวเรียบทั้งสองด้าน สามารถแบ่งแยกย่อยออกไปได้อีกหลายประเภท ทั้งกระดาษอาร์ตมัน กระดาษอาร์ตด้าน กระดาษอาร์ตการ์ด เป็นต้น กระดาษอาร์ตเหมาะกับการพิมพ์สีหรืองานพิมพ์ที่เน้นความสวยงาม เช่น งานพิมพ์โปสเตอร์ โปสการ์ด ปกหนังสือ ใบปลิว บรรจุภัณฑ์ และแผ่นพับ เป็นต้น

กระดาษปอนด์

กระดาษปอนด์ คือกระดาษที่ผ่านการฟอก จึงอาจมีเศษผ้าปะปนอยู่ในเนื้อกระดาษ ทำให้ผิวกระดาษไม่เรียบ ราคาของกระดาษปอนด์ไม่สูงมาก เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการความคุ้มทุน รวมถึงงานพิมพ์ที่ต้องการความสวยงามในระดับปานกลาง เช่น แคตตาล็อก

กระดาษปรู๊ฟ

กระดาษปรู๊ฟเป็นกระดาษที่บางเบา สีขาวอมเหลือง คุณภาพต่ำ และราคาถูก เหมาะกับงานพิมพ์แบบใช้แล้วทิ้งหรือสิ่งพิมพ์ที่ไม่ต้องการการเก็บรักษา เช่น หนังสือพิมพ์

กระดาษถนอมสายตา

กระดาษถนอมสายตา เป็นกระดาษน้ำหนักเบา มีสีขาวหรือสีเหลืองนวล ไม่สะท้อนแสงไฟ จึงเรียกได้ว่าผลิตขึ้นมาเพื่อใช้กับงานพิมพ์หนังสือโดยเฉพาะ

กระดาษฟอกขาว

กระดาษฟอกขาว เป็นกระดาษคุณภาพดี เนื้อกระดาษมีความหนาแน่นสูง เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการความสวยงามอย่าง หนังสือและนิตยสาร

กระดาษเหนียว หรือ Kraft paper

กระดาษเหนียวเป็นกระดาษสีน้ำตาล มีความเหนียวมากเป็นพิเศษ จึงเหมาะกับงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์, กระดาษห่อ และถุงกระดาษ เป็นต้น

กระดาษลูกฟูก / กระดาษกล่อง

กระดาษลูกฟูกและกระดาษกล่องเป็นกระดาษที่มีความหนาและแข็ง ผิวด้านหนึ่งของกระดาษจะเป็นสีเทาหรือน้ำตาลคล้ำ อีกด้านหนึ่งเป็นสีขาวสำหรับงานพิมพ์ เหมาะกับงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์และกล่องลังบรรจุสินค้า

กระดาษพีวีซี

กระดาษพีวีซีเป็นกระดาษชนิดพิเศษ เนื้อเหนียว ทนทาน กันน้ำ ส่วนใหญ่ใช้กับงานพิมพ์นามบัตร

นอกจากนั้น ยังมีกระดาษที่เพิ่มลักษณะพิเศษเข้าไป เช่น เพิ่มความมันเงา ประกายมุข หรือเพิ่มกลิ่นหอม เพื่อให้เหมาะกับงานพิมพ์ที่ใช้ในโอกาสพิเศษ เช่น การ์ดแต่งงาน การ์ดอวยพรในวันพิเศษต่างๆ เป็นต้น

เจาะลึกคุณสมบัติของกระดาษ

นอกจากชนิดของกระดาษแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ผลิตงานพิมพ์ควรรู้ คือ คุณสมบัติต่างๆ ของกระดาษ เพราะกระดาษที่มีคุณสมบัติต่างกันก็จะเหมาะสมกับงานพิมพ์ที่ต่างกันออกไปด้วย

ความหนา

ความหนาของกระดาษ หรือมีชื่อเรียกในวงการว่า Caliper ความหนาจะมีส่งผลกับงานพิมพ์เป็นอย่างมาก เพราะหากเปลี่ยนความหนาเพียงเล็กน้อย รูปลักษณ์ของงานพิมพ์หรือผลิตภัณฑ์ก็จะเปลี่ยนไปจากที่ต้องการ

ความหนัก

ความหนักของกระดาษ หรือ แกรม (Gram) จะส่งผลไปถึงความหนาของกระดาษด้วย จำนวนแกรมที่เพิ่มขึ้นก็จะทำให้กระดาษมีความหนามากขึ้น หลายคนอาจนิยมใช้กระดาษที่มีจำนวนแกรมเยอะ โดยเฉพาะกับงานพิมพ์หนังสือ เพราะเชื่อว่าจะทำให้งานพิมพ์นั้นแข็งแรง ทนทาน และดูมีราคา แต่หนังสือที่ได้ก็จะมีน้ำหนักมาก ลำบากต่อผู้อ่านและมีราคาแพง ดังนั้นจึงควรกำหนดความหนักของกระดาษให้ไม่หนักเกินไป แล้วค่อยๆ เพิ่มคุณสมบัติในส่วนอื่นเข้ามาแทนที่ นอกจากนั้น ควรเลือกแกรมของกระดาษให้เหมาะกับเครื่องปริ้นเตอร์ด้วย เช่น เครื่องปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท จะรองรับกระดาษ 60-80 แกรม หากเกินกว่านั้น อาจทำให้เกิดปัญหาในการพิมพ์ เช่น กระดาษติดเครื่องปริ้นได้

ความฟู

สิ่งที่จะช่วยทำให้งานพิมพ์ดูหนาขึ้นได้ คือ ความฟูของกระดาษ ยิ่งกระดาษมีความฟูมากเท่าไหร่ ความหนาก็จะเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น โดยที่ความหนักยังคงเท่าเดิม การนำคุณสมบัติความฟูของกระดาษมาปรับใช้กับงานพิมพ์ สามารถทำได้โดยกำหนดความหนาของกระดาษให้คงที่ เลือกน้ำหนักของกระดาษให้เหมาะสม แล้วให้ความฟูเป็นตัวปรับความหนาของกระดาษแทน วิธีนี้จะช่วยลดต้นทุนการผลิต ทำให้ได้งานพิมพ์น้ำหนักเบา แต่ยังดูสวยงามนั่นเอง

ความสว่าง

ความสว่างของกระดาษจะขึ้นอยู่กับประเภทของงานพิมพ์ หากเป็นงานพิมพ์กราฟิกโฆษณา งานพิมพ์บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางค์ กระดาษที่มีความสว่างมากจะช่วยให้งานพิมพ์สีสดชัด สวยงาม และช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีได้ แต่ถ้าเป็นงานพิมพ์หนังสือ กระดาษที่มีความสว่างมากเกินไปจะทำให้ผู้อ่านปวดตาได้

โทนสี

โทนสีของกระดาษมักขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าเป็นส่วนใหญ่ ที่เห็นได้ชัดคือกระดาษโทนสีขาวนวลและสีครีมนวลจะนิยมใช้ในงานพิมพ์หนังสือและนิตยสาร แต่สำหรับธุรกิจงานพิมพ์แล้ว การมีกระดาษหลายๆ โทนสีเตรียมเอาไว้ จะช่วยเพิ่มทางเลือกและเพิ่มความประทับใจให้ลูกค้าที่มาใช้บริการที่ร้านได้นะคะ

ความทึบแสง

ความทึบแสงของกระดาษ ถือเป็นคุณสมบัติที่สำคัญและควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ เพราะหากกระดาษมีความทึบแสงน้อยจะทำให้ตัวหนังสือหรือกราฟิกจากอีกฝั่งหนึ่งทะลุมายังอีกฝั่งหนึ่งได้

ความแกร่ง

ความแกร่งของกระดาษสำคัญกับกระดาษที่ใช้ในงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ เพราะบรรจุภัณฑ์ต้องทำหน้าที่รับน้ำหนักของสินค้า จึงควรใช้กระดาษที่มีความแกร่งมาก แต่ความแกร่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับความหนาและน้ำหนักของกระดาษเสมอไป หลายครั้งที่กระดาษนั้นดูบางมาก แต่ฉีกขาดได้ยาก เพราะกระดาษมีความแกร่งสูง

ความเรียบ

ความเรียบของกระดาษส่งผลโดยตรงกับความสวยงามของงานพิมพ์ ยิ่งกระดาษมีความเรียบมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้กราฟิกหรือข้อความที่พิมพ์ลงไปชัดและสวยงามขึ้นเท่านั้น แต่ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

ผิวหน้า

ผิวหน้าของกระดาษ หรือ Surface มีให้เลือกใช้ทั้งแบบด้านและแบบมันเงา ขึ้นอยู่กับว่าต้องการงานพิมพ์ในลักษณะไหน ลูกค้าบางคนอาจชอบกระดาษแบบด้านเพราะมีความคลาสสิก ดูนุ่มนวล บางคนอาจชอบแบบมันเงาเพราะจะทำให้งานพิมพ์ดูแพง หรูหรา และมีระดับ เป็นต้น

เพื่อให้ได้งานพิมพ์มีคุณภาพและพัฒนาธุรกิจงานพิมพ์ของคุณให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น ผู้ประกอบธุรกิจงานพิมพ์ก็อย่าลืมคำนึงถึงคุณสมบัติและชนิดของกระดาษที่จะนำไปใช้ เพื่อให้ได้กระดาษที่เหมาะสมกับงานพิมพ์และตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุดนะคะ

ส่วนใครที่กำลังมองหากระดาษคุณภาพดีที่จะนำไปใช้กับงานพิมพ์ สามารถมาเลือกช้อปกระดาษที่ถูกใจได้ที่ OfficeMate ช้อปวันนี้ เราส่งให้ฟรี เพียงคุณสั่งซื้อครบ 499 บาท!

บทความแนะนำ!

0 CommentsClose Comments

Leave a comment